ชื่นชมแพทย์ชนบทที่เสียสละเสี่ยงภัย เข้ามาร่วมตรวจหาเชื้อโควิดในชุมชนแออัดกทม.


เพิ่มเพื่อน    

 

4 ส.ค.64 - ศ.นพ. ประกิต วาทีสาธกกิจ  เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เผยแพร่บทความ    เรื่อง ขอชื่นชมน้ำใจบุคลากรทางการแพทย์ชนบท มีเนื้อหาดังนี้

      ในนามของคนกรุงเทพและคนไทยคนหนึ่ง ขอชื่นชม ประทับใจและขอบคุณทีมหมอชนบท บุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศ ที่เสียสละ เสี่ยงภัยเข้ามาร่วมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในชุมชนแออัดในพื้นที่กทม และช่วยเหลือคนในชุมแออัดในปัญหาที่เขาประสบเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19

        ผมเคยดูข่าวการเข้ามาของหนุ่มสาวเหล่านี้ นอกจากจะระดมตรวจเชื้อโควิด-19 แล้ว ยังช่วยเหลือคนที่ผลการตรวจเป็นบวก จัดหายาที่จำเป็น เรื่องการแยกตัวในบ้าน ในชุมชน การจัดหาอาหารและสิ่งจำเป็นอื่นๆ

       ครั้งนี้เป็นปฏิบัติการครั้งที่ 3 มีผู้เข้าร่วม 40 ทีมรวมจำนวนกว่า 400 คนจากทั่วประเทศ

      ผมเห็นด้วยกับคุณหมอชูชัย ศุภวงศ์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบทและทีมงานบุคลากรแพทย์ชนบท ที่เคยจัดให้มีการวิ่งรณรงค์จาก 4 ภาคเข้ากทม ล่ารายชื่อส่งให้แก่ประธานรัฐสภาคุณชวน หลีกภัย เพื่อสร้างกระแสให้ประเทศไทยมีการออกกฎหมายควบคุมยาสูบ เมื่อ พศ 2530 ซึ่งการวิ่งรณรงค์ครั้งนั้น ส่งผลกระทบต่องานควบคุมยาสูบของประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้

      “… ว่า การปฏิบัติการของบุคลากรแพทย์ชนบทครั้งนี้ ไปไกลกว่า ที่รุ่นพี่ทำเมื่อ 30 กว่าปีก่อนมาก ผมเห็นด้วย 100%ครับ…”

        ปฏิบัติการครั้งนี้ไกลกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้เลย เพราะครั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์ ต้องสละเวลา เอาสุขภาพและชีวิตเข้าเสี่ยง ไม่ใช่เพียงการวิ่งรณรงค์สร้างกระแสเหมือนเมื่อ 30 กว่าปีก่อน

       จิตอาสาของคนหนุ่มสาวบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ รวมทั้งคนที่ไม่ได้มากรุงเทพ แต่ต้องมีภาระงานเพิ่มขึ้นในพื้นที่ เมื่อเพื่อนส่วนหนึ่งต้องร่วมขบวนมาช่วยที่กรุงเทพ เป็นเรื่องที่งดงามยิ่งนัก ในยามที่สังคมมีภัยใหญ่หลวงจากโรคระบาดโควิด-19

       กรุงเทพเป็นศูนย์กลางของการระบาด และจุดที่เปราะบางที่สุด คือชุมชนแออัด ที่เป็นคนยากจน ด้อยการศึกษา หาเช้ากินคำ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มากที่สุด มากกว่าประชากรกลุ่มอื่นๆ

         การเข้ามาเสริมช่วยเหลือแก้ปัญหาด้วยการเน้นที่ชุมชนแออัด ตามบทบาทที่หนุ่มสาวเหล่านี้ถนัด จึงเป็นเรื่องที่น่าสรรเสริญ เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด

         หวังว่าคนกรุงเทพเอง รวมทั้งหน่วยงานของกทมเอง จะรับรู้ถึงคุณค่าและความมีจิตสาธารณะของคนหนุ่มสาวจากทั่วประเทศที่มาร่วมปฏิบัติการช่วยกรุงเทพครั้งนี้

          ขอให้ถามตัวเองว่า แล้วเราคนกรุงเทพเองจะช่วยอะไรได้บ้างในการแก้ปัญหา/ลดการระบาดของโควิด-19ในกรุงเทพ

          และเราจะหันกลับมาศึกษาและมีวินัยในการปฏิบัติตัวอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันตัวเองและคนในบ้านไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19 และป้องกันไม่ให้ตัวเองเอาเชื้อไปแพร่ให้แก่คนอื่นในกรุงเทพได้อย่างไร

         เราจะพยายามขวนขวายที่จะไปฉีดวัคซีน ตัวไหนก็ได้ที่เราจะได้รับเร็วที่สุด

         เราจะลดอัตตา เลิกวิวาทะ เลิกทะเลาะกันในสิ่งที่เป็นความเห็นส่วนตัว สิ่งที่ยังเป็นข้อถกเถียง และอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา

         และเราจะช่วยในเรื่องอื่นๆที่เราจะช่วยได้ เพื่อลดการแพร่เชื้อโควิด-19 ในกรุงเทพให้ได้เร็วที่สุดได้อย่างไร

          เพราะถ้าเราคุมการระบาดที่กรุงเทพไม่ได้ เราก็จะควบคุมการระบาดในประเทศไทยไม่ได้

           และต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่ให้การสนับการปฏิบัติการของหนุมสาวเหล่านี้ ทั้งมูลนิธิแพทย์ชนบท สปสช. กระทรวงสาธารณสุข ชมรมแพทย์ชนบทและองค์กรอื่นๆ

          ขอชื่นชมและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ชนบท ที่เข้ามาปฏิบัติการช่วยแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในชุมชนแออัด กทมครั้งนี้อีกครั้งหนึ่ง

          ขอให้ทุกคนระวังรักษาตัวเอง และขอพระคุ้มครองทุกคนจากการติดเชื้อในการทำสิ่งที่ดีงามครั้งนี้

           ขอให้ทุกคนภูมิใจในสิ่งที่ได้ทำตอบแทนคุณแผ่นดิน



เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"