"บิ๊กตู่" กำชับ จนท.เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง "ศบค." ห่วงจุดฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อแออัด เตรียมนัดถกหามาตรการแก้ไข "333 นักวิชาการ-สื่อ-ปชช." ออกแถลงการณ์จี้รัฐเปิดข้อมูลจัดซื้อและแผนบริหารวัคซีนสู้โควิด-19 "พท." ปูดวัคซีน 4 ล้านโดสเข็มของแพทย์หาย บี้ "นายกฯ" ตอบเอาไปให้ใคร
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต
โดยช่วงที่ผ่านมา กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) สำนักอนามัย กทม. สำนักงานเขต ในพื้นที่ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) จัดทีมลงพื้นที่เร่งบริการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ เป็นลำดับแรก ก่อนในชุมชนต่างๆทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งได้ให้คำแนะนำแนวทางการป้องกันโรคโควิด-19 ตามมาตรการ D-M-H-T-T ของสาธารณสุข เพื่อลดอัตราการแพร่กระจายของเชื้อ
"จํานวนยอดสะสมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไทยถึงวันที่ 25 ก.ค.2564 รวมทั้งสิ้น 15,994,842 ราย จําแนกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จํานวน 12,339,985 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 จํานวน 3,654,857 ราย สำหรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มียอดสะสม 5,318,434 โดส แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 3,341,846 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม จำนวน 988,294 ราย" นายอนุชากล่าว
ด้าน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงความแออัดที่จุดฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อว่า ศปก.ศบค.หารือกันมาตลอด เพราะได้รับรายงานว่านอกจากประชาชนใน กทม.ไปรับการฉีดแล้ว จะมีประชาชนจากต่างจังหวัดด้วย เช่น ราชบุรีและสุพรรณบุรี ที่ได้รับทราบข่าวว่ามีการเปิดวอล์กอินให้ฉีดวัคซีน สธ.มีความเป็นห่วงว่าขณะนี้เราอยู่ในมาตรการห้ามเคลื่อนย้าย เดินทาง โดยเฉพาะการเข้า-ออกพื้นที่สีแดงเข้มก็ยังเป็นข้อห้าม แต่การฉีดวัคซีนเป็นนโยบายที่เร่งระดมให้ฉีดวัคซีน ขอฝากไปยังสถานีกลางบางซื่อให้ทบทวนเรื่องของการชะลอไม่ให้ประชาชนจำนวนมากมาออกัน
"การจัดระเบียบ การเว้นระยะห่างทำได้ค่อนข้างจำกัด โดยในที่ประชุมจะมีการหารืออย่างเร่งด่วน เพราะตอนนี้ยังอนุญาตใหวอล์กอินมาฉีดวัคซีนได้ แต่ขอให้ประชาชนทราบว่ามีความหนาแน่นพอสมควร หากชะลอได้ในช่วงนี้จำเป็นต้องชะลอก่อน ที่สำคัญ สธ.เน้นย้ำว่าทุกจังหวัดทั่วประเทศจะต้องฉีดวัคซีนเข็ม 1 ให้ได้ 50% เพราะในปัจจุบันตัวเลขยังเดินช้า กรมควบคุมโรครายงานว่าในส่วนของจังหวัดอื่นๆ มีการจัดส่งวัคซีนไปแล้ว และยังรอค้างอยู่ประมาณ 2 ล้านโดส ขอให้เร่งระดมฉีดด้วย โดยเน้นย้ำให้มีการนัดหมายที่เหมาะสม เข้มมาตรการด้านสาธารณสุข เว้นระยะห่าง ไม่แออัด จะได้ไม่กลายเป็นที่แพร่เชื้อ ส่วนข้อมูลการฉีดวัคซีนวันที่ 25 ก.ค. มีจำนวน 90,934 โดส ทำให้มียอดฉีดวัคซีนสะสม 15,906,778 โดส" ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าว
ขณะที่เครือข่ายนักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชน ได้ออกแถลงการณ์เสนอขอให้เปิดเผยข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19 ตามหลัก Open data โดยมีผู้ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ดังกล่าวจำนวน 333 ราย
แถลงการณ์ตอนหนึ่งระบุว่า เครือข่ายฯ จึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 41 (1) ประกอบมาตรา 59 และ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ซึ่งรับรองสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสาธารณะที่อยู่ในครอบครองของรัฐและกำหนดเป็นหน้าที่ให้รัฐต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่ประชาชน โดยเสนอให้รัฐบาล ศบค.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยข้อมูลบริหารจัดการและกระจายวัคซีนโควิด-19
โดย 1.เปิดเผยกระบวนการเสนอ อนุมัติ และลงนามในสัญญาจัดซื้อวัคซีนที่ผ่านมาและในอนาคต รวมถึงเงื่อนไขสำคัญๆ ในสัญญาจองซื้อและจัดซื้อวัคซีนทุกยี่ห้อ อาทิ จำนวนโดส อายุสัญญา กำหนดการส่งมอบ บทลงโทษกรณีส่งมอบล่าช้า การยกเว้นความรับผิดให้กับผู้ผลิต เป็นต้น 2.เปิดเผยแผนการจัดหาวัคซีนทุกชนิดต่อสาธารณะ รวมทั้งแผนการทดแทนวัคซีนที่ขาดแคลนในปัจจุบัน และการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอและทั่วถึงในอนาคต 3.เปิดเผยหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนสำหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่มีรายละเอียดการจัดลำดับความสำคัญ และจำนวนกลุ่มเป้าหมายของการจัดสรร 4.เปิดเผยแผนการฉีดวัคซีนและการบริหารจัดการวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมายที่วางหลักเกณฑ์ไว้ 5.เปิดเผยความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเป็นรายวัน โดยมีรายละเอียด ชนิดวัคซีน บุคคลกลุ่มต่างๆ ตามหลักเกณฑ์ พร้อมข้อมูลลักษณะประชากร ข้อมูลเชิงพื้นที่ (รายจังหวัด) และข้อมูลเชิงหน่วยงานที่ดำเนินการ
"ข้อมูลที่ต้องเปิดเผยให้เป็นไปตามมาตรฐาน Open Data Standard ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลที่ให้สื่อมวลชนและประชาชนสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ง่าย มีความ ละเอียด ครบถ้วน สมบูรณ์ อัพเดตอย่างสม่ำเสมอ และอยู่ในรูปแบบที่เครื่องสามารถอ่านได้ (Machine-Readble Format) เช่น ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบไฟล์ XLS หรือ CSV พื่อให้การบริหารจัดการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ทั่วถึง และเป็นธรรม ขึ้นเกิดได้จริง ให้ประชาชนมีความหวัง และสร้างบรรยากาศที่พร้อมให้ร่วมมือกับรัฐบาลในการผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้" ท้ายแถลงการณ์ระบุ
วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีรายงานข่าวจากเดิมจะมีการฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์จำนวน 7 แสนโดส ล่าสุดลดลงเหลือเพียง 3 แสนโดส อีก 4 แสนโดสหายไปไหน รัฐนำไปให้ใคร พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกมาพูดความจริงว่าวัคซีนที่หายไปอยู่ที่ไหน หรือนำวัคซีนที่คุณภาพดีเอาไปให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์จริงหรือไม่
"ผลงานการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จนถึงเวลานี้ความเชื่อมั่นความเชื่อถือที่เคยมีหมดไปแล้ว ประชาชนหมดสิ้นศรัทธากับรัฐบาล ชี้ชัดว่าหมดเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว" นพ.ชลน่านระบุ
ที่ จ.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ทำหนังสือชี้แจง พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดขอฉีดวัคซีนเข็ม 3 ต่อสาธารณสุขว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ได้ประสานให้ช่วยจัดเตรียมตำรวจที่มีจิตอาสาขับรับ-ส่งผู้ติดเชื้อเพื่อไปรับการรักษาตามสถานพยาบาลต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ และรับ-ส่งผู้ติดเชื้อจาก กทม.และปริมณฑลกลับมารักษาโรคต่อที่ จ.บุรีรัมย์ จึงส่งตำรวจที่มีจิตอาสาไป 11 นาย ต่อมาสาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมวัคซีนมาฉีดเพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มีศักยภาพในการป้องกันโควิดก่อนปฏิบัติหน้าที่ให้ที่ตำรวจ 11 นาย ที่ถือเป็นบุคลากรหรือผู้ให้บริการด่านหน้าตามนโยบายของรัฐบาล
"ในพื้นที่ของ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ มีทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มีจิตอาสาดูแลบริการผู้ติดเชื้อรวม 40 คน ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการด่านหน้าก็ได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 แล้วเช่นกัน" ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ระบุ
ต่อมา พล.ต.ต.รุทธพลให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ตำรวจที่เป็นประเด็นในครั้งนี้ทางตำรวจเราไม่ได้ไปเอาโควตาทางการแพทย์หรือพยาบาล แต่จำนวนวัคซีนที่ลงไปเป็นวัคซีนในส่วนของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ส่วนหนึ่งกับกลุ่มเสี่ยงอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งวัคซีนขวดหนึ่งสามารถนำไปแบ่งฉีดได้ 10-12 โดส และโดยทั่วไปบุคลากรทางการแพทย์สามารถบริหารส่วนนี้ได้ ส่วนที่เป็นเศษ 1 หรือ 2 ได้ กรณีที่มีเศษ เจ้าหน้าที่ได้มีการพิจารณากันแล้วว่าตำรวจก็มีส่วนเป็นด่านหน้าเช่นเดียวกัน ซึ่งทางสาธารณสุขแต่ละอำเภอก็รู้ว่ามีใครตำรวจคนไหนบ้าง ที่เข้าโครงการกลับภูมิลำเนาของตนเอง ก็เลยมีการประสานกันแล้วตำรวจทั้ง 11 คนนี้ก็ได้เข้าไปฉีด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |