'ไทยสร้างไทย'เปิดพิมพ์เขียวแก้โควิด จี้รัฐเยียวยาปชช.-เอสเอ็มอี


เพิ่มเพื่อน    


30 ก.ค.64 - ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ ร่วมแถลงถึงพิมพ์เขียว แนวทางเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด ในปัจจุบัน สร้างความเสียหายอย่างยิ่ง ต่อปัญหา เศรษฐกิจ ปากท้องและการทำมาหากิน ของประชาชน มีการประมาณการความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่าแสนล้านบาท รัฐบาลมีคำสั่งล็อกดาวน์ แต่ไม่มีมาตรการเยียวยาที่เพียงพอ ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจ SMEs เป็นจำนวนมาก จึงขอเสนอพิมพ์เขียวแนวทางเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากโควิด 19 ดังต่อไปนี้   

กลุ่มที่1 ประชาชนทั่วไป ให้เยียวยาทุกครัวเรือน โดยช่วยค่าครองชีพ เดือนละ 7000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อให้ประชาชนมีค่ายังชีพ เพียงพอประทังชีวิตในช่วงล็อกดาวน์  ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่เกิน 1000 บาท ต่อเดือน ให้ใช้ฟรี 3 เดือน ส่วนค่าเช่า รัฐเจรจากับเอกชนผู้ให้เช่า เพื่องดการเก็บค่าเช่าเป็น เวลา 3 เดือนในระหว่างที่รัฐยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด ให้รัฐชดเชย ให้กับผู้ให้เช่าบางส่วน อาจจะอยู่ในรูปแบบของการลดภาษี และต้องไม่ถือว่า เป็นการผิดนัด การผ่อนชำระค่าเช่า จนเป็นเหตุให้เกิดการยึดพื้นที่ ให้รัฐช่วยเจรจา หามาตรการลดค่าดำเนินการ (GP) ที่บรรดาผู้ประกอบการ Food Delivery  เช่น LineMan Grab ฯลฯ เรียกเก็บจากพ่อค้าแม่ค้า ประมาณ 32% ให้เหลือ 10% เพื่อช่วยร้านอาหารรายเล็ก รวมทั้งพักชำระหนี้เป็น เวลา 6 เดือน ด้วยการพักการผ่อนเงินต้นและลดคิดดอกเบี้ย โดยเฉพาะค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน โดยเริ่มนำร่องจากธนาคารของรัฐก่อน และต้องไม่ถือว่า เป็นการผิดนัดชำระหนี้ มาเป็นเหตุให้ยึดบ้าน ยึดรถ   

กลุ่มที่ 2 เยียวยาสำหรับธุรกิจ SMEs ช่วยจ่ายค่าจ้างให้พนักงานเดือนละ 5,000-7,000 บาท ผ่าน SMEs เพื่อรักษาชีวิต SMEs และพนักงาน เป็นเวลา 6 เดือน พักชำระหนี้ SMEs ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่นับเป็นหนี้เสีย,เครดิตบูโร ขณะที่โครงการ Soft loan 1 แสนล้านบาทเพื่อสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง โดยมีเงื่อนไขหลักๆ อาทิ ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 10 ปี วงเงินปล่อยกู้ 500,000 - 1,000,000 บาท ให้ บสย. ค้ำประกัน 100% ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการขอใช้วงเงิน ทุกการกู้ 5 แสนบาท ต้องจ้างงาน 5 ตำแหน่ง ตลอดระยะเวลาการกู้ ซึ่งโครงการนี้ จะทำให้เกิดการจ้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง รวมทั้งรัฐช่วยจ่ายดอกเบี้ยให้ครึ่งหนึ่งในช่วง 2 ปีแรก สมมุติดอกเบี้ย 4% รัฐจ่ายให้ 2% เท่ากับรัฐมีภาระจ่ายดอกเบี้ยให้ประชาชนปีละ 2000 ล้าน 2 ปีเท่ากับ 4000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมาก คุ้มกับการช่วยชุบชีวิต SMEs เป็นแสนๆ ราย ให้เดินหน้าธุรกิจได้ต่อหลังโควิด-19 และทำให้เกิดการจ้างงานถึง 1 ล้านตำแหน่ง

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"