5แนวร่วมบุคลากรทางการแพทย์บุกสธ.เรียกร้องกระจายไฟเซอร์ให้โปร่งใส่-เป็นวัคซีนหลัก


เพิ่มเพื่อน    



30 ก.ค.64 - เมื่อเวลา 11.00น. ที่กระทรวง​สาธารณสุข​ 5 แนวร่วมบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย​ หมอไม่ทน ภาคีบุคลากรสาธารณสุข  Nurses Connect DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA Thailand) ยื่นหนังสือต่อกระทรวงสาธารณสุข​ผ่านนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง (รก.11)​ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข​  เพื่อเรียกร้องให้เกิดความโปร่งใสในการกระจายไฟเซอร์ในไทย โดยตัวแทนกลุ่ม กล่าวว่า  บุคลากรทางการแพทย์เห็นพ้องว่าควรจะมีการชี้แจงความโปร่งใส และนำ mRNA วัคซีน เป็นวัคซีนหลักให้กับประชาชน ซึ่งตนได้หวังว่าทางรัฐบาลและกระทรวง​สาธารณะ​สุข​จะให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่งก่อนในช่วงนี้

ด้านนพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า วันนี้ได้มารับข้อร้องทุกข์​ของพี่น้องบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งหมอ ทันตแพทย์​ และพยาบาล เรียนว่าเราให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนมาเป็นอันดับแรกเสมอ โดยขอบคุณที่มาเรียกร้องในวันนี้ ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนทีดีในการที่เราจะทำงานร่วมกัน ที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญต่อเรื่องวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่การจัดหาวัคซีน รวมถึงการลงไปฉีด เมื่อเช้านี้วัคซีนไฟเซอร์มาถึงประเทศไทย 1.5 ล้านโดส โดยกลุ่มแรกเราต้องดูแลบุคลากรด่านหน้า จำนวนไม่น้อยกว่า 5 แสนโดส เพราะกลุ่มนี้ทำให้ระบบสาธารณสุข​ยังอยู่ได้ ทั้งนี้บุคลากร​ของเราทุกคนทำงานหนักมาก มุ่งมั่น​ที่จะทำเพื่อประชาชน​ทุกคนให้ผ่านวิกฤติ​นี้ไปด้วยกัน นอกจากนี้ยังให้วัคซีนกับผู้ที่เป็นกลุ่ม​เสี่ยงสำคัญ และพื้นที่เสี่ยงที่มีความรุนแรงในขณะนี้ เรียนว่าการกระจายวัคซีน​จะมีระบบที่ดี โปร่งใส​ ตรวจสอบ​ได้​

เมื่อถามว่า การวิจัยต่างๆในประเทศ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดหาวัคซีน จะสามารถเปิดเผยข้อมูล แนวทางการวิจัย ได้หรือไม่ นะ.รุ่งเรือง​ กล่าวว่า ข้อมูลเราเปิดเผยทั้งหมด โดยจะมีการเผยแพร่ให้มาก และชัดเจนมากขึ้น ข้อมูลทุกอย่างที่เราแสดงสามารถดูได้ว่ากลุ่มตัวอย่างเป็นใคร ทำเมื่อไหร่ การเปรียบเทียบเชื่อได้หรือไม่

เมื่อถามว่า บุคลากรที่ได้รับการฉีดแอสตร้า​เซน​เน​ก้า​แบบบูสเตอร์โดส จะได้รับการฉีดแบบ mRNA หรือไม่ นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ยืนยันว่าเราอยากให้บุคลากร​ได้รับวัคซีน​ที่มีคุณภาพ ดังนั้นในอนาคตจะมีช่วงที่วัคซีนไฟเซอร์เข้ามาอีกครั้ง กลุ่มเหล่านี้ก็จะอยู่ในการพิจารณา เชื่อว่าการให้วัคซีนโควิด-19 คงไม่ได้จบแค่เข็ม 3 เท่านั้น ในอนาคตน่าจะเป็นโรคประจำถิ่น และมีการให้วัคซีน​ทุกปี

เมื่อถามเพิ่มเติมว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการฉีดวัคซีนแอสตร้าฯเข็มแรก และเข็มสองเป็นรูปบบ mRNA นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า ข้อมูลทางวิชาการปัจจุบันคือการให้ซิโนแวค กับแอสตร้าฯ พบว่าลำดับภูมิคุ้มกันขึ้นสูง แน่นอนว่ามีคนเรียกร้องให้ฉีด mRNA ถ้าให้ไฟเซอร์สองเข็ม ระดับภูมิคุ้มกันใกล้เคียงกับแอสตร้าฯสองเข็ม อย่างไรก็ตามเราทำตามภายใต้ข้อมูลทางวิชาการ และการบริหารจัดการที่ดีที่สุด ดังนั้นมีปัจจัยด้านการจัดหาวัคซีนโดยกระทรวงสาธารณสุข​ เร่งในเรื่องดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการ​เพื่อจัดหาวัคซีน และการบริการจัดการดารฉีดวัคซีน ขอให้มั่นใจว่าเราจะดูแลบุคลากรอย่างดีที่สุด

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"