โควิดต่างจังหวัดยังแรง “ปากน้ำ” ติดเชื้อใหม่ทะลุพัน ส่วน “บึงสามพัน” อาการหนักยอดล่าสุด 3,177  ราย “เชียงใหม่” โอดยอดพุ่งเพราะมีคนป่วยแห่มารักษา  “นครศรีฯ” ติดเชื้อทำนิวไฮ    
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ในจังหวัดต่างๆ ยังคงมีความรุนแรงในหลายพื้นที่ เริ่มที่จังหวัดปริมณฑลอย่างสมุทรปราการ พบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1,056 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ทั้งสิ้น 32,728 ราย และมีผู้เสียชีวิต 7 ราย เป็นเพศชาย 3 ราย และหญิง 4 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 297  ราย
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่เพิ่ม  100 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมของการระบาดระลอกใหม่เป็น 5,128 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดสะสมเป็น 30 ราย ซึ่งนอกจากตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อ-19 จากต่างพื้นที่ โดยเฉพาะจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้มตั้งใจเดินทางเข้า จ.เชียงใหม่ เพื่อขอเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย รายงานสถานการณ์ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 22 ราย รวมยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,504 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย  รวมมีผู้เสียชีวิตสะสม 23 ราย
ขณะที่ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ หลังพบแรงงานเมียนมาติดเชื้อจำนวนมาก และจังหวัดมีคำสั่งให้ปิดโรงงานแปรรูปไก่ บริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัดนั้น  เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ก.ค. ผลสุ่มตรวจ Antigen  Test Kit ผู้ที่ลงทะเบียน 6,587 ราย พบผลเป็นบวกถึง 3,177 ราย เป็นคนงานไทย 372 ราย และต่างด้าว 2,805 ราย ทำให้ช่วงเช้าต้องนำยาฟ้าทะลายโจร 7,000 แคปซูลไปมอบให้นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย  นายอำเภอบึงสามพัน นำไปรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง
ล่าสุด ทีมควบคุมโรคจังหวัดได้ลุยตรวจชุมชนโดยรอบบริษัทจำนวน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ พื้นที่หมู่ 2 บ้านเขาเกตุ บ้านหนองปล้อง หมู่ 4 บ้านลำตะคล้อ และหมู่ 15  บ้านลำตะคล้อเหนือ ต.กันจุ รวมทั้งมีมาตรการตั้งด่านคัดกรองคนเข้า-ออก 7 จุด โดยการสุ่มตรวจชาวบ้าน 115 ราย พบผู้ติดเชื้อ 19 ราย
ส่วนที่ จ.ตราด หลังจากแม่ค้าขายไก่ในตลาดศูนย์การค้าเทศบาลเมืองตราดติดเชื้อโควิด-19 ได้มีการขยายผลแม่ค้าในตลาด 150 ราย พบว่ามีผู้ติดเชื้อ 6 ราย จึงได้สั่งการให้ปิดตลาดเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 26  ก.ค.เป็นต้นไป
    สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดภาคอีสาน ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ รายงานว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่อีก 66 ราย  กระจายใน 10 อำเภอ ส่วนที่เรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งให้จัดการและควบคุมคลัสเตอร์ในเรือนจำตามที่กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด  โดยไม่มีการย้ายนักโทษใดๆ ออกจากเรือนจำ และบริหารจัดการพื้นที่แบบโรงพยาบาลสนาม ซึ่งนักโทษที่อยู่ในการควบคุมของเรือนจำแห่งนี้มีมากกว่า  4,458 คน ขณะนี้ยืนยันติดเชื้อแล้ว 929 คน และอยู่ในขั้นตอนการตรวจคัดกรองอีกกว่า 1,620 คน 
     ขณะที่ จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยใหม่เพิ่มอีก 351  ราย โดยเป็นผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 152 ราย ติดเชื้อมาจากการสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 178 ราย และป่วยโควิดเดินทางมารักษา 21 ราย รวมผู้ป่วยระลอกใหม่สะสม 4,627 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เสียชีวิตสะสม 44 ราย 
“จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าการสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่  โดยเฉพาะ อ.ปากช่องที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย และยังมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 2 คลัสเตอร์ในพื้นที่ ขณะนี้ได้ขยายวงกว้างไปวงที่ 3 แล้ว”
    สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญรายงานว่า  มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่ม 32 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสมระลอก 3 จำนวน 665 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยังคงอยู่ที่ 6 ราย
ด้านสถานการณ์ในภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราชพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 259 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม  2,950 ราย เสียชีวิตสะสม 28 ราย ซึ่งยอดผู้ป่วยวันนี้นับเป็นยอดสูงสุดของผู้ติดเชื้อโควิดตั้งแต่ต้นปี 2563  ไม่ต่างจาก จ.ปัตตานีที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง 275 ราย  และเสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย ซึ่งขณะนี้มียอดติดเชื้อสะสม 7,488 ราย เสียชีวิตสะสม 91 ราย 
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 202 ราย ติดเชื้อสะสม  10,487 ราย เสียชีวิตสะสม 56 ราย โดยมาจากคลัสเตอร์เดิม กลุ่มผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่มากที่สุด และตามมาด้วยกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน.