ไทยแห้วสหรัฐไม่ยอมเว้นเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม


เพิ่มเพื่อน    

"ทรัมป์" ไม่ยกเว้นเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากไทย ตามที่ร้องขอ "สนธิรัตน์" ยันเดินหน้าเจรจาต่อรองต่อ ไม่หยุดแน่ ขณะที่ "ชุติมา" เตรียมบินไปสหรัฐฯ ถกยูเอสทีอาร์แก้ปัญหาร้อน ทั้งเหล็ก-หมู

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจที่จะไม่ยกเว้นรายประเทศให้กับไทย ตามที่ไทยร้องขอ โดยยังคงยืนยันการเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอะลูมิเนียมจากไทยในอัตรา 25% และ 10% ตามลำดับ ภายใต้มาตรา 232 กฎหมาย Trade Expansion Act 1962 หลังจากเมื่อเดือนเม.ย.61 ตนได้ทำหนังสือถึงสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) เพื่อขอให้พิจารณายกเว้นเก็บภาษีสินค้าดังกล่าวจากไทย

"หลังจากนี้เราก็ต้องเจรจาต่อ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการเจรจาต่อรอง กระทรวงพาณิชย์จะไม่ท้อถอย และไม่หยุดเจรจา เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ เช่นเดียวกับเรื่องที่สหรัฐฯต้องการให้ไทยเปิดตลาดเนื้อหมู และผู้ผลิตสุกรของสหรัฐฯ ยื่นเรื่องให้ยูเอสทีอาร์ พิจารณาตัดสิทธิพิเศษทางการค้า (จีเอสพี) สินค้าไทย โดยอ้างไทยไม่เปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯอย่างเป็นธรรม และสมเหตุสมผล ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องเจรจาเช่นกัน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สหรัฐฯไม่ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากไทย ภายใต้มาตรา 232 ไปแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้สอบถามไปยังยูเอสทีอาร์เพื่อขอรับทราบเหตุผล แต่กลับได้รับคำชี้แจงว่า ยูเอสทีอาร์มีหน้าที่จัดทำความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่การตัดสินใจจะยกเว้นหรือไม่ อยู่ที่ประธานาธิบดีเพียงคนเดียว แม้ว่าข้อมูลที่แต่ประเทศยื่นประกอบการพิจารณาจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมา นายสนธิรัตน์ ได้ทำหนังสือไปยังสหรัฐฯอีกครั้ง เพื่อขอให้พิจารณายกเว้นไทยรายประเทศ

โดยยืนยันว่า ไทยมีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะได้รับการยกเว้น ทั้งมีความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงที่แน่นแฟ้นกับสหรัฐฯ, ปริมาณการส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมของไทยไปสหรัฐฯมีสัดส่วนน้อย ไม่ส่งผลกระทบ และไม่เป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมภายในของสหรัฐฯ, สินค้าทั้ง 2 รายการจากไทยส่วนใหญ่เป็นสินค้าขั้นต้นและขั้นกลาง ที่สหรัฐฯนำไปผลิตเป็นสินค้าขั้นสูง และไทยมีมาตรการแก้ไขปัญหา เพื่อจำกัดปริมาณการส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมมายังสหรัฐฯ และแก้ปัญหาการผลิตเหล็กเกินของตลาดโลก เช่น การใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มและการอุดหนุน (เอดี/ซีวีดี) การใช้มาตรการป้องกันการแอบอ้างการสวมสิทธิเหล็กที่ส่งออไปสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมแอบอ้างถิ่นกำเนิดจากไทยส่งออกไปสหรัฐฯ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ มีกำหนดจะเดินทางเยือนสหรัฐฯในช่วง กลางเดือนก.ค.นี้ และจะขอหารือกับยูเอสทีอาร์ในเรื่องเหล็ก รวมถึงประเด็นปัญหาการค้าอื่นๆ ที่ยังเป็นอุปสรรคระหว่างกัน โดยเฉพาะกรณีที่สหรัฐฯจะกดดันให้ไทยเปิดตลาดนเข้าเนื้อหมูและเครื่องในที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้าง และกรณีที่ยูเอสทีอาร์อยู่ระหว่างพิจารณาคำขอของสมาพันธ์ผู้ผลิตสุกรแห่งสหรัฐฯ ที่ขอให้ตัดจีเอสพีสินค้าไทย เพราะไทยไม่เขาข่ายที่จะได้รับสิทธิ์ เนื่องจากไม่เปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯอย่างเป็นธรรม และสมเหตุสมผล

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ แนะนำให้ผู้ส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมของไทยประสานกับผู้นำเข้าสหรัฐฯ ที่เป็นคู่ค้า ให้ยื่นเรื่องขอยกเว้นการเก็บภาษีเป็นรายสินค้ากับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ยกเว้นการเรียกเก็บภาษีนำเข้ากับท่อเหล็กจากไทยสำหรับการส่งออกแต่ละครั้ง (ชิปเมนต์) หลังจากที่ผู้ผลิตท่อเหล็กไทยได้ประสานผู้นำเข้าสหรัฐฯขอให้กระทรวงพาณิชย์ยกเว้นเก็บภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทยเป็นรายพิกัดศุลกากร


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"