น่าจะทำให้ประเด็นดรามา คอลเอาต์ จบเสียที เมื่อคนกลางอย่าง ตำรวจ ออกมาชี้ชัดข้อกฎหมายภายหลัง สนธิญา สวัสดี อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตคณะทำงานยุทธศาสตร์พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนใต้ (สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์) เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ให้ตำรวจตรวจสอบกรณีการคอลเอาต์ของดารา นักร้อง และผู้มีชื่อเสียง เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เข้าข่ายการกระทำที่ผิดต่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หรือไม่ โดย บิ๊กต๊ะ-พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น. ยืนยันการออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ สามารถทำได้ เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่การแสดงความคิดเห็นต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และควรคำนึงถึงความถูกต้องด้วย ๐
แวดวง สีกากี ยังคงโดนไวรัสโควิด-19 เล่นงานต่อเนื่อง ล่าสุดโรงพัก พุทธมณฑล จ.นครปฐม มีตำรวจ สภ.พุทธมณฑล ยศ ร.ต.ท. ปฏิบัติราชการรอง สว.(สอบสวน) ผลตรวจเชื้อโควิด-19 ยืนยันเป็นบวก เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้สัมผัสใกล้ชิด ร.ต.ท. ตั้งแต่ระดับ พ.ต.ท.-ส.ต.ต. และนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.) และลูกจ้างประจำโรงพักรวม 28 นาย รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงที่พักอาศัยอยู่ที่แฟลตข้าราชการตำรวจอีกจำนวนหนึ่งก็ต้องกักตัว ตอนนี้ใครไปติดต่อราชการที่ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ด้านหน้าประตูทางเข้าที่ประชาชนมาติดต่อราชการมีป้ายข้อความว่า "เนื่องจากร้อยเวรติดโควิดและเจ้าหน้าที่มีความเสี่ยงสูง หากไม่จำเป็นงดแจ้ง กรณีจำเป็นเร่งด่วนแจ้งสถานีใกล้เคียง” เฮ้อ...โควิดทำเดือดร้อนกันทั่วหน้าจริงๆ ๐
รับสนองนโยบาย ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้ทุกเหล่าทัพเตรียมความพร้อมและใช้พื้นที่ของอาคารสโมสรของหน่วยงานจัดทำเป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วยและโรงพยาบาลสนาม ในการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วน ตำรวจ ทาง ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. มอบหมาย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลตำรวจ ลงสำรวจสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีฯ เตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ในการเปิดรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวจำนวน 40-50 เตียง และขยายปรับปรุงพื้นที่สามารถรองรับได้จำนวน 200 เตียง รวมทั้งยังให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยตำรวจในพื้นที่แนวชายแดนเข้มงวดกวดขัน จับกุมการลักลอบข้ามแดน และการเดินทางเข้าออกประเทศที่ผิดกฎหมาย ๐
เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เข้าขั้นวิกฤติทั้งร่างกายและจิตใจก็ต้องได้รับการดูแล พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเอาไว้ช่วงโควิดอาจเกิดภาวะความเครียดสะสมเรื้อรัง จนนำไปสู่การเกิดปัญหาสุขภาพจิตหรือมีอาการของโรคซึมเศร้า รวมถึงในบางครั้งก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและสังคม โดยเฉพาะการกระทำต่อเด็กและสตรี ดังนั้นทั้งประชาชนและตำรวจที่เกิดความเครียดสะสมอย่างไม่รู้ตัว ขอแนะนำโครงการ "Depress We Care ซึมเศร้าเราใส่ใจ” ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นช่องทางให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความเครียด ภาวะซึมเศร้า รวมทั้งปัญหาสุขภาพจิตต่างๆ แก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัว ผ่านเพจเฟซบุ๊ก 2 เพจ ที่ชื่อว่า "Depress We Care ซึมเศร้าเราใส่ใจ" ให้คำปรึกษาทางด้านสุขภาพจิต และ "Because We Care" ให้คำปรึกษาในด้านความรุนแรงต่อเด็กและสตรี และผู้ที่ถูกกระทำรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมามีสถิติจำนวนผู้ขอรับคำปรึกษาผ่านสายด่วนและ Inbox ของ Facebook Page ค่อนข้างสูง ดังนั้นหากใครเครียด ใครมีภาวะเช่นนี้รีบปรึกษาด่วน ๐
มีเสียงถามหาทหารในช่วงวิกฤติโควิด ไม่ค่อยเห็นออกมาช่วยกันพรึ่บพรั่บ ต่างจากช่วงน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ กองประชาสัมพันธ์ทุกกองทัพส่งต่อข้อมูลแจกแจงภารกิจเต็ม 2 หน้ากระดาษ ยืนยันทหารออกไปช่วยประชาชนตั้งแต่วันแรก จนล่าสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศใช้อาคารสโมสร หรืออาคารอเนกประสงค์ในค่ายทหารทั่วประเทศ เป็นโรงพยาบาลสนามศูนย์คัดกรอง เพื่อประเมินอาการและดูแลผู้ป่วยสีเขียวในเบื้องต้น ในพื้นที่ กทม.ใช้สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีฯ จัดเตรียมตั้งเป็น โรงพยาบาลสนามศูนย์คัดกรอง (สโมสร ทบ.) เพื่อเป็นศูนย์แรกรับผู้ป่วยในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ก่อนส่งต่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่ สธ.กำหนด ซึ่งเมื่อพร้อมเปิดดำเนินการจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 300-400 เตียง ตามมาด้วยการใช้อากาศยานทางทหาร เครื่องบินลำเลียง C295 และ M-17 เคลื่อนย้ายส่งผู้ป่วยกลับบ้าน พร้อมจัด หมวดการศพ ทหารพลาธิการจาก พล.1 รอ., พล.ม.2 รอ., พล.ปตอ., มทบ.11 จำนวน 30 นาย เคลื่อนย้ายศพผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่อื่นนอกโรงพยาบาล
ด้านกองทัพอากาศ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ สั่งการให้กองบิน 6 จัดเครื่องบิน ATR ส่งชุดตรวจ Rapid Antigen Test Kit จำนวน 12,600 ชุด ไปส่งมอบโรงพยาบาลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจัดพื้นที่ตรวจเชิงรุกในสนามธูปะเตมีย์ ขณะที่ภาพรวมของเหล่าทัพที่ยังติดขัดและประชาชนถามไถ่กันเข้ามามาก คือเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อประสานงานและข้อมูลในการชี้แจงไม่ค่อยตรงกับข้อมูลที่ประชาสัมพันธ์ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเกิดจากมีปริมาณผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทำให้คิวการตรวจเชิงรุกเต็มเร็ว หรือแม้กระทั่งบางคู่สายไม่มีคนรับในเรื่องของศูนย์เคลื่อนย้าย หากเป็นไปได้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ภารกิจล้นมือ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ทันท่วงที อาจต้องหาคำแนะนำเฉพาะหน้าเพื่อคลี่คลายในเบื้องต้น ไม่ปล่อยให้ผู้ประสบปัญหามืดบอด ไร้ทางออก
แม้จะวิจารณ์กันให้แซ่ดว่าที่กองทัพบกไม่พรึ่บพรั่บเท่าไหร่ เพราะต้องเป็นไปตามขั้นตอนลำดับชั้น แต่ปัจจัยที่สำคัญอาจเป็นเรื่องคาใจเดิมๆ ในช่วงโยกย้ายทหาร ทำให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ ผอ.ศปก.ศบค. กับ พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ผอ.ศบค.ทบ.19 ไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร แนวทาง “เตรียมพร้อมเมื่อมีการร้องขอ” ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่วิกฤติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต้องชี้เปรี้ยงอย่าให้เห็นใครนอนตายบนถนน ประกอบกับ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ประชุมภาพรวมการสนับสนุนของกองทัพในแต่ละสัปดาห์ สั่งการไปยังเหล่าทัพแบบม้วนเดียวจบ กองทัพขยับ alert มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพบกมีช่องทางแบบไม่เป็นทางการ ระหว่าง พล.อ.ชัยชาญ กับ พล.อ.อภินันท์ คำเพราะ เพื่อนสนิท พล.อ.ณรงค์พันธ์ โดย พล.อ.อภินันท์เคยทำงานด้านยุทธการด้วยกันกับ รมช.กลาโหมมาก่อน การทำงานแบบต้องผ่านขั้นตอนก็เริ่มกระชับฉับไวทันตาเห็น
ทางด้าน พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะ ผบ.ศปม. อำนวยการงานด้านความมั่นคง จุดตรวจ-จุดสกัด ช่วงล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว ส่งชุดสังเกตการณ์ติดตามงานในแต่ละเขตเพื่อเก็บข้อมูล เช็กสภาพการเดินทางข้ามจังหวัด พร้อมกระจายงานให้เสนาธิการทหารและรองเสนาธิการทหารลงพื้นที่ตรวจการปฏิบัติงาน ล่าสุดส่ง พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร ไปประชุมผ่านโปรแกรมซูมกับนายกรัฐมนตรีช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา เหมือนเป็นการฝึกงานกลายๆ ท่ามกลางข่าวหนาหูว่า พล.อ.สุพจน์อาจถูกส่งไปเป็น เลขาธิการ สมช.ต่อจาก พล.อ.ณัฐพล ที่จะเกษียณอายุราชการในช่วงปลายกันยายนนี้ ๐
ปิดท้ายด้วยข่าว เรือหลวงริชมอนด์ จากสหราชอาณาจักร ทำการฝึกทางทหารร่วมกับเรือรบกองทัพเรือไทย นับเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ได้มีกิจกรรมร่วมกับเรือจากกองเรือ Carrier Strike Group ในตารางการเยือนทั่วโลก โดยการส่งกองกำลังทางน้ำและทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดที่ออกเดินทางจากสหราชอาณาจักรในรอบนับร้อยปี นำทัพโดย เรือหลวง Queen Elizabeth เรือผิวน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีกำลังสูงสุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือสหราชอาณาจักร ประกอบไปด้วยเรือ 9 ลำ อากาศยาน 32 ลำ และเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 3,700 นาย นับเป็นการเปิดตัวบทบาททางทหารในภูมิภาคนี้ของอังกฤษท่ามกลางสถานการณ์ทะเลจีนใต้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |