ไทยยังหนักติดเชื้อ 1.7 หมื่นราย เสียชีวิตอีก 117 ราย แรงงานกลับภูมิลำเนาทำตัวเลขแซง กทม.-ปริมณฑล "บิ๊กตู่" เงื้อดาบใช้ยาแรงเพิ่ม ขอ ปชช.ร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ เสียใจกับผู้ที่สูญเสีย พร้อมให้กำลังใจคนทำงานอย่าท้อแท้ ส่อล็อกดาวน์ยาว! สธ.เปิดโมเดลจำลองหากไร้มาตรการเข้มข้น ตัวเลขติดโควิดพุ่ง 4 หมื่น ดับ 500 รายต่อวัน พีกสุดกันยายน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 17,345 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 16,656 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 12,823 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 3,833 ราย มาจากเรือนจำและที่ต้องขัง 681 ราย มาจากต่างประเทศ 8 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 578,375 ราย หายป่วยเพิ่มเติม 10,678 ราย หายป่วยสะสม 381,170 ราย อยู่ระหว่างรักษา 192,526 ราย อาการหนัก 4,595 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 1,012 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 117 ราย เป็นชาย 62 ราย หญิง 55 ราย กระจายตัวในหลายจังหวัด โดยมากสุดอยู่ใน กทม. 55 ราย นอกจากนี้พบผู้เสียชีวิตที่บ้าน 9 ราย อยู่ที่ กทม. 8 ราย และปทุมธานี 1 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม. 2,331 ราย สมุทรปราการ 1,386 ราย สมุทรสาคร 1,186 ราย ชลบุรี 914 ราย นนทบุรี 587 ราย ฉะเชิงเทรา 479 ราย นครปฐม 378 ราย อุบลราชธานี 350 ราย ปทุมธานี 330 ราย สงขลา 324 ราย พบคลัสเตอร์ใหม่ 6 แห่ง ได้แก่ บริษัทระบบกำลังไฟฟ้า อ.เมืองสมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อ 10 ราย จ.สมุทรสาคร 2 แห่ง ใน อ.เมืองสมุทรสาคร คือบริษัทยางรถยนต์ 14 ราย บริษัทผลิตภัณฑ์ปลา 13 ราย โรงงานเครื่องปรับอากาศ อ.เมืองชลบุรี 15 ราย บริษัทยางรถยนต์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 25 ราย โรงงานแม่แบบเซรามิก อ.สะเดา จ.สงขลา 13 ราย อย่างไรก็ตาม หากดูภาพรวมตัวเลขผู้ติดเชื้อตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขต่างจังหวัดจะสูงกว่า กทม.และปริมณฑล โดยวันที่ 30 ก.ค. ตัวเลขผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัดรวมกัน 57% กทม.และปริมณฑล 43% เป็นผลมาจากกรณีแรงงานเดินทางกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน
ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานการระบาดในพื้นที่โรงงานตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 29 ก.ค.64 พบว่ามีการระบาดในโรงงาน 518 แห่ง ผู้ติดเชื้อ 36,861 ราย ครอบคลุม 49 จังหวัด 5 อันดับแรก ได้แก่ เพชรบุรี 4,464 ราย เพชรบูรณ์ 3,487 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 2,538 ราย สมุทรสาคร 2,496 ราย สงขลา 2,209 ราย ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม, อุตสาหกรรมโลหะ และอุตสาหกรรมพลาสติก นอกจากนี้ มีรายงานผลการตรวจสอบประเมินตัวเองผ่านระบบออนไลน์ "ไทยสตอปโควิดพลัส" ของโรงงาน โดยข้อมูลระบุว่า โรงงานทุกขนาดมีทั้งสิ้น 64,038 แห่ง ประเมินแล้ว 18,005 แห่ง หรือคิดเป็น 28% ผ่านเกณฑ์ 12,256 แห่ง หรือ 68% ไม่ผ่านเกณฑ์ 5,749 แห่ง หรือ 31% จัดทำแผนสุ่มตรวจประเมินทั้งสิ้น 955 แห่ง ขณะนี้ตรวจสอบครบแล้ว
ศบค.รุกแจงโซเชียล
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การแถลงข่าว ศบค.จะปรับเปลี่ยนมาเป็นทุกวันจันทร์และพฤหัสบดี โดยนำสาระสำคัญของการประชุมต่างๆ มาเผยแพร่ ทั้งนี้จะเน้นการสื่อสารทางเฟซบุ๊กมากขึ้น โดย ผอ.ศบค.จะสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ขณะที่กรมประชาสัมพันธ์ดูแลศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ที่มีคนติดตามประมาณ 1.2 ล้านคน ประชาชนสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ตั้งแต่เวลา 07.00 น.ที่จะอัปเดตข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้สามารถติดตามเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการรักษา การให้วัคซีนผ่านการแถลงของ สธ.ได้ทุกวันในเวลา 13.30 น. ส่วนกระทรวงต่างๆ จะเสนอชุดข้อมูลผ่านระบบการทำงานของแต่ละกระทรวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.50 น.ของวันที่ 29 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ส่งผ่านคณะทำงาน โดยเป็นการบันทึกเทปไว้ในช่วงเวลา 17.00 น. โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ 12 ก.ค. และจะครบ 14 วันในวันที่ 2 ส.ค. ที่พบว่าตัวเลขผู้ป่วยยังไม่ลดลง จะเพิ่มการล็อกดาวน์หรือยกระดับมาตรการที่สูงขึ้นหรือไม่ว่า ทั้งหมดต้องปรึกษาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของแพทย์ สาธารณสุข หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการประชุมร่วมกันของ ศบค.ชุดเล็กอยู่ทุกวัน ขณะที่ สธ.ก็ประชุมทุกวัน ส่วนจะล็อกดาวน์เข้มข้นหรือไม่นั้น ขณะนี้คณะแพทย์และทีมสาธารณสุขยังคงเห็นชอบในมาตรการเดิมอยู่
ทั้งนี้ การที่ตัวเลขไม่ลดลงมีหลายประการ หากเราปฏิบัติตามมาตรการที่ประกาศไปแล้วทุกคน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่สิ่งสำคัญคือความร่วมมือในการปฏิบัติ หากยังมีการทำในสิ่งที่ห้ามจะแก้ปัญหาไม่ได้ หากเราพิจารณาการแพร่ระบาดของเราอาจมองดูแล้วน่าตกใจ การเสียชีวิตในแต่ละวัน แต่อยากให้สนใจตัวเลขต่างๆ ของเพื่อนบ้าน ของต่างประเทศบ้าง ทั่วโลกได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น มีหลายประเทศมากกว่าเราหลายเท่า
นายกฯ กล่าวว่า จากความเห็นทางสาธารณสุขและทางการแพทย์ มาตรการเดิมที่เราออกไปยังใช้ได้อยู่ในช่วงนี้ และต้องพิจารณาต่อไปตามห้วงระยะเวลา เราอาจเห็นตัวเลขมันแดง ขณะนี้มันยังขึ้นอยู่ ก็มีขึ้นมีลง แต่ตัวเลขผู้ที่รักษาหายก็สูงขึ้น ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญ ส่วนนอกระบบเท่าที่ทราบก็มีการดูแลกันเองในชุมชน ในพื้นที่เขาเองก็มีผู้หายป่วยไปอีกเยอะ ดังนั้นขอให้ความสำคัญกับเรื่องของมาตรการขั้นต้นของตัวเอง และตามมาตรการที่รัฐกำหนด และวันนี้ได้มีการปรับแนวทางการรักษาได้นำ Antigen Test Kit (ATK) เข้ามาช่วยตรวจหาเชื้อ ซึ่งทางแพทย์บอกว่าตรวจครั้งเดียวอาจจะไม่ได้ผล 100% อาจจะต้องรอ 7 วันตรวจอีกครั้งหนึ่ง เรื่องที่เป็นกังวลคือผู้ป่วยโควิดรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว ไม่ได้เข้าออก เพื่อนบ้านไม่ทราบ นอกจากนี้ได้แก้ปัญหาเรื่องสายโทรศัพท์ ปลดล็อกเรื่องเปิดช่องทางให้มากขึ้นเพื่อให้บริการฟรี โดยให้ กสทช.ช่วยดูแล อย่างไรก็ตามต้องขออภัยเรื่องนี้ด้วยและได้พยายามแก้ปัญหา
เสียใจกับคนที่สูญเสีย
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีอยากจะพูดหรือสื่อสารอะไรกับประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า "ผมเพียงแต่พูดว่า ผมเห็นใจ ผมเสียใจ และผมก็พยายามแก้ปัญหาอุปสรรคที่มีมากมาย นายกฯ ก็ยินดีที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และต้องมีความร่วมมือระหว่างกันด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ตรงกันถึงจะแก้ปัญหาได้ นายกฯ ทำงานไม่เคยทิ้งสักงาน คงไม่ใช่โควิดอย่างเดียว โควิดเป็นเรื่องหลักที่ประชาชนเดือดร้อน แต่มีเรื่องอย่างอื่นตามมาด้วย ทั้งคุณภาพชีวิต การต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การลงทุน การค้า การเพิ่มรายได้ประเทศ ก็ต้องทำทุกเรื่อง แต่นายกฯ ไม่เคยท้อ เพียงแต่เสียใจกับคนที่สูญเสีย และให้กำลังใจกับคนที่ทำงาน อย่าท้อแท้ เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องทำด้วยกัน เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน"
เมื่อถามย้ำว่า ถึงเวลานี้ยังมั่นใจไหมว่า ศบค.จะยังบริหารจัดการสถานการณ์ได้ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าเป็นกลไกหนึ่งที่มีความสำคัญ เพราะ ศบค.ตั้งขึ้นมาเพื่อบูรณาการกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหลายกระทรวง หลายหน่วยงานมีกฎหมายของตัวเอง จึงจำเป็นต้องมีพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ออกมา เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้ได้ไปทำตามกฎหมายของตัวเอง ตามเป้าหมายหรือมาตรการที่กำหนดออกไปได้ ต้องเข้าใจนายกฯ รับผิดชอบด้วยการบริหาร ด้วยการให้ข้อสังเกตลงไป ให้แนวคิดแนวปฏิบัติลงไป นายกฯ มีการประเมินสถานการณ์ทุกวันจากข้อมูลที่ข้างล่างส่งมา เก็บข้อมูลทุกอัน หากเขาเสนอมาครบแล้ว นายกฯ ก็ไม่ต้องห่วงอะไร อนุมัติดำเนินการ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ประชุมเรื่องโรงพยาบาลบุษราคัม เรื่องศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ รวมถึงประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 12 จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จึงมีความคิดว่าทำอย่างไรที่จะสร้างความเข้าใจให้ได้ว่า หากเราประกาศตัวเลขแต่ตัวแดงทั้งหมดดูน่ากลัวเกินไปหรือไม่ จึงให้ไปดูเรื่องชุมชนสีฟ้า คือชุมชนหรือหมู่บ้านที่ประชาชนร่วมมือกัน ปกป้องตัวเองไม่ให้เป็นโควิด ซึ่งวันนี้มีหลายชุมชนหลายหมู่บ้าน เราต้องสร้างความมั่นใจและมีการรักษาแพทย์ทางเลือกลงไป เป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ และจะเป็นแบบอย่างให้ชุมชนอื่น ตนสนับสนุนทุกจังหวัดทำแบบนี้
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า มาตรการล็อกดาวน์ตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ที่จะครบกำหนดเวลา 14 วันในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ในเบื้องต้นยังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เนื่องจากข้อกำหนดฉบับดังกล่าวกำหนดระยะเวลาดำเนินการต่อเนื่องไว้อย่างน้อย 14 วัน โดยไม่ได้ระบุวันสิ้นสุดข้อกำหนดไว้ชัดเจน ดังนั้นทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาด และขณะนี้พบผู้ติดเชื้อมีจำนวนสูงขึ้นต่อเนื่อง ศบค.จึงไม่ต้องพิจารณาขยายเวลา และให้คงการปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์ที่มีอยู่ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด
ส่วนการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มตามที่ผู้ประกอบการมีข้อเสนอ เช่น การให้เปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าโดยขายผ่านออนไลน์ อาจมีแนวโน้มเป็นไปได้ แต่ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้เสนอแนวทางปฏิบัติเรื่องดังกล่าวมาให้ ศบค.ชุดเล็กพิจารณา
ไม่ล็อกดาวน์พุ่ง 4 หมื่นต่อวัน
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงการคาดการณ์สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า จากการทำแบบจำลองการคาดการณ์จากตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในอนาคต 3-4 เดือนข้างหน้า เทียบกับการระบาดและมาตรการที่ดำเนินการเพื่อควบคุมป้องกันโรค จุดหมายที่ สธ.ใช้เปรียบเทียบคือ ภายหลังการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในปลายเดือน ก.ค. ซึ่งจะมีด้วยกัน 5 สถานการณ์ ได้แก่ 1.เส้นสีฟ้า หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ ไม่มีมาตรการเข้มข้นเลย อาจจะพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดเกิน 4 หมื่นราย โดยจุดสูงสุดอยู่ประมาณวันที่ 14 ก.ย. 64
แต่ถ้าไทยมีมาตรการล็อกดาวน์จะมีแบบจำลองใน 4 สถานการณ์ที่เหลือ คือ 2.เส้นสีส้ม หากมาตรการล็อกดาวน์ได้รับความร่วมมือจากประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง เช่น อยู่บ้านให้มากที่สุด ทำงานจากที่บ้าน หยุดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของกลุ่มคน ล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพลดผู้ติดเชื้อลงได้ร้อยละ 20 นาน 1 เดือน ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงเหลือกว่า 3 หมื่นราย โดยจุดสูงสุดอยู่ที่ต้นเดือน ต.ค. 3.เส้นสีเหลือง มาตรการล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพลดผู้ติดเชื้อได้ร้อยละ 25 นาน 1 เดือน สถานการณ์จะใกล้เคียงกัน 4.เส้นสีเทา ล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพลดผู้ติดเชื้อร้อยละ 20 นาน 2 เดือน จะมีผู้ติดเชื้อลดลงลงเหลือกว่า 2 หมื่นราย และ 5.เส้นสีม่วง ล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพลดผู้ติดเชื้อได้ร้อยละ 25 ให้นาน 2 เดือน ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะต่ำลง
ส่วนการคาดการณ์ผู้เสียชีวิตต่อวัน หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์หรือไม่มีมาตรการใดๆ จะพบว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คนต่อวัน จุดสูงสุดประมาณวันที่ 28 ก.ย. แต่หากมีมาตรการล็อกดาวน์ปลายเดือน ก.ค. จะเป็นเส้นสีส้มและสีเหลือง ตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่เกิน 400 รายต่อวัน จุดสูงสุดอยู่ที่ 26 ต.ค. อย่างไรก็ตามถ้าล็อกดาวน์ยาวนานขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันจะลดลง จุดสูงสุดจะอยู่กลางเดือน พ.ย.
"มาตรการที่ สธ.ดำเนินการ ตั้งเป้าจะทำให้สถานการณ์อยู่ในเส้นสีเขียว ด้วยความพยายามของรัฐบาลและ สธ. โดยการนำของนายกฯ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สธ. ที่มีทั้งมาตรการล็อกดาวน์ การค้นหาผู้ป่วย และการเร่งฉีดวัคซีนในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเสี่ยงติดเชื้ออาการรุนแรงและเสียชีวิต เมื่อใช้ 3 มาตรการร่วมกันจะทำให้มีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตประมาณหลัก 100 กว่าราย นี่คือสิ่งที่เรากำลังพยายามกันอยู่” นพ.โอภาสระบุ
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ.กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกระบาดรุนแรงขึ้น คาดว่าไม่กี่วันจะถึง 200 ล้านราย ขณะที่ไทยในส่วนภูมิภาคติดเชื้อมากกว่ากรุงเทพฯ เล็กน้อย เนื่องจากมีโครงการให้ผู้ติดเชื้อกลับไปรักษาตามภูมิลำเนา ซึ่งกลับไปแล้วกว่า 5 หมื่นคน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์จากโมเดลการติดเชื้อ ซึ่งปัจจุบันเกือบจะถึงแล้ว เราพยายามควบคุมไม่ให้ถึงหรือเกินไปกว่านี้ โดยในเรื่องการรักษาได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ตามเกณฑ์โดยเร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันสำรองยาในเดือน ส.ค. 40 ล้านเม็ด และเดือน ก.ย.อีก 40 ล้านเม็ด มีจำนวนมากพอสมควรและส่งไปยังภูมิภาค
ที่รัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จาก รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 แบบ Rapid Antigen Test ให้ ส.ส.และเจ้าหน้าที่สภาที่ร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2565 และคณะอนุ กมธ.ทั้ง 9 คณะ ประมาณ 200 คน หลังข้าราชการหญิงที่เป็นพนักงานชวเลขติดโควิด
ขณะที่สถานการณ์การติดเชื้อในต่างจังหวัดมีตัวเลขที่สูงขึ้น เช่น จ.สมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อใหม่ 1,386 ราย เสียชีวิต 9 ราย ส่วน จ.ชลบุรี ติดเชื้อใหม่เพิ่มถึง 914 ราย เสียชีวิตอีก 6 ราย สำหรับ จ.นครราชสีมา ติดเชื้อนิวไฮ 444 ราย เสียชีวิต 2 ราย และ จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อใหม่ 102 ราย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |