“ชวน” เลื่อนเปิดสภาไปอีก 1 สัปดาห์ ยันถกงบปี 65 วาระสอง-สาม 18-20 ส.ค.นี้ ไม่ให้โควิดเป็นอุปสรรค ขณะที่ฝ่ายค้านขู่ฟ่อ ส.ค.ยื่นซักฟอกแน่ รัฐมนตรีเข้าข่ายอย่างน้อย 5 คน เชื่อมโยง 3 ป. ฟุ้งพรรคร่วมรัฐบาลฟังแล้วต้องคิดหนัก
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ได้หารือกับสภารวมทั้งนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาแล้วว่า จะงดการประชุมสภาในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 4-5 ส.ค.ออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรงอยู่ ประกอบกับได้หารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เห็นตรงกันว่ามีความจำเป็นต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน ส่วนสัปดาห์ถัดไปวันที่ 11-12 ส.ค.จะขอทบทวนอีกครั้ง ทั้งนี้ได้รับการแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จะขอบรรจุระเบียบวาระร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วาระ 2 และวาระ 3 ในช่วงวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ จึงต้องมีการเปิดประชุมสภาอย่างแน่นอนไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ โดยในเรื่องของการเดินทางมายัง กทม.ของ ส.ส. อาจต้องเดินทางโดยรถยนต์ และเมื่อเข้ารัฐสภาจำเป็นต้องมีตรวจแบบเข้มข้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากฝ่ายค้านเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสามารถบรรจุระเบียบวาระได้เลยหรือไม่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า เท่าที่ทราบจะมีการยื่นญัตติเข้ามาประมาณกลางเดือน ส.ค. ดังนั้นหากมีการยื่นเข้ามาก็สามารถบรรจุในระเบียบวาระได้เลย ไม่มีปัญหา เพราะมีเจ้าหน้าที่ประจำที่ตรวจสอบญัตติอยู่แล้ว
ถามว่า หากช่วงเวลาดังกล่าวสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดหนักจะเป็นอุปสรรคในการประชุมหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เราต้องพยายามทำให้การทำงานสามารถเป็นไปได้ โดยไม่ให้โรคโควิด-19 มาเป็นอุปสรรค โดยขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยแก้ปัญหา ซึ่งช่วงที่รัฐบาลต้องการความร่วมมือ สภาฯ ก็ให้ความร่วมมือและป้องกันอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก ไม่ให้สภาเป็นพื้นที่ที่ปัญหา ขณะนี้เราก็มีการติดตามสถานการณ์กันทุกวัน เท่าที่ได้รับรายงานจากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พบว่าตั้งแต่มีโควิด-19 มีเจ้าหน้าที่ของสภาติดทั้งสิ้นรวม 12 คน
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยความคืบหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ในครั้งนี้จะเป็นการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลยที่ 1 ส่วนคนอื่นจะต้องรอประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อสรุปร่วมกันในสัปดาห์หน้า และจะยื่นได้กลางเดือนสิงหาคมนี้
เบื้องต้นมีรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายอย่างน้อย 5 คน โดยการอภิปรายในครั้งนี้มีข้อมูลเรื่องการบริหารงานที่ผิดพลาดล้มเหลว ส่อไปทางทุจริต และมีหลักฐานชัดเจน เชื่อว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้
ทั้งนี้ยอมรับว่าข้อมูลยังไม่นิ่ง เพราะสถานการณ์โควิด-19 และมีการเปลี่ยนแปลงตลอด โดยยังมีข้อมูลหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากจากประชาชน ซึ่งต่างจากครั้งที่แล้วที่มีข้อมูลชัดเจนเรื่องถุงมือยาง และมั่นใจว่าเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลได้ฟังข้อมูลการอภิปรายแล้ว หากจะลงมติให้นายกรัฐมนตรีก็ต้องคิดหนัก
ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุชัดว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้มีหลักฐานทุจริตชัดเจน เชื่อมโยงกับ 3 ป. เชื่อว่าถ้าเปิดเผยออกมาประชาชนจะรับไม่ได้ โดยเป็นข้อมูลที่เกี่ยวโยงเรื่องความมั่นคง มีหลักฐานมีลายเซ็นชัดเจน ยกตัวอย่างเช่นกรณีงบประมาณการจัดซื้อเรือดำน้ำที่รัฐบาลยอมถอย โดยข้อมูลทั้งหมดจะเชื่อมโยงกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |