30 ก.ค.64 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17,345 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 16,656 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 12,823 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 3,833 ราย มาจากเรือนจำและที่ต้องขัง 681 ราย มาจากต่างประเทศ 8 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 578,375 ราย หายป่วยเพิ่มเติม 10,678 ราย หายป่วยสะสม 381,170 ราย อยู่ระหว่างรักษา 192,526 ราย อาการหนัก 4,595 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 1,012 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 117 ราย เป็นชาย 62 ราย หญิง 55 ราย กระจายตัวในหลายจังหวัด โดยมากสุดอยู่ใน กทม.55 ราย นอกจากนี้ พบผู้เสียชีวิตที่บ้าน 9 ราย อยู่ที่ กทม.8 ราย และปทุมธานี 1 ราย ส่วนข้อมูลการฉีดวัคซีนวันที่ 29 ก.ค. มีจำนวน 420,148 โดส ทำให้มียอดฉีดวัคซีนสะสม 17,011,477 โดส ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 197,365,402 ราย เสียชีวิตสะสม 4,214,617 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 30 ก.ค. ได้แก่ กทม. 2,331 ราย สมุทรปราการ 1,386 ราย สมุทรสาคร 1,186 ราย ชลบุรี 914 ราย นนทบุรี 587 ราย ฉะเชิงเทรา 479 ราย นครปฐม 378 ราย อุบลราชธานี 350 ราย ปทุมธานี 330 ราย สงขลา 324 ราย พบคลัสเตอร์ใหม่ 6 แห่ง บริษัทระบบกำลังไฟฟ้า อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อ 10 ราย จ.สมุทรสาคร 2 แห่ง ใน อ.เมือง คือ บริษัทยางรถยนต์ 14 ราย บริษัทผลิตภัณฑ์ปลา 13 ราย โรงงานเครื่องปรับอากาศ อ.เมือง จ.ชลบุรี 15 ราย บริษัทยางรถยนต์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 25 ราย โรงงานแม่แบบเซรามิค อ.สะเดา จ.สงขลา 13 ราย อย่างไรก็ตาม หากดูภาพรวมตัวเลขผู้ติดเชื้อตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขต่างจังหวัดจะมีสูงกว่า กทม.และปริมณฑล โดยวันที่ 30 ก.ค. ตัวเลขผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัดรวมกัน 57% กทม.และปริมณฑล 43% เป็นผลมาจากกรณีแรงงานเดินทางกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา ที่เห็นได้ชัดมีหลายจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อในบุคคลที่เดินทางกลับจาก กทม.และปริมณฑล โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานการระบาดในพื้นที่โรงงานตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 29 ก.ค. พบว่ามีการระบาดในโรงงาน 518 แห่ง ผู้ติดเชื้อ 36,861 ราย ครอบคลุม 49 จังหวัด 5 อันดับแรกได้แก่ เพชรบุรี 4,464 ราย เพชรบูรณ์ 3,487 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 2,538 ราย สมุทรสาคร 2,496 ราย สงขลา 2,209 ราย ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมโลหะ และอุตสาหกรรมพลาสติก นอกจากนี้ ได้มีการรายงานผลการตรวจสอบประเมินตัวเองผ่านระบบออนไลน์ ไทยสตอปโควิดพลัสของโรงงาน โดยข้อมูลระบุว่า โรงงานทุกขนาดมีทั้งสิ้น 64,038 แห่ง ประเมินแล้ว 18,005 แห่ง หรือคิดเป็น 28% ผ่านเกณฑ์ 12,256 แห่ง หรือ 68% ไม่ผ่านเกณฑ์ 5,749 แห่ง หรือ 31% จัดทำแผนสุ่มตรวจประเมินทั้งสิ้น 955 แห่ง ขณะนี้ตรวจสอบครบแล้ว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การสื่อสารข้อมูลข่าวสารขณะนี้ไปเร็วมาก มีการรายงานข้อมูลทั่วทั้งโลกในลักษณะเรียลไทม์สามารถเข้าไปดูได้ทุกเวลา ดังนั้น การแถลงข่าวศบค.จะปรับเปลี่ยนมาเป็นทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี โดยนำสาระสำคัญการประชุมต่างๆมาเผยแพร่ ทั้งนี้จะเน้นการสื่อสารทางเฟซบุ๊กมากขึ้น โดยผอ.ศบค.จะสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ขณะที่กรมประชาสัมพันธ์ดูแลศูนย์ข้อมูลโควิด ที่มีคนติดตามประมาณ 1.2 ล้านคน ประชาชนสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ตั้งแต่เวลา 07.00น.ที่จะอัพเดทข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ สามารถติดตามเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการรักษา การให้วัคซีนฯผ่านการแถลงของกระทรวงสาธารณสุขได้ทุกวันในเวลา13.30 น. ส่วนกระทรวงต่างๆจะเสนอชุดข้อมูลผ่านระบบการทำงานของแต่ละกระทรวงให้ประชาชนเข้าไปดูได้ หากประเด็นใดสำคัญจะบูรณาการข้อมูลร่วมกันก่อนที่จะนำเข้าที่ประชุมปก.ศบค.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |