'อัษฎางค์' จับไต๋ 'ไพรวัลย์' งับเฟกนิวส์หวังผลการเมือง ทำบ่อยจนติดกับดักตัวเอง


เพิ่มเพื่อน    

4 ส.ค.64 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า สังคมไทยตอนนี้ ถ้าไม่ใช่สลิ่ม ก็เป็นสามกีบ แต่จะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญ พระสงฆ์ ต้องเป็น พระสงฆ์ พระสงฆ์ ซึ่งไม่ฝักใฝ่ทั้งการบ้านและการเมือง เพราะผู้ที่ฝักใฝ่ทั้งการบ้านและการเมือง เราไม่เรียกว่า พระสงฆ์ ท่านจะเป็นสลิ่มหรือสามกีบ มันเป็นเรื่องของท่าน ตราบใดที่ท่านไม่ใช่พระสงฆ์

ก่อนหน้านี้ นายอัษฎางค์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า นมัสการพระมหาไพรวัลย์ เนื่องจากเห็นท่านออกมา….(ผมจะใช้คำว่าอะไรดี) ขออนุญาตใช้คำว่า โอดครวญแล้วกัน ท่านออกมาโอดครวญ หลังจากถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ว่าท่านปล่อยข่าวปลอม ที่มีผลกระทบต่อสังคม โดยท่านออกมาแก้ตัวว่า ท่านไม่ได้ "มุสา"  ที่แปลว่า ท่านไม่มีเจตนา "โกหก" สังคม ด้วยการแชร์โพสต์ข่าวของสำนักข่าวเรื่องเล่าฯของช่องสามสี ที่มีเอกสารอ้างอิงจากทางราชการ ซึ่งนายอำเภอได้ออกมายอมรับว่า "เป็นการประเมินสถานการณ์ของตนเอง" ไม่ใช่เป็นข่าวกรองจากต้นทาง สปป.ลาว ซึ่งเอกสารชิ้นนี้เองที่เรื่องเล่าฯงับมาออกข่าว

อธิบายกันที่ละเรื่องแล้วกัน

1. เรื่องเล่าเช้านี้ เป็นรายการข่าวหรือสำนักข่าว สังกัดสถานีโทรทัศน์มีชื่อ หรือพูดสั้นๆ ว่า “เป็นสื่อหลัก” ที่มีผู้คนติดตามและให้ความเชื่อถือมายาวนาน
แต่ช่วงระยะหลังๆ เรื่องเล่าเช้านี้ รวมทั้ง”สื่อหลัก”อีกหลายสำนัก มักออกข่าว ที่บิดเบือนหรือคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง อย่างน่าเสียดาย และไม่น่าให้อภัย เพราะข่าวที่ออกมาอย่างผิดๆ มีผลกระทบต่อสังคมอย่างรุนแรง บางข่าว สร้างความเสียหายต่อรัฐบาล และที่ยิ่งไปกว่านั้น บางข่าว สร้างความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และความมั่นคงของชาติ

2. ลองสังเกตดูก็จะเห็นได้ไม่ยากว่า ข่าวในลักษณะนี้ จะมีนักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กระโดดงับอย่างรวดเร็ว โดยไม่เคยคิดจะตรวจสอบ
เพราะอะไร? คำตอบคือ มันเป็นข่าวที่อุดมไปด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง  ซึ่งอาจเป็นข่าวที่จะสร้างความเสียหายต่อรัฐบาล หรือแม้แต่ข่าวที่สร้างความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และความมั่นคงของชาติ แต่…มันจะเป็นข่าวที่เป็นผลดีต่อนักการเมืองและพรรคการเมือง

3. ดังนั้น เราก็จับสังเกตต่อไปได้อีกว่า…การที่ใครก็ตาม ที่ชอบรับลูกหรือกระโดดงับข่าวในลักษณะเดียวกันนี้ ย่อมได้รับอิทธิพลหรือมีความนิยม ในตัวนักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง คณะหรือพรรคการเมืองที่นิยมงับข่าวในลักษณะดังกล่าวนั้น คือนิยมงับข่าวที่อุดมไปด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง 

4. พระสงฆ์ คือผู้ปฏิญาณตนที่ละซึ่งกิเลสในทางโลก มุ่งสู่ทางธรรม โดยมีกิจวัตรที่มุ่งให้สำเร็จธรรมตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้นคือฝึกตนเพื่อละกิเลส และมุ่งไปสู่นิพพาน แต่พระสงฆ์ ผู้ที่นิยมกระโดดงับข่าว ที่เป็นข่าวในลักษณะเดียวกันกับที่นักการเมืองนิยมกระโดดงับ คือข่าวอุดมไปด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง ย่อมมีนัยยะที่จับสังเกตได้ไม่ยากว่า มีความฝักใฝ่ในทางการเมือง มากกว่าทางธรรม หรือไม่

ถ้าคำตอบของท่านคือ ท่านไม่มีจิตใจฝักใฝ่ทางการเมืองมากกว่าทางธรรม ดังนั้นคำถามต่อไปคือ ถ้าท่านเป็นผู้มีการศึกษา เป็นผู้รู้ เป็นอาจารย์ ทำไมท่านไม่มีสติสัมปชัญญะบ้างเลยหรือว่า ข่าวในลักษณะดังกล่าว เป็นข่าวที่จะสร้างความเสียหายต่อรัฐบาล ซึ่งมันจะสร้างผลประโยชน์ให้กับอีกขั้วการเมืองฝั่งตรงข้าม หรือพูคง่ายๆ คือมันเป็นข่าวที่อุดมไปด้วยผลประโยชน์ในทางการเมือง

ท่านเป็นพระสงฆ์ ท่านแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองหรือ?  ถ้าคำตอบคือ ไม่ใช่

คำถามต่อไป แล้วท่านจะแชร์ข่าวในลักษณะนี้ทำไม

พระสงฆ์น่าจะโพสต์หรือแชร์ธรรมะมิใช่หรือ? คำแก้ตัวว่า ท่านมิได้มุสา เพราะแชร์ข่าวจากสื่อหลักที่มีหนังสือรจากทางราชการอ้างอิง มันไม่ใช่คำตอบ ของสงฆ์ที่แชร์ข่าว ที่อุดมไปด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง แบบนี้

เรื่องเล่าเช้านี้ ช่องสามสี สส.เตี้ยหลังม็อบ อาจจะหวังหรือไม่หวังผลจากการเมือง จากข่าวที่อุดมไปด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งยังพอเข้าใจได้ว่า เขาเหล่านั้นมีกิจกรรมหรือภาระหน้าที่กับข่าวที่มีผลต่อการเมือง แต่พระสงฆ์เอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกับข่าวที่อุดมไปด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อผลประโยชน์อะไร?

เรื่องการเมือง เป็นเรื่องของทุกคนยกเว้น!!! พระสงฆ์ ถ้าพระสงฆ์อยากจะยุ่งเกี่ยวกับข่าวการเมือง หรืออยากยุ่งเกี่ยวกับทางโลก ก็ควรสละสมณเพศกลับมาสู่ทางโลก จะไม่มีใครห้ามท่าน ให้กระโดดงับข่าวที่อุดมไปด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง ที่มักเป็นข่าวที่สร้างความเสียหายต่อรัฐบาล หรือต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และความมั่นคงของชาติ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"