“นิวไฮ” อีกแล้วจ้า ไม่รู้ต้องการทุบสถิติใหม่กันอีกกี่วันกี่เดือน เพราะดูเหมือน “ไทยแลนด์โอนลี่” ยามนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” ช่างน่าปริวิตกอย่างมาก เพราะกราฟมีแต่ไต่ขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่า “เพดาน” ขั้นสุดจะอยู่ที่ใดกันแน่ ล่าสุดก็มีผู้ติดเชื้อใหม่สร้างเพดานใหม่แล้วที่ 16,533 ราย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ครบ 24 ชั่วโมงหรือไม่ ก่อนจะถูกทำลายลงอีกครั้ง...๐ ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่ 16,533 รายนี้ ยังทำให้ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 46 ใน 220 ประเทศและดินแดนที่ติดเชื้อทั่วโลก แต่หากดู “แวว” ผู้ติดเชื้อในลำดับที่ 45 อย่าง “คาซัคสถาน” ที่มีผู้ติดเชื้อในระดับ 5-6 พันคน พี่ไทยอาจต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน จึงอาจจะแซงได้...๐ หากพินิจพิเคราะห์ตัวเลขการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อใหม่ครานี้ให้ดีจะยิ่งน่าตกใจเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะหากนับแค่ประเทศ ในทวีปเอเชียนั้น “ไทย” จะถือว่ามีผู้ติดเชื้อมากสูงสุดเป็นอันดัน 3 เลยทีเดียว โดยเป็นรองแค่ “อินเดีย” ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่ 42,928 ราย และ “อินโดนีเซีย” ที่มีผู้ติดเชื้อ 45,203 รายเท่านั้น ต้องเรียกว่าเป็น “สถิติ” ที่ไม่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง…๐ งานนี้จึงไม่แปลกที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะมีการเรียกผู้ว่าฯ 13 จังหวัดสีแดงเข้มหารือในการควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ลดลงโดยเร็ว แต่ ดูเหมือน “ลุงตู่” ขยับแต่ละทีจะสายไป 1-2 ก้าวเสมอ เพราะหากลองไปดูตัวเลขที่ ศบค.จำแนกแจกแจงเองก็จะรู้ว่า ณ เพลานี้ควรเรียกประชุมใครกันแน่ เพราะตัวเลขของผู้ติดเชื้อใน กรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้นอยู่ที่  7,536 ราย ในขณะที่ 67 จังหวัดอยู่ที่ 7,892 ราย ซึ่งเมื่อ กทม.และปริมณฑลรวมกับ 4 จังหวัดภาคใต้ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่ 893 ราย ก็จะทำให้ยอดของจังหวัดสีแดงเข้มอยู่ที่ 8,492 ราย ซึ่งเรียกว่าใกล้ๆ กันนั่นแล ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ควรเรียกแค่ 13 จังหวัดแล้ว แต่มันควรเป็นการสั่งและกำชับทั้งประเทศ...๐ ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรกเสียฉิบ เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งเป็นจรวดอยู่เลย แต่ข่าวเกาเหลาระหว่าง “สาธารณสุข” ภายใต้การกำกับดูแลของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.สธ.กับ “กทม.” ภายใต้การดูแลของผู้ว่าฯ ตราตั้ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง กลับมาเกิดเรื่องอีกครั้งแล้วว่าด้วยเรื่อง “วัคซีน” ที่เคยปีนเกลียวกันมาแล้วคราหนึ่ง และครั้งนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ก็ต้องออกมาทุบโต๊ะหย่าศึกอีกแล้ว...๐ ในขณะที่ “หมอหนู” ก็ออกมากัดฟันว่าไม่ได้ซดเกาเหลากับ “กทม.” เพียงแต่เกิดการตีความที่ไม่ตรงกัน!!! ของกรมควบคุมโรคที่มี “นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์” ดูแลกับ กทม.เท่านั้น พระเจ้าจอร์จไม่เคยเห็นผู้ว่าฯ กทม.ยุคไหนที่จะกล้าหือกล้าอือกับรัฐมนตรีได้ขนาดนี้เลย ทั้งที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ใช่ “เลือกตั้ง” แสดงให้เห็นถึงความ “แข็งปั๊ก” ของกำแพงพิงหลัง “ผู้ว่าฯ อัศวินเสียจริงๆ ที่สำคัญ “เกาหลา” ชามนี้ไม่ใช่ชามแรกด้วย...๐ หันมาเรื่องการเมืองว่าด้วย “การอภิปรายไม่ไว้วางใจ” กันบ้าง เพราะเห็นว่า “พรรคเพื่อไทย” ที่ทุกวันนี้มีแต่คนประกาศตามหา “หัวหน้าพรรค” ว่าอยู่ไหน ชื่ออะไร เพราะสังคมแทบไม่เคยจำหน้าค่าตาได้ทั้งก่อนช่วงโควิด และช่วงโควิด เรียกว่า เป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” ผู้นำฝ่ายค้านที่โลกลืมกันเลยก็ว่าได้...๐ ในขณะที่ “เลขาธิการพรรค” อย่าง “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.นครราชสีมา แม้จะเห็นหน้าอยู่เนืองๆ แต่การให้สัมภาษณ์แต่ละคราแต่ละครั้งต้องบอกว่าพัดลมยังส่ายหน้าเลย โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตีปี๊บเรื่อง “กฐินอภิปราย” ซะดิบดี แต่ลงท้ายบอกให้ประชาชนและคนเกลียด “บิ๊กตู่” ช่วยส่งข้อมูลมาให้ฝ่ายค้านเพื่อทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงประเทศหน่อย แหม! เรียกว่าเล่นไม่ลงทุนเลยนะจ๊ะ แต่ก็ไม่น่าแปลกหรอก เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา รวมถึงการอภิปรายทั้งในเรื่องเงินกู้และงบประมาณก็ต้องบอกว่า “เพื่อไทย” ก๊อปปี้ข่าวมาด่า มาชำแหละรัฐบาลถ่ายเดียว แบบไม่มีอะไรใหม่อยู่แล้ว ซึ่งเข้าใจได้ เพราะเคยชินเป็นแต่รัฐบาลนั่นแล...๐ หันมาเรื่องเยียวยากันบ้าง เพราะล่าสุดเริ่มมีเสียงจากหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาที่เรียกร้องให้เยียวยาจังหวัดอื่นๆ ให้เหมือน 13 จังหวัดสีแดงเข้มแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเสียงจะดังไปถึงรัฐบาลลุงตู่หรือไม่ แต่มนุษย์เงินเดือนในพื้นที่ 10 จังหวัดสีแดงเข้มนั้นอยากตะโกนหา “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงานเสียงดังๆ โดยเฉพาะในเรื่องเยียวยา 2,500 บาทกันเหลือเกิน เพราะดูเหมือน สปส.จะไม่มีการอัปเดตฐานข้อมูลแต่ประการใด เพราะมีบางคนบางบริษัทไปยื่นแล้ว แต่ ฐานข้อมูลก็ยังอยู่แค่วันที่ 12 ก.ค. มนุษย์เงินเดือนใน 9 กิจการเลยหงุดหงิดว่า หากวันที่ 6 ส.ค.ไม่ได้รับเยียวยาความผิดจะอยู่ที่ใคร ระหว่าง รมว.แรงงาน หรือ สปส.กันแน่...๐

ท.ศักดิ์