4 ส.ค.2564 นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 6 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) ว่ามีอัตราลดลงเมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน  1.7% โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ที่ลดลง 53.9% สำหรับการใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 0.2% แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ กลุ่มดีเซลลดลง 1.1% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 19.7% น้ำมันก๊าดเพิ่มขึ้น 0.7% ด้านก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) เพิ่มขึ้น 10.2% และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(เอ็นจีวี)  ลดลง 18.6%

โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนม.ค.-มิ.ย. 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.7 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย โดยปริมาณดังกล่าวเป็นระดับที่ต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ พบว่าปริมาณการใช้กลุ่มแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 29.0 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 0.5% โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 95 ที่เพิ่มขึ้นจาก 13.9 ล้านลิตรต่อวัน มาอยู่ที่ 15.2 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่การใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.7 ล้านลิตร/วัน

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือนมิ.ย. 64 พบว่าการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 29.2 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ที่อยู่ที่ 26.1 ล้านลิตรต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 12.2% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของทุกชนิดน้ำมัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น ประกอบกับประชาชนบางส่วนได้รับวัคซีน โดยตัวเลขการฉีดวัคซีนสะสมเข็มที่ 1 มีจำนวน 7.1 ล้านราย และเข็มที่ 2 มีจำนวน 2.8 ล้านราย นอกจากนี้ ในช่วงก่อนเดือนมิ.ย. ยังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ

ขณะที่การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.6 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 53.9% เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการเดินทางโดยเครื่องบิน  ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ส่วนการใช้แอลพีจี เฉลี่ยอยู่ที่ 16.5 ล้านกก.ต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.2% เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.3 ล้านกก.ต่อวันเพิ่มขึ้น 21.8% ส่วนการใช้เอ็นจีวี เฉลี่ยอยู่ที่ 3.3 ล้านกก.ต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 18.6% โดยเป็นผลต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถเอ็นจีวีที่ลดลง