ผู้ว่าฯ ภูเก็ตยันมาตรการคุมเข้มเข้า-ออก เพื่อเซฟแซนด์บ็อกซ์ เซฟประเทศไทย ยันประชาชนเข้าใจ มั่นใจเดินหน้าต่อ “ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี” ประสานเสียง “สมุยพลัสโมเดล” ไม่ยกเลิก
เมื่อวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม ยังคงมีความต่อเนื่อง หลังจากนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีมติยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตตั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3-16 ส.ค. โดยยกเว้นบุคคลหรือผู้ขับขี่ยานพาหนะใน 12 กิจการ แต่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดส หรือหายจากโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT- PCR หรือ Antigen Test มาจากนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไม่เกิน 72 ชั่วโมงด้วย
โดยนายณรงค์ชี้แจงว่า ได้ออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต 3 คำสั่ง ประกอบด้วย 1.คำสั่งยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต 2.คำสั่งสั่งปิดสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง และ  3.คำสั่งกำหนดมาตรการควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในเขตพื้นที่ เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองสำคัญที่ขับเคลื่อนโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ 
“คำสั่งทั้ง 3 เพื่อเซฟภูเก็ต เชฟแซนด์บ็อกซ์ และเซฟประเทศไทย เพราะการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. จนถึงขณะนี้รวม 4 สัปดาห์ มีผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้ามา 12,559 คน ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 30 คน ซึ่งเป็นการติดจากภายนอกหรือติดกันเอง โดยไม่มีการแพร่กระจายในพื้นที่ และแต่ละวันจะมีผู้เดินทางเข้ามาเฉลี่ยวันที่ 300-400 คน และมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีการจองห้องพักเข้ามาในช่วง 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย.) จำนวนกว่า 298,898 รูมไนท์ เฉพาะ ก.ค.มี 190,000 ห้อง ส.ค. 98,000 รูมไนท์ และ ก.ย.กว่า 7,000 รูมไนท์ ตัวเลขมีเพิ่มต่อเนื่อง”
นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดตั้งแต่เริ่มต้นแซนด์บ็อกซ์นั้น สัปดาห์แรก 25 คน,  สัปดาห์ที่ 2 จำนวน 48 คน, สัปดาห์ที่ 3 จำนวน 69 คน และสัปดาห์ที่ 4 จำนวน 148 คน ซึ่งตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากการเข้ามาของสายพันธุ์เดลตา โดยเรามีเตียงจำนวน 694 เตียง ใช้ไปแล้ว  249 เตียง หรือคิดเป็น 36% ยังคงเหลือ 445 เตียง โดยไม่มีผู้ที่มีอาการหนักหรือใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากเรามีภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 70% ทำให้ไม่มีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
    พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า นับตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตมีการออกมาตรการคัดกรองการเข้าภูเก็ต โดยดำเนินการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งคนเข้าภูเก็ตเฉลี่ยวันละประมาณ 10,000 คน ก่อนวันที่ 15 ก.ค. แต่หลังเพิ่มมาตรการมีผู้เดินทางเข้ามาวันละประมาณ 6,000-7,000 คน และเมื่อถึงวันที่ 15 ก.ค.เหลือ 5,000-6,000 คน ต่อมาในวันที่ 25-29 ก.ค. เหลืออยู่ที่ 1,500-2,000 คน และตั้งแต่เริ่มทำมาตรการเข้ม มีบุคคลที่ไม่สามารถเข้าภูเก็ตได้ประมาณ 2,000 คน จากนั้นลดเหลือกว่า  800 คน และล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. เข้ามาไม่ได้กว่า 300 คน แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความเข้าใจ และรับทราบข้อมูล
    ขณะเดียวกัน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เซ็นทรัลภูเก็ตแจ้งว่า ได้คัดกรองและตรวจเชิงรุกพนักงานทั้งหมด 3,725 ราย เมื่อวันที่ 28-29 ก.ค. พบผู้ติดเชื้อยืนยันทั้งหมด 4 ราย คิดเป็นสัดส่วน 0.1% เท่านั้น
    ส่วนด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยืนยันว่า ไม่ได้เบรกหรือสั่งห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก จ.ภูเก็ต ในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มาเกาะสมุย เพราะการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นกลุ่มที่อยู่บนเกาะสมุยและนักท่องเที่ยวคนไทยที่ข้ามไปจากฝั่งแผ่นดินใหญ่ ไม่ได้มีสาเหตุหรือเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวในโครงการเลยเป็นคนละเรื่องกัน โครงการสมุยพลัสโมเดลต่อเนื่องจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ยังดำเนินต่อไปได้ 
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 135 ราย จากคลัสเตอร์ร้านอาหารที่เกาะสมุย 40 ราย ที่เหลืออยู่ในหลายพื้นที่หลายอำเภอ มีทั้งนำเข้าจากกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัดที่กลับภูมิลำเนา โดยผู้ป่วยที่ยังไม่แสดงอาการส่วนใหญ่รักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ส่วนผู้ที่แสดงอาการรักษาที่ รพ.สุราษฎร์ธานี.