2 ส.ค. 64 - นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ “แอชตัน อโศก” ซึ่งบริษัทเป็นพัฒนาและโอนห้องชุดพักอาศัยให้กับลูกบ้านไปแล้วนั้น ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นกับลูกค้าเป็นอย่างมาก รวมถึงสถาบันการเงิน นักลงทุน หรือแม้แต่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทในระยะสั้นก็ตาม โดยในช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับลูกค้า และสถาบันการเงินเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นมีความเข้าใจในความถูกต้องในการดำเนินการพัฒนาโครงการฯ ที่ทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน และบริษัทพร้อมที่จะต่อสู่คดีเพื่อได้รับความยุติธรรม
ทั้งนี้ บริษัทรับทราบถึงความเดือดร้อน ความเสียหาย ความทุกข์ใจของลูกบ้าน เจ้าของร่วม 578 ครอบครัว ที่พักอาศัยใน 666 ยูนิต ที่ได้เข้าอยู่อาศัยในโครงการมากว่า 2 ปี ซึ่งรวมถึงครอบครัวชาวต่างชาติอีก 140 ครอบครัว ที่ต้องแบกรับภาระต่างๆ รวมถึงผลกระทบอันเนื่องมาจากระยะเวลาในการพิจารณาตามกระบวนการของศาลปกครองสูงสุดซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานาน 3-5 ปี บริษัททราบและตระหนักถึงความยากลำบากที่ลูกบ้านเจ้าของร่วมต้องเผชิญ ซึ่งลูกบ้านที่เป็นเจ้าของร่วมทั้งหมดที่ซื้อโครงการฯ ยังยืนยันที่จะอยู่อาศัยในโครงการดังกล่าวต่อไป
"เราให้คำมั่นว่าจะยืนหยัดเคียงข้างต่อสู้ไปด้วยกันกับลูกบ้านเจ้าของร่วมและจะสู้อย่างเต็มกำลังความสามารถจนถึงที่สุด และมั่นใจว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน และจะได้ใช้ชีวิตปกติสุขในโครงการสืบไป ต้องยอมรับว่าส่วนตัวแล้วนอนไม่หลับเหมือนลูกบ้านทุกคนที่ต้องมาเผชิญเรื่องแบบนี้ ซึ่งโครงการนี้เป็นเหมือนเรือธงของบริษัท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนมาเสียบหัวใจเรา คิดอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรดี ต้องพยายามหาทางแก้ปัญหาที่ยังไม่จบสักที" นายชานนท์ กล่าว
สำหรับนักลงทุนนั้นบริษัทได้เริ่มมีการแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯให้ทราบถึงการดำเนินงานการก่อสร้างโครงดังกล่าวอย่างถูกต้อง และเดินหน้าต่อสู้คดีในการเตรียมยื่นอุทธรณ์ภายในระยะเวลา 30 วัน เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับบริษัท และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่อตัวของบริษัทเองที่ดำเนินการตามถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ โดยที่ในส่วนของผลกระทบดังกล่าวจะกระทบต่อการออกหุ้นกู้ชุดล่าสุดของบริษัท 2 ชุด ในช่วงต้นเดือนส.ค. 64 วงเงินรวม 6 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเลื่อนการเสนอขายออกไป 1 สัปดาห์ เพื่อให้บริษัททำความเข้าใจกับนักลงทุนที่สนใจซื้อหุ้นกู้ของบริษัท เพื่อสร้างความมั่นใจในตัวของบริษัทให้แก่นักลงทุนเชื่อถือและมองเห็นโอกาสในการลงทุนอยู่
ด้านพันธมิตรญี่ปุ่นที่ร่วมกันพัฒนาโครงการดังกล่าว และอีกหลายๆโครงการร่วมกับบริษัท คือ บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด ได้มีการสอบถามเข้ามากับทางบริษัทในเรื่องที่เกิดขึ้น และบริษัทได้มีการชี้แจงตอบข้อสงสัยต่างๆ ให้ทางพันธมิตรญี่ปุ่นได้ทราบ ซึ่งทางพันธมิตรญี่ปุ่นก็ได้เข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังมีความไม่เข้าใจในข้อกฎหมายของประเทศไทยอยู่บ้างเล็กน้อย เนื่องจากกฎหมายในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ซึ่งพันธมิตรญี่ปุ่นยังมีความเชื่อมั่นในกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างของบริษัทที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง
นายชานนท์ กล่าวว่า บริษัทและทีมกฎหมายอยู่ระหว่างการเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และจะขอคำปรึกษาและความร่วมมือกับสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยและสมาคมอาคารชุดไทย เพื่อขอคำแนะนำช่วยหาทางออกในประเด็นดังกล่าวที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 61 แม้ว่าในส่วนของที่บริษัทได้ดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างโครงการไปแล้ว และยืนยันทำถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน และไม่ขัดต่อพ.ร.บ.เวรคืน ในส่วนของที่ดินที่เป็นทางออก ซึ่งเป็นที่ดินของการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งเป็นที่ดินทางเข้าออกของโครงการและที่จอดรถของรฟม. กว้าง 6 เมตร บนถนนอโศก
สำหรับที่ดินที่เป็นข้อพิพาทของโครงการแอชตัน อโศก ตาม พ.ร.บ.เวนคืนที่ดิน สามารถนำมาใช้ในการประกอบธุรกิจที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ได้ และทางบริษัทได้มีการให้ค่าตอบแทนการอนุญาตใช้ที่ดินกับ รฟม. เป็นทางผ่านได้ร่วมกันเทียบเท่าทางสาธารณะประมาณ 100 ล้านบาท โดยได้มีการวางเงินมัดจำให้กับทาง รฟม.ไว้ส่วนหนึ่งแล้ว รวมถึงบริษัทจะมีการก่อสร้างอาคารจอดรถ 7 ชั้นในพื้นที่ดังกล่าวติดกับทางออกสถานี MRT สุขุมวิท ข้างโครงการซึ่งบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างเองให้กับ รฟม. เพื่อให้ รฟม.ใช้ประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกประชาชนที่มาใช้บริการรถไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม จากที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นว่าการดำเนินการของบริษัทในการขออนุญาตก่อสร้างและการใช้ที่ดินดังกล่าวนั้นไม่ขัดต่อวัตถุสงค์ในของการใช้ที่ดินของ รฟม.ที่อยู่ในพ.ร.บ.เวนคืน ซึ่งศาลปกครองได้มีการพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศก เนื่องจากการดำเนินการของบริษัทขัดวัตถุประสงค์ของการใช้ที่ดินของ รฟม.ตาม พ.ร.บ.เวนคืน ทำให้บริษัทจะต้องเดินหน้าต่อสู่เพื่อขอความยุติธรรมให้กับบริษัท ปกป้องลูกบ้านและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน พร้อมเรียกความเชื่อมั่นของบริษัทกลับมาอีกด้วย
"ผมอยากผู้ที่เกี่ยวข้องหันหน้ามาคุยกับเรา เพราะเรื่องนี้ส่งผลระทบในวงกว้างต่ออุตสาหกรรม ผมเข้าใจกฎหมายประเทศมีความซับซ้อน แต่เรามีหลักฐานว่าทำทุกอย่างตามกฎหมาย ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือช่วยหาทางออก เพราะภาครัฐมีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประชาชน ไม่อยากให้ปัญหานี้ยืดเยื้อ สร้างความให้สบายใจให้ผม บริษัท ลูกบ้าน แบงก์ นักลงทุน และคนอื่นๆ และไม่อยากให้เรื่องนี้มาเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ในวงการอสังหาฯ เพราะไม่ใช่โครงการแรกที่สร้างบนพื้นที่ที่ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ มีโครงการอื่นๆอีก 13 โครงการในกรุงเทพฯที่สร้างมาลักษณะนี้ มันจะกระทบทั้งหมด "นายชานนท์ กล่าวปิดท้าย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |