เอสซีจี โชว์กำไรครึ่งปีแรกโต 27% รับโควิด-19กระทบธุรกิจ


เพิ่มเพื่อน    


31 ก.ค. 2564 นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยว่าสำหรับงบการเงินรวมก่อนสอบทานของเอสซีจี ในไตรมาสที่ 2/2564 มีรายได้จากการขาย 133,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ตามการปรับตัวของราคาน้ำมันโลก และเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ประกอบกับมีกำลังการผลิตส่วนเพิ่ม ทำให้ปริมาณขายยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากปัญหาเรื่องการขนส่ง โดยมีกำไรสำหรับงวด 17,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน จากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น

 

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2564 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 255,621 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสำหรับงวด 32,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

 

“อีกทั้งครึ่งปีแรกของปี 2564 เอสซีจีมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม 86,861 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของรายได้จากการขายรวม ทั้งนี้ ยังมีสัดส่วนของการพัฒนาสินค้าใหม่ และ Service Solution เช่น โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ โซลูชันบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ คิดเป็น 15% และ 5% ของรายได้จากการขายรวม ตามลำดับ”นายรุ่งโรจน์ กล่าว

 

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมการส่งออกจากประเทศไทย ในครึ่งปีแรกของปี 2564 ทั้งสิ้น 112,272 ล้านบาท คิดเป็น 44% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนสินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2564 มีมูลค่า 812,051 ล้านบาท โดย 39% เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน

 

สำหรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-10 กระทบต่อธุรกิจ เช่น ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เนื่องจากไซด์งานก่อสร้างต้องปิดตัว และคาดว่าหากจะมีคำสั่งให้กลับมาเปิดได้ก็ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว เนื่องจากอาจจะมีการชะลอการตัดสินใจซื้อ โดยภาพรวมในไตรมาสที่ 2/2564 ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีรายได้จากการขาย 46,416 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากยอดการส่งออกสินค้า

 

“เป้าหมายครึ่งปีหลัง เป้าหมายครึ่งปีหลัง ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เช่น ซีเมนต์ ก่อสร้าง คงกระทบต่อเนื่อง ไซด์ก่อสร้างต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว คิดว่าความไม่แน่นอนมีสูง ส่วนอื่นๆ คิดว่าดีมานด์ความต้องการจะเริ่มฟื้นตัว อย่างเคมีภัณฑ์ หรือบรรจุภัณฑ์ แม้จะมีมาตรการห้ามเดินทางแต่การอุปโภคบริโภคยังมีอยู่ ยังมีการส่งของโลจิสติกส์ ผลกระทบอาจไม่มาก แต่หากเกิดกรณีติดเชื้อของเราเอง หรือคู้ค่า ก็จะมีผลกระทบกับกำลังการผลิตลดลง ตอนนี้จึงไม่รู้จะประมาณการณ์สถานการณ์อย่างไร ยังรอดูการแพร่ระบาดที่มีต่อเนื่อง”นายรุ่งโรจน์ กล่าว

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"