เหลือไว้แต่..ความอาลัย


เพิ่มเพื่อน    

                มนุษย์ป้าที่ไม่ปิดตัวเองจนเกินไป เชื่อว่าต้องเคยสัมผัสหรือรู้จักกระเป๋าแบรนด์เนม Kate Spade (เคต สเปด) หรือเป็นเจ้าของสักใบสองใบ แล้วแต่โอกาสและกาลเทศะ

                เมื่อมีข่าวของดีไซเนอร์ เคต สเปด ทำการอัตวินิบาตกรรมในอพาร์ตเมนต์หรูย่านพาร์ก อเวนิว ในแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์กของสหรัฐ จึงกลายเป็นเรื่องช็อกโลก! แฟชั่น รวมทั้งบรรดาสาวกแบรนด์เคต สเปด ทั้งหลาย

                มนุษย์ "ป้าเอง" ก็เคยมีกับเขาใบหนึ่งนะคะ กระเป๋ายี่ห้อนี้

                สารภาพเลยว่า กว่าจะตัดสินใจซื้อได้ตอนนั้น (น่าจะ 10 ปีผ่านมาแล้ว) ก็เพราะเห็นป้ายลดราคา 50% ..ถึงแม้จุดขายสำคัญของกระเป๋ายี่ห้อนี้จะบอกว่าเป็นแบรนด์เนมราคาที่ชาวบ้านจับต้องได้ก็ตาม แต่คงต้องบอกว่ามาตรฐานจำกัดความราคาที่จับต้องได้นั้น คงหาข้อยุติหรือสรุปไม่ได้หรอกนะ ในเมื่อมันเป็นเรื่องเงินในกระเป๋าของแต่ละคนที่แตกต่างกัน รวมทั้งรสนิยมกล้าซื้อ กล้าเปย์อีกด้วย..ชิมิ

                ปรากฏว่า ข่าวการตายของเคตนั้น มีเครื่องหมาย??? เกิดขึ้นมากมาย ว่าเหตุใดคนที่ประสบความสำเร็จอย่างเธอจึงจบชีวิตด้วยการผูกคอตาย ทิ้งลูกสาวน่ารักไว้ข้างหลัง

                ขุดเบื้องหลังกันอย่างมากมาย ตามประสาของบุคคลสาธารณะ จนสามีและครอบครัวของเธอต้องร้องขอความเป็นส่วนตัว และให้เห็นแก่ลูกสาวคนเดียวของเธอ "ฟรานซิส" ด้วย

                สิ่งที่เกิดขึ้นหลังความตาย เชื่อว่าคนที่คิดสั้นนั้น คิดไม่ถึงหรอกว่าผลที่ตามมาของการอำลาโลกไปก่อนเวลาอันสมควรนั้น ไม่ได้ทิ้งแต่ความอาลัย เศร้าโศก แต่ดูเหมือนจะเป็นปมปัญหาที่ทำให้คนอยู่ข้างหลังต้องช่วยกันแก้ ช่วยกันแกะออกไปให้ได้ หนักหนาสาหัสสากรรจ์ไม่แพ้กันเลยทีเดียว

                อย่างไรก็ตาม คนตายไปแล้ว พูดไปสองไพเบี้ย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ถกถามกันว่า โรคซึมเศร้านั้นควรจะดูแลป้องกันและรักษากันอย่างไรหนอ??? เพื่อจะไม่ให้จบด้วยความเศร้า

                หากถามคำถามนี้จากมนุษย์ป้า ก็คงตอบไม่ได้ดีเท่ากับคนที่มีประสบการณ์ที่มีคนในครอบครัว หรืออยู่แวดล้อมนั้น ป่วยด้วยโรคนี้ เพราะไม่อาจมโนแทนว่า ทำไมไม่ออกไปเที่ยวสนุกกับเพื่อน ทำไมไม่คิดถึงลูก ทำไมไม่หางานอดิเรกทำ เพราะคำว่า ...ทำไม??? คือการตัดสินว่าเขาผิด

                ไม่มีใครผิด..หากเป็นเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ..จริงไหมคะ

                เพราะไม่มีใครอยากจะเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคอะไรก็ตามที่ร้ายแรงจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปหรอกนะ!!

                ดังนั้น เมื่อมีลมหายใจอยู่ ก็พยายามดูแลจิตใจและกายของตัวเองให้ถูกทาง อย่าไปใกล้ชิดกับความซึมเศร้าเลยนะคะ ถ้าใครยังไม่เคยคิด ก็ขอแนะเลยว่า ว่างๆ ก็คิดวางแผนไว้จะดีไม่น้อย จะสร้างกำแพง สร้างรั้ว และประตูป้องกันเจ้าภัยเงียบ..ซึมเศร้ากันด้วยวิธีไหน

                ตอนนี้ที่คิดว่าช่วยได้แน่ คือการเจริญสมาธิเพื่อจะได้มีสติและเกิดปัญญานะคะ.

                                                                                                                                                                "ป้าเอง"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"