4 ส.ค.64 - นายชัยพร เกริกกุลธร อธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ โดยสำนักงานอัยการสูงสุด มอบหมายสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน รับดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านอรรถคดีแก่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ กรณีการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจากการที่นักเรียนถูกครูและครูพี่เลี้ยงกระทำทารุณกรรม
ภายหลังจากที่ได้ให้ความช่วยเหลือโดยจัดให้มีการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทหลายครั้งแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ว่า ตามที่คณะผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จำนวน 22 ราย ได้ยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 5 ต.ค.63 ขอให้ดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและช่วยเหลือทางคดีแพ่งเพื่อดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ โดยบริษัท แสงเงินพัฒนาการ จำกัด กรณีที่นักเรียน ถูกครูและครูพี่เลี้ยงกระทำทารุณกรรม นั้น อัยการสูงสุด ได้มอบหมายให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน หรือ สคช. เป็นผู้ดำเนินการ
โดยได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียนและผู้ปกครองโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ กรณีที่ถูกครูและครูพี่เลี้ยงกระทำทารุณกรรม ซึ่งต่อมาคณะทำงานฯ ได้จัดให้มีการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาททางแพ่งระหว่างคู่กรณีขึ้น โดยได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และยังได้ประสานทนายความอาสาของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค (สฝคผ.) ให้เข้าร่วมหารือและให้คำแนะนำแก่คณะผู้ปกครองในการไกล่เกลี่ยด้วย แต่ภายหลังจากที่คณะทำงานฯ ได้จัดให้มีการประชุมเจรจาร่วมกันแล้วหลายครั้ง ยังคงมีผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 8 ราย ที่ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ โดย บริษัท แสงเงินพัฒนาการ จำกัด ได้มีหนังสือถึง สคช. เพื่อแจ้งขอยุติการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาททางแพ่ง ด้วยเหตุว่าที่ประชุมของบริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ปกครองนักเรียนได้ เนื่องจากไม่มีเอกสารเกี่ยวกับประวัติการรักษาทางการแพทย์และเอกสารอื่นใดในการประกอบการพิจารณาของบริษัทฯ จึงขอให้ผู้เสียหายดำเนินการใช้สิทธิทางกฎหมายต่อไป
แม้ว่าต่อมาจะได้มีคำสั่งให้ยุติการให้ความช่วยเหลือไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทตามหนังสือฉบับดังกล่าวเนื่องจากถือว่าเป็นกรณีที่มีเหตุตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน พ.ศ.2562 แล้วก็ตาม
แต่ สคช. ยังคงเล็งเห็นว่ากรณีที่ผู้ปกครองเรียกร้องค่าเสียหายจากการที่นักเรียน ถูกครูและครูพี่เลี้ยงกระทำทารุณกรรมนั้นเป็นคดีทางแพ่ง และเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา และเป็นกรณีที่มีเหตุจำเป็นหรือเหตุอันสมควรที่สำนักงานอัยการสูงสุดจะรับไว้ช่วยเหลือได้ ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน พ.ศ.2562 ข้อ 32 (2) (ข)
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่เด็ก ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 22 ที่บัญญัติว่า การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใดให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญและไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม จึงได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค (สฝคผ.) รับไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านอรรถคดีแก่ผู้ปกครองทั้ง 8 ราย โดยจัดทนายความอาสาของ สฝคผ. เข้าช่วยเหลือเพื่อให้คำแนะนำปรึกษาการฟ้องคดีต่อศาล ตลอดจนการดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นศาลจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป ภายใต้การกำกับดูแลของอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค โดยผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |