'บิ๊กตู่'เผยผลถกทีมเศรษฐกิจ ยันงบฯยังมีเพียงพอ อยากขยายพื้นที่แซนด์บ็อกซ์


เพิ่มเพื่อน    


30ก.ค.64-ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมตอบคำถามสื่อมวลชนที่ส่งผ่านคณะทำงาน โดยเป็นการบันทึกเทปไว้ในช่วงเวลา 17.00 น. วันที่29ก.ค.ที่ผ่านมา โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการประชุมทีมเศรษฐกิจเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีหน้าที่หลายอย่างด้วยกัน ทางด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง ด้านสาธารณสุข เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ค. ได้หารือกับคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ได้พิจารณาถึงสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมทั้งประเทศรอบบ้านของเราในทุกมิติ ว่าเราควรจะต้องเดินหน้าอย่างไรต่อไป รวมทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ ปัจจุบันเรามีสถิติการส่งออกเพิ่มมากขึ้นในหลายกิจการกิจกรรมจึงจำเป็นต้องหารือว่าทำอย่างไรจะให้เกิดความเข้มแข็งมากขึ้น รวมถึงตลาดต่างประเทศอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการ ทั้งในเรื่องการนำเข้า ส่งออก ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้พูดคุยกับทางสำนักงบประมาณและสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพราะเห็นใจประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้าจากสถานการณ์โควิด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของเงินงบประมาณ ตนได้สอบถาม ก็ได้รับการยืนยันว่างบประมาณของประเทศยังมีเพียงพออยู่ ซึ่งเราใช้งบประมาณก้อนแรกไปแล้วจากวงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเหลืออยู่ประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท ส่วนงบประมาณงวดใหม่ 500,000 กว่าล้าน ที่ได้ขออนุมัติเงินกู้มานั้น ยังไม่ได้ใช้อะไรเลย จึงสั่งการว่าต้องเตรียมมาตรการให้พร้อม ทั้งมาตรการเดิมและมาตรการใหม่ ซึ่งอาจจะต้องมีการพุ่งเป้าลงไปในบางกิจการหรือบางกลุ่มเป็นพิเศษให้ทั่วถึง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยติดตามความคืบหน้าถึงการดำเนินมาตรการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ที่ปัจจุบันค่อนข้างมีผลดีในเรื่องของการท่องเที่ยว ทั้งจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่อื่นๆนำร่อง ซึ่งได้มีการเปิดไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.และ 15 ก.ค. ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ยังคงดีอยู่ ได้มีการหารือว่าจะทำอย่างไรเพื่อขยายพื้นที่ให้มากขึ้น ประเด็นสำคัญคือต้องมีการฉีดวัคซีนในพื้นที่ที่จะดำเนินโครงการต่อ ต้องหามาตรการรองรับ การตรวจสอบคัดกรอง ซึ่งในเรื่องดังกล่าวเราค่อนข้างเข้มงวด จากสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมาผลการตรวจสอบการติดเชื้อต่างๆก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะมาหารือดูต่อว่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้อีก ทั้งเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งคนไทยและคนต่างประเทศที่เดินทางเข้ามา ซึ่งก็ต้องหารือกันต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้มีการหารือกันในเรื่องการเพิ่มเติมวัคซีนให้กับภาคธุรกิจ เจ้าของโรงงาน รวมทั้งแรงงานต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็มีมาตรการในการช่วยเหลือต่างๆไปแล้ว ทั้ง ม.33 ม.39 ม.40 ซึ่งคนที่ไม่ได้อยู่ใน ม.33 ก็สามารถไปขึ้นทะเบียนได้ ยังมีเวลาอีก 3 วันสิ่งที่เป็นห่วงขนาดนี้คือทำอย่างไรจะไม่ทำให้ภาคการผลิตเสียหาย แต่ก็มีหลายโรงงานที่จำเป็นต้องปิดเนื่องจากมีการแพร่ระบาด ซึ่งก็ต้องมาพิจารณาว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร วันนี้หลายโรงงานให้ความร่วมมือในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม แต่บางโรงงานทำไม่ได้ก็ต้องเข้าไปแก้ปัญหาให้ เพื่อแยกไปอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งมีทั้งในส่วนของกระทรวงแรงงานและกระทรวงการอุดมศึกษาฯทั้งนี้การพูดคุยกันในวงเศรษฐกิจนี้มีหลายประเด็น มีรายละเอียดค่อนข้างมาก เป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้า รวมทั้งแก้ปัญหาปัจจุบันด้วย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"