ฝ่ายค้านจ่อยื่นญัตติซักฟอกสัปดาห์ที่สอง ส.ค. คาดได้อภิปรายปลายเดือนหน้า ตีปี๊บข้อมูลเพียบล้มเหลวแก้โควิด ล็อกเป้าถล่ม "บิ๊กตู่" พ่วง รมต.ที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายมั่นคงสยบปั่นกระแส "นายกฯ พระราชทาน" เย้ยแค่เต้าข่าว การันตีประยุทธ์อยู่ต่อยาวอีกปีครึ่ง ชายชาติทหารไม่ทิ้งประชาชนแน่
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า จากการหารือกันได้มีการกำหนดเบื้องต้นว่าจะอภิปรายช่วงหลังจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2565 วาระ 2-3 ระหว่างวันที่ 18-19 ส.ค.แล้วเสร็จ ดังนั้นจึงกำหนดคร่าวๆ ว่าจะยื่นญัตติให้กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนวันที่จะมีการอภิปรายงบประมาณ 1 สัปดาห์ คือประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือน ส.ค. หรือไม่เกินสัปดาห์ที่สาม เพื่อให้สภาได้มีเวลาตรวจสอบญัตติ เนื่องจากกำหนดไว้ว่าต้องมีการตรวจสอบ 7 วันก่อนจะบรรจุ เมื่อบรรจุแล้ว ทางสภาต้องแจ้งไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้ที่จะถูกอภิปราย และกว่าที่จะมาตอบอีก บางทีใช้เวลาเป็นเดือน หรืออาจ 2-3 สัปดาห์ หากมีการแก้ไข
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขณะที่ที่ชัดเจนคืออภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมเป็นหลัก ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นให้ผู้รับผิดชอบไปพิจารณาเนื้อหาเรื่องความเกี่ยวข้อง และจะมากำหนดกันอีกครั้ง รวมทั้งต้องรอฟังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย เนื่องจากมีการประชุมพรรคร่วมไปแล้วว่าให้พรรคร่วมได้แสดงความเห็นว่ามีความประสงค์จะอภิปรายผู้ใดอย่างไร และจะนำมาทำเป็นญัตติรวม
ส่วนเนื้อหาที่จะอภิปรายในครั้งนี้ จะเน้นเรื่องความผิดพลาด ความบกพร่อง ความล้มเหลวในการบริหารจัดการแก้ปัญหาโควิด-19 รวมทั้งการบริหารจัดการวัคซีน หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจและเรื่องอื่นๆ ที่มีความชัดเจน เช่น มีหลักฐานที่เข้าข่ายการทุจริตต่างๆ รวมแล้วแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ 4 เรื่อง
เมื่อถามว่าจะมีการยื่นอภิปรายฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุขด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า อยู่ที่เนื้อหาสาระ
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคกำลังรวบรวมและประมวลผลข้อมูล จึงยังไม่สามารถระบุความคืบหน้าอย่างชัดเจนได้ และยังไม่ได้กำหนดว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีกี่คน อย่างไรก็ตาม รูปแบบจะเน้นในประเด็นสำคัญ และตัวบุคคล เพราะเราเห็นความบกพร่องในการบริหารจัดการการแพร่ระบาดโควิด-19 จนทำให้เกิดการระบาดที่ลุกลามไปทั่ว และรวดเร็ว รวมถึงการจัดการวัคซีนที่เข้าข่ายปกปิดหลอกลวงประชาชน
นายวิโรจน์กล่าวว่า บางประเด็นการอภิปรายที่ยาวเกินไปจะแบ่งให้อภิปรายหลายคน ตามความถนัดของ ส.ส. สำหรับได้ติดตามข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้พบเอกสารและหลักฐานที่เชื่อมโยงว่าทั้งหมดทั้งมวลน่าจะเป็นไปได้ที่รัฐปกปิดความจริง และอำพรางข้อมูลที่ประชาชนควรรู้ จนนำพา 67 ล้านคนเข้าสู่ความเสี่ยง และเกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านระบุหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีความล้มเหลวการบริหารสถานการณ์โควิด-19 จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแน่ ว่า อย่าเพิ่งไปให้ความเห็น เรื่องนี้ให้เขายื่นมาก่อน แล้วเราค่อยไปว่ากัน ซึ่งต้องดูก่อน เพราะสถานการณ์ทางการเมืองไม่แน่นอน รอให้เขายื่นแน่ๆ ก่อนแล้วมาแสดงความเห็นกัน
วันเดียวกัน แหล่งข่าวระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคง ระบุถึงกรณีที่สังคมออนไลน์ โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ปลุกกระแสติดแฮชแท็กไม่เอานายกรัฐมนตรีพระราชทานตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา โดยมีการวิเคราะห์ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จนทำให้แฮชแท็กดังกล่าวติดเทรนด์ขึ้นอันดับได้รับความนิยมในไทยว่า เป็นการเต้าข่าว ซึ่งการที่จะมีนายกฯ พระราชทาน หรือเปลี่ยนตัวนายกฯ นั้นไม่เป็นความจริง 100% เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำอะไรผิด กรณีนี้เป็นการนำเรื่องการเมืองมาเล่นเพื่อหวังปั่นกระแส
"ยืนยันได้ว่าภายใน 1 ปีครึ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ลาออกหรือยุบสภาแน่นอน โดยเฉพาะตอนนี้ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 กำลังวิกฤติหนัก ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะมีการเลือกตั้งและหาเสียง อีกทั้งนิสัยส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นชายชาติทหารสูงมาก ไม่ใช่คนที่จะยอมทิ้งประเทศ และทิ้งประชาชนให้เผชิญกับปัญหาลำพังแล้วเอาตัวรอดคนเดียว ซึ่ง 7 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์มีทั้งพีกสูงสุดและตกต่ำสุด ซึ่งตอนนี้ถือว่าต่ำสุด เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด" แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงระดับสูงระบุ
ส่วนกรณีที่มีความพยายามเชื่อมโยงสถานการณ์นายกฯ พระราชทาน พร้อมกับวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือท่านชายใหม่ ที่ช่วงหลังออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กคล้ายกับตำหนิการทำงานของรัฐบาล โดยไม่เชียร์รัฐบาลแบบเมื่อก่อนนั้น แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวว่า ไม่มีอะไร และไม่เกี่ยวข้องกัน การโพสต์ข้อความต่างๆ ของ พล.อ.หม่อมเจ้าจุลเจิม เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น การให้ข้อเสนอแนะเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน และการแก้ไขปัญหาโควิดเท่านั้น แต่กลับมีการนำมาเต้าข่าวและสร้างเรื่อง เพื่อหวังให้เป็นประเด็นการเมือง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |