1 ส.ค.64-นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำม็อบราษฎร ปราศรัยว่า 7ปีที่ผ่านมา เป็น7ปี แห่งน่าอับอาย ฉิบหาย ประเทศอื่นพัฒนาไปข้างหน้า แต่ของเรายังอยู่ที่เดิม เราเป็นสายน้ำใหญ่ ขับไล่ประยุทธ์ ใครอยากร่วมเป็นสายน้ำขับไล่ประยุทธ์ร่วมกันบีบแตร ขบวนเราเป็นหนึ่งเดียวเพื่อร่วมกันขับไล่ทรราช
จากนั้นขบวนเคลื่อนออกจากบริเวณกรมทหารราบ1 มุ่งหน้าไปยังสนามบินดอนเมือง เตรียมร่วมกับ คาร์ม็อบ ของสมบัติทัวร์ ระหว่างทางที่รถเคลื่อนไปตามถนนวิภาวดีรังสิตนั้น นายพริษฐ์กล่าวว่า ถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งชื่อตามเชื้อพระวงศ์ ที่ถูกลอบสังหารด้วยน้ำมือประชาชน โดนประชาชนยิงตาย วันนี้เราทวงคืนชื่อ ถนนวิภาวดีรังสิต ไม่ใช่ถนนของเจ้า แต่เป็นถนนของประชาชน
"ประยุทธ์ ประวิตร อนุพงษ์ ธรรมนัส อนุทิน ถ้ามึงอยากมีวันพรุ่งนี้ มึงต้องออกไป กูจะกราบงามๆเลยภายใน7วัน ไม่อย่างนั้น ไม่มีจุดประณีประนอม จะเป็นจุดแตกหักอย่างเดียว การต่อสู้ครั้งนี้ขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ถ้ายังไม่ตาย จะอยู่ต่อสู้กับพี่น้อง จนกว่าประยุทธ์ออกไป จนกว่าจะได้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และสถาบันกษัตริย์จะไม่กีดขวางประชาธิปไตยอีก"
เวลา 15.20 น. นายพริษฐ์ ประกาศบนรถปราศรัยว่า ขอยุติการปราศรัยของกลุ่มราษฎรเพียงเท่านี้ เพราะขณะนี้ขบวนคาร์ม็อบของกลุ่มราษฎร ได้มาบรรจบกับขบวนสมบัติทัวร์ ของบก.ลายจุดแล้ว และขอให้เข้าไปฟังการปราศรัยของบก.ลายจุด ในคลับเฮ้าส์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบของกลุ่มราษฎร บรรยากาศตลอดเส้นทางเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมวลชนนำรถร่วมขบวนเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ในส่วนของประชาชนที่ไม่ได้ร่วมขบวนคาร์ม็อบ แต่ก็ได้ชูสามนิ้วให้กำลังใจแกนนำขณะที่รถปราศรัยขับผ่าน ประชาชนบางส่วนที่ใช้รถใช้ถนนได้เปิดกระจกแล้วชูสัญลักษณ์สามนิ้วตลอดเส้นทาง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |