12 มิ.ย.61- เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 มิ.ย.2561 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่วัดธาตุพระอารามหลวง ซึ่งตั้งอยู่ ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีการทุจริตเงินทอนวัด จากโครงการอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม ครั้งที่ 4 ซึ่งโรงเรียนวิเวกธรรมประสิทธิ์วิทยา วัดธาตุพระอารามหลวง เป็น1 ใน 60 แห่งทั่วประเทศ ที่พบข้อมูลว่า ได้รับเงินอุดหนุน กว่า 10,000,000 เมื่อปี พ.ศ.2556
ซึ่งจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ ของเจ้าหน้าที่ ปปป.เป็นเพียงการลงพื้นที่ เพื่อสอบปากคำผู้ที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากพบเส้นทางการเงิน ว่า มีงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โอนมาให้กับวัด โดยมีเจ้าหน้าระดับสูงของกองพระพุทธศาสนาศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้โอนเงินคืน โดยเหลือไว้ให้ทางวัดประมาณ 1 ล้านบาท โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ สอบปากคำ รักษาการเจ้าอาวาสวัดฯ ,ผู้อำนวยการโรงเรียนวิเวกธรรมฯ และ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังหรือสังเกตุการณ์การสอบสวนแต่อย่างใด
จากนั้น กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. ได้ลงพื้นที่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมวิสุทธาจารย์ วัดธาตุพระอารามหลวง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านหนองกอย ม.4 ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีการทุจริตเงินทอนวัด จากโครงการอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม ซึ่งศูนย์ปฏิบัติธรรมวิสุทธาจารย์ เป็นสาขาของวัดธาตุพระอารามหลวง ที่โรงเรียนวิเวกธรรมประสิทธิ์วิทยาตั้งอยู่ โดยมีนายสมศักดิ์ คุณเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมายประจำวัดฯ ร่วมรับฟังด้วย
นายสมศักดิ์ คุณเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมายประจำศูนย์ปฏิบัติธรรมวิสุทธาจารย์ วัดธาตุพระอารามหลวง กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติธรรมวิสุทธาจารย์ วัดธาตุพระอารามหลวง แห่งนี้ก่อสร้างเมื่อปี 2555 โดย ดร.พระเทพกิตติรังสี เจ้าอาวาสวัดธาตุ พระอารามหลวง ซึ่งมรณะภาพไปแล้ว ในที่ดิน เนื้อที่ 60 กว่าไร่ ที่มีผู้บริจาค ส่วนการสร้างอาคารสงฆ์ ก็มาจากเงินบริจาค จากผู้มีจิตศรัทธา ปัจจุบัน มีพระ และสามเณรอยู่ประจำศูนย์ฯทั้งหมด 12 รูป
ในปี 2556ได้มีการโอนเงินจากสำนักงานพระพุทธศาสนาโอนมาที่บัญชีของโรงเรียนวิเวกธรรมประสิทธิ์วิทยา วัดธาตุพระอารามหลวง ซึ่งมีพระครูศรีวิสุทธิวัฒน์ เป็น ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยมีการโอนมาทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 จำนวน 5,000,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 3,000,000 ครั้งที่ 3 จำนวน 10,000,000บาท โดยเป็นเงินที่ทางวัดไม่ได้ขอไปแต่อย่างใด แต่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งว่า เป็นเงินอุดหนุน เพื่อทำนุบำรุงด้านต่างๆ เงินแต่ละก้อนที่โอนมา ไม่เกิน 3 วัน จะมีเจ้าหน้าที่ ที่เป็นข้าราชการจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางมาที่วัด และขอเงินคืน โดยให้เหตุผลว่า ทางวัดยังไม่เดือดร้อนหรือขาดแคลน จึงขอเงินคืน เพื่อไปสนับสนุนวัดอื่นๆที่ขาดแคลน
โดยเงินก้อนแรกและก้อนที่สองรวมแล้ว จำนวน 8,000,000บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ทางวัดเบิกเงินสดคืนให้ทั้งหมด เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เงินแล้วก็กลับไป ครั้งสุดท้ายโอนมา 10,000,000 บาท ไม่ถึง 3 วัน เจ้าหน้าที่ก็มาขอเบิกเงินสดคืนไป 9,000,000 บาท เหลือในบัญชี 1,000,000 บาท ไว้ให้กับทางวัด ซึ่งทางวัดจึงนำมารวมกับเงินที่มีผู้บริจาค ร่วมกันสร้างกุฏิวิปัสสนากรรมฐาน ภายในศูนย์ปฏิบัติธรรมวิสุทธาจารย์แห่งนี้ไปแล้ว”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ปปป.ในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น เพราะทุกอย่างเป็นไปตามความเป็นจริง และการบริหารจัดการภายในวัดมีคณะกรรมการดูแลการเงินทั้งหมด ซึ่งทางวัดยินดีในการให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |