จัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะฯ จังหวัดยโสธร มีความผิดปกติแน่นอน "โกศล "พบข้อผิดสังเกตุ พบส่วนกลางสพฐ.เตะถ่วงเวลา ไม่ยอมใช้งบฯ แต่พอใกล้หมดปีงบประมาณ กลับรีบขุดมาจัดซื้อจัดจ้างอย่างเร่งด่วน ลักษณะท็อปดาวน์ ไม่ถามความต้องการของโรงเรียน ลั่นจะต้องจาะลึกทุกโรงเรียน ว่ามีพฤติกรรมแบบเดียวกันหรือไม่
พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ที่ปรึกษา รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง กรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น งบประมาณ 6 แสนบาทต่อโรงเรียน ในเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดยโสธร ซึ่งมีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้หารือร่วมกับนายอรรถพลในเบื้องต้นถึงแนวทางการสืบข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าว และด้วยนายอรรถพลได้ตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้มาส่วนหนึ่ง อีกทั้งยังรู้เรื่องความเป็นมาของงบประมาณโครงการนี้ตั้งแต่แรก ตนจึงเชื่อว่านายอรรถพลจะเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี และจะสามารถรายงานผลการสืบข้อเท็จจริงของโครงการนี้ให้ทั้งตนและ รมว.ศธ. ได้รับทราบเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายอรรถพลได้สืบเจาะลึกในส่วนของข้อมูลมาแล้วพบ งบประมาณโครงการนี้ได้รับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณมาเป็นเวลานานแล้วตั้งแต่ปี 2560 แต่ไม่มีการนำงบประมาณดัวกล่าวมาใช้ แล้วเมื่อถึงช่วงเวลาใกล้งบประมาณจะต้องตกไป แต่กลับมีการเร่งรัดให้มีการดำเนินการ คล้ายกับว่าเป็นเตะถ่วงรอเวลาจนมาอนุมัติในช่วงสุดท้ายของเดือนพฤษภาคม สำนักไม่ใช้ฯ ขุดโครงการขึ้นมารีบเร่งจัดซื้อจัดจ้าง พวกสำนักสพฐ.ส่วนใหญ่ดึงเวลา อมงบฯไว้ ท็อปดาวน์ ไม่ได้ถามความต้องการของโรงเรียน
พล.ท.โกศล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังได้รับรายงานว่า บุคลากรในสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลเป็นอย่างดี เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากคนในกลุ่มสำนักงานมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัด สพฐ. ซึ่งไม่เกี่ยวกับตัวผู้อำนวยการสำนักฯ และผู้อำนวยการสำนักฯ เองก็ได้เข้ามาเปิดข้อมูลบางส่วนให้กับคณะทำงานของตน เกี่ยวกับรายละเอียดในวันที่เซ็นอนุมัติงบประมาณนั้น ผอ.สำนักมัธยมศึกษาตอนปลาย อยู่ในช่วงลางาน ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ และได้ทำหนังสือแจ้งด้วยว่าการเซ็นอนุมัติงบประมาณหรืองานบุคคลให้เป็นอำนาจของผอ.สำนักฯเท่านั้น ซึ่งโดยมารยาทแล้วผู้ที่รักษาราชการแทนก็ไม่ควรเซ็น อย่างไรก็ตาม ความไม่ชอบพากลในประเด็นนี้ จะมีรายละเอียดอย่างไรนั้น คงต้องรอข้อมูลจากการสืบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ซึ่งหากพบมูลความผิดชัดเจนคนที่โดนย้ายไปอยู่ ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 15 ก็อาจจะมีความผิดหนักขึ้น แต่ถ้าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบข้อเท็จจริงก็อาจจะมีการพิจารณาให้ปรับโทษหนักเป็นเบาได้
“ผมมั่นใจว่าการสืบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มีความผิดปกติอย่างแน่นอน ซึ่งประธานสืบข้อเท็จจริงจะมีการแจงรายละเอียดและแยกรายละเอียด แต่ละโรงเรียนมาให้ดูอย่างชัดเจนว่าในแต่ละโรงเรียนทำอะไร อย่างไรมีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ หรือโรงเรียนไหนที่ถูกสอดไส้ รวมถึงโรงเรียนที่ไม่ได้มีความจำเป็นหรือต้องการครุภัณฑ์ดัวกล่าว แต่ถูกยัดเยียดให้รับ ทั้งนี้ผมได้กำชับนายอรรถพล ว่า การดำเนินการสืบข้อเท็จจริงโครงการครุภัณฑ์ฝึกทักษะฯ ของเขตพื้นที่ จังหวัดยโยธร จะต้องเร่งสืบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด"ที่ปรึกษา รมว.ศธ.กล่าว