“ศบค.” เปิดตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 14,150 ราย เสียชีวิตอีก 118 ราย อึ้ง! 5 คลัสเตอร์ใหม่ทั้งแคมป์คนงานและตลาด “หมอสมศักดิ์” รับระบบสาธารณสุข กทม.-ปริมณฑลเกินกำลังรับได้มา 3 เท่าแล้ว หวังแปลงฮอสพิเทลเพื่อเพิ่มเตียงรับผู้ป่วยสีเหลือง แฉมีการลักลอบส่งถังออกซิเจนไปขายชายแดนเมียนมาทั้งที่เป็นสิ่งจำเป็น “บิ๊กตู่” เมินใส่ชุด PPE ลงพื้นที่ อ้างไม่อยากฝืนมาตรการตัวเอง
เมื่อวันอังคารที่ 27 ก.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,150 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,866 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 10,407 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 3,459 ราย มาจากเรือนจำและที่ต้องขัง 245 ราย มาจากต่างประเทศ 39 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 526,828 ราย หายป่วยเพิ่มเติม 9,168 ราย หายป่วยสะสม 350,643 ราย อยู่ระหว่างรักษา 171,921 ราย อาการหนัก 4,284 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 954 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 118 ราย เป็นชาย 64 ราย หญิง 54 ราย โดยมากสุดอยู่ใน กทม. 40 ราย รองลงมา จ.นนทบุรี 20 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย เสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉิน 1 ราย ที่ กทม. เสียชีวิตใน LQ 1 ราย ที่ จ.นนทบุรี เสียชีวิตระหว่างกักตัว 1 ราย ที่ จ.นครราชสีมา พบเชื้อหลังเสียชีวิต 1 ราย ที่ จ.ปทุมธานี ทำให้ปัจจุบันมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 4,264 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 27 ก.ค. ได้แก่ กทม. 2,635 ราย, สมุทรสาคร 1,092 ราย, ชลบุรี 884 ราย, สมุทรปราการ 719 ราย, นนทบุรี 536 ราย, ฉะเชิงเทรา 486 ราย, ระยอง 314 ราย, ปทุมธานี 301 ราย, อุบลราชธานี 289 ราย และสระแก้ว 279 ราย โดยพบคลัสเตอร์ใหม่ 5 แห่ง แคมป์ก่อสร้าง อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พบผู้ติดเชื้อ 17 ราย, บริษัทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อ.เมืองฯ จ.ฉะเชิงเทรา 22 ราย, แคมป์ก่อสร้าง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง 44 ราย, แคมป์ก่อสร้าง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 107 ราย และตลาดศรีเมืองทอง อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น 15 ราย
ด้านความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมนั้น ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งน่าสังเกตระหว่างการประชุม พล.อ.ประยุทธ์สวมนาฬิกาข้อมือทั้ง 2 ข้าง โดยข้อมือด้านซ้ายเป็นนาฬิกาแบบปกติที่นายกฯ ใส่ประจำ ส่วนด้านขวาเป็นนาฬิกาแบบ Smart Sports Watch ยี่ห้อการ์มิน ที่สามารถวัดชีพจร อัตราการเต้นของหัวใจ และวัดค่าออกซิเจนในเลือดได้
มีรายงานว่า ระหว่างการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แนะนำให้นายกฯ ใส่ชุด PPE ลงพื้นที่แทนเวิร์กฟรอมโฮมเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ว่า “ผมไม่ได้กลัวการลงพื้นที่ แต่ผมเป็นคนออกมาตรการให้มีการเวิร์กฟรอมโฮม ก็ไม่อยากขัดมาตรการที่ตัวเองเป็นคนออก และปัจจุบันก็มีรัฐมนตรีคอยลงพื้นที่อยู่ ซึ่งได้มีการรายงานให้ผมทราบมาตลอด”
นอกจากนี้ มีการรายงานถึงปัญหาคนป่วยในโรงพยาบาลบุษราคัม ที่รองรับผู้ป่วยสีเหลืองให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่า ขณะนี้กำลังเจอปัญหาผู้ป่วยที่หายไข้แล้วแต่ไม่ยอมกลับบ้าน โดยให้เหตุผลว่าหากกลับแล้วไม่รู้จะทำมาหากินอะไร
จากนั้นเวลา 15.00 น. นายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดเล็ก โดยที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่โรงพยาบาลบุษราคัมจะหมดสัญญาเช่าพื้นที่เมืองทองธานีสิ้นเดือน ต.ค.นี้ จึงเตรียมย้ายไปที่ใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคาร AOT โดยจะเริ่มย้ายกลางเดือน ต.ค. สำหรับที่สุวรรณภูมิจะมีเตียงสีเหลืองขึ้นไป มีเตียงที่ให้ออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยสีแดงถึง 3,000 เตียง จากเดิมที่เมืองทองฯ มีเพียง 800 เตียง นอกจากนี้จะมีการปรับเบี้ยบำรุงให้กับบุคลากรสาธารณสุขด้วย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลประชุม ครม.ว่าที่ประชุมอนุมัติกรอบวงเงิน 13,026.12 ล้านบาท ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยบริการ สถานพยาบาลที่ให้บริการสาธารณสุขโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชนทุกสิทธิ ระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย. โดยมีกลุ่มเป้าหมายจำนวน 3,508,060 ราย
ส่วน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบหลักการส่งเสริมการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่มีอาการ เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาและลดภาระระบบสาธารณสุขตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งที่ประชุมยังได้กำชับถึงการส่งเสริมใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่มีอาการว่าต้องชี้แจงแนวทางให้ชัดเจน เช่น แนวทางการรักษา ปริมาณยาที่เหมาะสมต่ออาการของผู้ป่วย ข้อควรระวัง อาการข้างเคียง แนวทางการผลิตและจัดจำหน่าย เป็นต้น
รับเกินภาระ 3 เท่าแล้ว
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ชี้แจงถึงการตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit (ATK) ว่า เมื่อได้ผลบวกแล้วจะใช้คำว่าเป็นผู้ที่น่าติดเชื้อโควิด-19 แต่สิ่งสำคัญคือชุด ATK สามารถให้ผลลวงได้ถึง 3-5% แปลว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ผลบวกแล้วอาจไม่ได้ติดเชื้อจริง ตรงนี้น่ากังวล เพราะหากเรานำผู้ที่ไม่ได้ติดเชื้อจริงไปรวมกับผู้ติดเชื้อ ก็อาจติดเชื้อไปด้วย ฉะนั้นประชาชนที่ตรวจแล้วผลเป็นบวกสามารถแยกกัก Home isolation ได้เลยโดยไม่ต้องตรวจซ้ำ
นพ.สมศักดิ์กล่าวอีกว่า ระบบการควบคุมโรคเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะฉะนั้นท้องถิ่นหรือชุมชน รวมถึงมาตรการของรัฐบาลในการควบคุมโรคต้องชัดเจน เพราะขณะนี้สถิติการระบาดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเกินกำลังระบบสาธารณสุขหรือเตียงรองรับได้อย่างน้อย 3 เท่าแล้ว ส่วนระบบการรักษาพยาบาล บุคลาการทางการแพทย์ยินดีทำงานเต็มที่ในการดูแลประชาชนที่เจ็บป่วย โดยขอสัญญาว่าเราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อทุกชีวิต ซึ่งขอความเห็นใจอีกครั้งว่ามันล้นเตียงจริงๆ
เมื่อถามว่าขณะนี้มีหลายโรงพยาบาลที่ขยายเตียงออกมานอกห้องฉุกเฉิน สถานการณ์เตียงในกรุงเทพฯ เป็นอย่างไร นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า เตียงรับผู้ป่วยสีแดงและสีเหลืองของภาครัฐและเอกชนตึงเต็มที่ เรียนว่าติดลบแล้ว หลายแห่งรับได้ 10 ใส่ไป 12 ตอนนี้เรากำลังรอเครื่องผลิตออกซิเจนจากรัฐและเอกชน เพื่อไปทำฮอสพิเทลให้รับผู้ป่วยสีเหลืองที่ต้องการออกซิเจนให้นอนอยู่ในฮอสพิเทลได้ เนื่องจากเครื่องติดขัดมากพอสมควร ซึ่งได้ยินข่าวว่ามีการลักลอบออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะชายแดนเมียนมา
“ฮอสพิเทลในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีห้องประมาณกว่า 2 หมื่นห้อง ถ้าเราแค่แปลง 10% เราจะมีเตียงสีเหลืองเพิ่มทันทีกว่า 2 พันเตียง ก็จะรับประชาชนที่ติดเชื้อสีเหลืองแล้วต้องการออกซิเจนเข้ามาได้ แต่ตอนนี้ยังติดขัดในเรื่องเครื่องผลิตออกซิเจน หรือถังออกซิเจนมากพอสมควร ได้ข่าวว่ามีการลักลอบนำออกไปต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะชายแดนเมียนมา” นพ.สมศักดิ์ย้ำ
เมื่อถามเพิ่มว่า ยาดูแลผู้ป่วยโควิด-19 มีเพียงพอหรือไม่ นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า ในวันนี้สต๊อกในประเทศมี 10 ล้านเม็ด และจะทยอยเข้ามา ซึ่งเดือนหน้าจะทยอยเข้ามาเป็นรายสัปดาห์รวมแล้ว 40 ล้านเม็ดในเดือนหน้า จึงไม่เป็นปัญหา ส่วนกรณีพระภิกษุสามเณรในโรงเรียนปริยัติธรรมย่านบางนาที่ติดเชื้อกว่า 200 รูป ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ได้รายงานว่าใช้รูปแบบ Temple isolation ซึ่งมีวัดหลายแห่งที่ทำเป็นศูนย์พักคอย
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้กำชับกระทรวงมหาดไทย และให้ประสาน กทม.เร่งจัดตั้งพื้นที่พักแยกรักษาตัวเพื่อช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยสีเขียวในชุมชนต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกจังหวัดเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.ต้องเร่งจัดหาพื้นที่ให้ได้อย่างน้อย 1 แห่งในทุกเขต รวมทั้งให้เปิดพื้นที่พักคอย และได้ขอให้ มท.ประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และตำรวจ ร่วมกันลงพื้นที่ไปช่วยเหลือดูแลคนเร่ร่อนและคนด้อยโอกาสด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังลงพื้นที่สำรวจโรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสถานีกลางบางซื่อ เพื่อใช้เป็นศูนย์พักคอยว่า จากการสำรวจเบื้องต้นจะใช้รถไฟตู้นอน จำนวน 15 ตู้ ตู้ละ 16 เตียง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 240 เตียง แต่จำเป็นต้องปรับสภาพภายในให้มีความเหมาะสม และจะขอความอนุเคราะห์กระทรวงมหาดไทยให้ยกเว้นการจัดเก็บค่าไฟและค่าน้ำเพื่อแบ่งเบาภาระ คาดว่าจะเปิดรับผู้ป่วยได้ภายในวันที่ 30 ก.ค.นี้
ขณะที่ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงยอดข้าราชการสภาติดเชื้อโควิด-19 ว่า ในเดือน ก.ค.พบ 12 คน ซึ่งทุกคนได้รับการดูแลอย่างดี และเราจะดูแลเพื่อไม่ให้สภากลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่อย่างเด็ดขาด
บุรีรัมย์ทำสถิติใหม่
ส่วนที่สถานีรถไฟรังสิต จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข พร้อมคณะร่วมส่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับภูมิลำเนาจำนวน 135 รายไปยัง 7 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ยโสธร, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ นั้น นพ.พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 719 ราย ทำให้ผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่รวม 34,417 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 39 ปี ไม่มีโรคประจำตัว รวมเสียชีวิตสะสม 299 ราย
จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 234 ราย รวมผู้ป่วยระลอกใหม่สะสม 5,079 ราย เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 2 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 48 ราย ทั้งนี้มีรายงานว่า บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) มีหนังสือแจ้งถึงผู้ประกอบการ เรื่องพบผู้ติดเชื้อภายในเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร ในพื้นที่เฟส 3 ของโครงการ 90 ราย จึงมีคำสั่งปิดเป็นเวลา 1 เดือน
ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ รายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 216 ราย เป็นตัวเลขผู้ป่วยทำสถิติสูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดมาของ จ.บุรีรัมย์ และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 2,654 ราย และเสียชีวิตสะสม 7 ราย
ส่วนที่ จ.ขอนแก่น พบคลัสเตอร์ใหม่โควิด-19 ที่ตลาดศรีเมืองทอง โดยเบื้องต้นพบผู้ป่วยแล้ว 60 คน ขณะที่เทศบาลเร่งตรวจคัดกรองพ่อค้า-แม่ค้าทั้งตลาด พร้อมส่งทีมทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม หากพบยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจะเตรียมพิจารณาสั่งปิดทั้งตลาดทันที
ในพื้นที่ภาคใต้นั้น คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ ได้ออกประกาศยกระดับตรวจคัดกรองผู้เดินทางจากทุกจังหวัดเข้าพื้นที่กระบี่ โดยมีการตั้งด่านคัดกรอง 6 จุดใน 4 อำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าตลาดสดเทศบาลเมืองปัตตานี มีการตั้งเต็นท์เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยตรวจด้วยชุด ATK ให้กับกลุ่มเป้าหมาย พ่อค้า-แม่ค้าในตลาดเทศวิวัฒน์ และตลาดสดหน้ามัสยิดกลาง กว่า 300 คน ซึ่งพบกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดเทศวิวัฒน์ติดเชื้อโควิด 26 คน และตลาดสดหน้ามัสยิดกลาง 5 คน และล่าสุดได้มีคำสั่งจากเทศมนตรีเมืองปัตตานีให้ปิดตลาดเทศวิวัฒน์แล้ว
ไม่ต่างจากตลาดกอบกุล บ้านคลองแงะ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้มีการนำป้ายเขียนข้อความ “ปิดชั่วคราว” ซึ่งเป็นการปิดตลาดกอบกุลหลังพบแม่ค้าติดเชื้อโควิด-19 จำนวนหนึ่ง ส่วนภาพรวมจังหวัดนั้นพบผู้ติดเชื้อ 196 ราย เสียชีวิต 1 คน ยอดติดเชื้อสะสม 10,880 คน เสียชีวิตสะสม 58 คน
ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯ ภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดภูเก็ต มีผู้ติดเชื้อรายวันในจังหวัดสูงขึ้นกว่า 20 รายต่อวัน จังหวัดจึงมีมาตรการต่างๆ ที่เข้มขึ้นในการคัดกรองคนเข้ามา แต่ยังจะเดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินหน้าต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |