ภาพโปรโมตฉลองวันชาติสหรัฐ จากเว็บไซต์ impodays.com/us-independence-day
วันชาติสหรัฐอเมริกา 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นอกจากเป็นการฉลองวันคล้ายวันประกาศอิสรภาพจากจักรวรรดิอังกฤษแล้ว ปีนี้อเมริกันชนยังฉลองให้กับอีกหนึ่งชัยชนะล่าสุด
“245 ปีที่แล้ว เราประกาศอิสรภาพจากกษัตริย์ที่ประทับอยู่อีกดินแดน วันนี้ เรากำลังจะประกาศอิสรภาพจากมหันตภัยไวรัส” คือส่วนหนึ่งของคำกล่าวจากประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ที่ทำเนียบขาว ท่ามกลางแขกร่วมงานประมาณ 1 พันคน
วันที่ 4 กรกฎาคม สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อโควิด 3,491 คน เสียชีวิต 119 คน ผ่านไปไม่ถึง 1 เดือน ยอดผู้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมเพิ่มขึ้นเป็น 67,485 คน เสียชีวิต 428 คน
นอกจากการแพร่ระบาดอันรวดเร็วของเชื้่อสายพันธุ์เดลตาที่ครองสัดส่วนถึง 83 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐเวลานี้ ตั้งแต่วันชาติเป็นต้นมา มาตรการเข้มงวดที่เคยนำมาใช้นานนับปีได้รับการผ่อนคลาย โดยเฉพาะข้อกำหนดการสวมหน้ากากอนามัย ทำให้เส้นกราฟจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง
ที่น่าเป็นกังวลคือ ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วคิดว่าตัวเองมีเกราะป้องกันชนิดฟันแทงไม่เข้า เกิดการหย่อนยาน ชะล่าใจ ไร้ความระมัดระวัง
กรณีที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงอย่างกว้างขวาง คือการเฉลิมฉลองวันชาติที่เมืองโปรวินซ์ทาวน์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ มีผู้ร่วมงานประมาณ 6 หมื่นและล้วนไม่สวมหน้ากากอนามัย
พวกเขาเต้นรำ ตะโกนพูดคุย และโอบกอดคลอเคลียกันในบาร์ที่ลูกค้าแออัดยัดเยียด รวมถึงปาร์ตี้ตามบ้านเรือนเพื่อนฝูง
จำนวนผู้คนที่ฉลองวันชาติในปีนี้มีมากกว่าปกติ “อดัม ฮันต์” วัย 55 ปี ชาวเมืองโปรวินซ์ทาวน์ เล่าว่า ผับบาร์ปิดมานาน พอเปิดปุ๊บผู้คนก็เข้าไปใช้บริการกันอย่างหนาแน่น
“เราคิดว่าเราทำถูก คิดว่าไม่เป็นไร”
ตัวฮันต์ไม่ติดโควิด แต่เพื่อนของเขาหลายคนไม่รอด ทั้งที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว บางคนบินมาไกลจากแอละบามาหรือแม้แต่ฮาวาย กลับไปถึงบ้านก็ตรวจพบเชื้อ
คลัสเตอร์ฉลองวันชาติในโปรวินซ์ทาวน์นี้ทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 256 คน รวมถึงที่มาจากมลรัฐอื่น 66 คน โดย 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อต่างได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
“สตีฟ คัตซูรินิส” ประธานคณะกรรมการสาธารณสุขของโปรวินซ์ทาวน์ กล่าวว่า เขานึกไม่ถึงว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะยังติดเชื้อได้ง่ายๆ ล่าสุดเขาจึงแนะนำให้ชาวเมืองกลับมาสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง และได้เพิ่มการตรวจหาเชื้อมากขึ้นเป็น 250 คนต่อวัน จากที่ลดลงเหลือแค่ประมาณ 8 คนต่อวันเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม
เป็นไปได้สูงว่า ในขณะนี้คลัสเตอร์ดังกล่าวกำลังกระจายเชื้อไปยังหลายมลรัฐทั่วประเทศ และผู้ที่ทำหน้าที่กระจายเชื้อก็คือคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
มีรายงานข่าวจากมลรัฐโอคลาโฮมาเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ในงานวิวาห์งานหนึ่ง ผู้ร่วมงานที่ฉีดวัคซีนครบโดสเรียบร้อยแล้วถูกตรวจพบว่าติดเชื้อหลังงานเลี้ยงเลิกรา 15 คน และมีผู้ติดเชื้ออีก 2 คนยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เจ้าของงานแต่งคือ ดร.เอลิส เฟรตัส นักชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมา
เจ้าสาวป้ายแดงเปิดเผยว่า เธอประพฤติตัวตามมาตรการด้วยความระมัดระวังมาตลอดช่วงการระบาด รวมถึงได้เลื่อนงานแต่งมาแล้ว 1 ครั้ง และเมื่อตรึกตรองอย่างถ้วนถี่ก็ตัดสินใจไม่ถอยหลังอีกแล้ว จัดงานมงคลสมรสขึ้นแบบอินดอร์เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม หลังวันชาติไม่กี่วัน
พอนึกย้อนไป โดยนำอาการที่เกิดกับร่างกายมาคำนวณดู เธอเชื่อว่าการติดเชื้อน่าจะเกิดขึ้นในงานปาร์ตี้สละโสด ซึ่งจัดขึ้น 2 วันก่อนงานวิวาห์
งานปาร์ตี้สละโสดดังกล่าวมีเพื่อนฝูงร่วมงานฉีดวัคซีนครบโดสแล้วหลายสิบคน พวกเธอท่องราตรี ย่้ำไปในบาร์เหล้าหลายแห่งใจกลางเมืองโอคลาโฮมาซิตี โดยที่ทุกคนไม่สวมหน้ากาก
หลังจากสนุกกันเต็มคราบแล้ว ไม่กี่วันต่อมามี 7 คนจากปาร์ตี้สละโสดตรวจพบเชื้อโควิด รวมกับแขกในงานแต่งทั้งหมดติดเชื้อ 17 คน โชคดีที่ทั้งหมดมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย
“จากสิ่งที่ผ่านไป ฉันควรใส่ใจให้มากกว่านี้ เพราะโอคลาโฮมามีผู้รับวัคซีนยังไม่มาก รวมถึงการมาของเชื้อสายพันธุ์เดลตา ฉันควรจะวางแผนให้ดีกว่านี้” ดร.เฟรตัสรู้สึกผิด
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ทยอยออกมาเตือนว่า ควรนำมาตรการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารและสถานที่ที่ผู้คนหนาแน่นกลับมาใช้ แต่ “ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ” หรือ “ซีดีซี” ยังไม่ขยับในเรื่องนี้ โดยแนะนำเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเท่านั้น ส่วนการบังคับในบางเขตพื้นที่ขณะนี้ถือเป็นอำนาจของรัฐบาลท้องถิ่น
ดร.สกอต ดรายเดน-ปีเตอร์สัน นักระบาดวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อประจำโรงพยาบาลบริกแฮมแอนด์วีเมน เมืองบอสตัน กล่าวอุปมาอุปไมยว่า แม้เข็มขัดนิรภัยช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากเหตุรถชน แต่เราก็ยังต้องขับขี่อย่างระมัดระวังอยู่ดี และเราต้องพิจารณาอีกว่าจะขับขี่อย่างระมัดระวังอย่างไรบนถนนที่ชื่อสายพันธุ์เดลตา
ข้อมูลหลักฐานจาก “ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคนครกว่างโจว” มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ไม่นานมานี้ระบุว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาถูกตรวจพบหลังรับเชื้อ 4 วัน ในขณะที่สายพันธุ์ดั้งเดิมใช้เวลา 6 วัน แสดงว่าเชื้อมีการเพิ่มจำนวนเร็วขึ้นอย่างมาก โดยผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตามีปริมาณของเชื้อมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 1,260 เท่า
ระยะฟักตัวที่รวดเร็วและปริมาณไวรัสที่มหาศาลจึงเพิ่มความสามารถในการระบาดได้อย่างน่าสะพรึงกลัว
เบนจามิน เคาลิง นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ชี้ว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาเมื่อเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ Superspreading event จะแพร่เชื้อให้ผู้ร่วมเหตุการณ์ได้มากกว่า และเริ่มแพร่เชื้อตั้งแต่ไม่กี่วันหลังได้รับเชื้อ ระยะฟักตัวที่สั้นนี้ทำให้การหาร่องรอยหรือสอบสวนโรคยิ่งทำได้ยาก
การระบาดของเชื้อที่ง่ายขึ้นไม่ได้หมายความว่าผู้รับเชื้อจะมีอาการป่วยมากขึ้น แต่โอกาสแพร่เชื้อจะมีมากกว่าและนานกว่า
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วและสัมผัสเชื้อในปริมาณไม่มากอาจไม่ติดเชื้อหรือไม่แสดงอาการใดๆ แต่หากสัมผัสเชื้อเข้าไปในปริมาณมากก็มีแนวโน้มที่ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนอาจถูกตีจนแตกพ่ายได้
ดร.ซิลีน กาวน์เดอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากโรงพยาบาลศูนย์เบลล์วิว นครนิวยอร์ก เปรียบเทียบวัคซีนว่าเหมือนกับร่มของนักกอล์ฟที่ทำให้ผู้เล่นไม่ถึงกับเปียกโชกจากพายุฝน แต่ถ้าเจอเฮอริเคนเข้าไปก็คงไม่รอด นี่คือสถานการณ์ที่เกิดกับสายพันธุ์เดลตาในชุมชนที่ยังมีผู้ฉีดวัคซีนจำนวนน้อย
สำหรับบุคคลทั่วไปที่ได้รับวัคซีนแล้ว การติดเชื้อแบบ Breakthrough หรือเรียกง่ายๆ ว่า “วัคซีนเอาไม่อยู่” ส่วนมากจะมีอาการเพียงเล็กน้อย หรือไม่แสดงอาการ
แต่ผู้เชี่ยวชาญเริ่มมีความกังวลว่า คนที่มีอาการเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการเหล่านี้จำนวนหนึ่ง แม้ว่าไม่พบเชื้อแล้วก็ตามแต่ในระยะยาวอาจพัฒนาไปสู่อาการบางอย่าง อาการที่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่เข้าใจดีนัก
“ซีดีซี” ได้ยกเลิกการรายงานติดตามตรวจสอบการติดเชื้อแบบ Breakthrough ชนิดอาการไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการไปตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าการติดเชื้อที่มีอาการหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลและ/หรือเสียชีวิตในรอบ 2 เดือนครึ่งที่ผ่านมาจาก 48 มลรัฐ มีประมาณ 5,500 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1,063 คน โดยมี 272 คนที่ไม่แสดงอาการหรือการเสียชีวิตไม่ได้มีสาเหตุจากโควิด แต่พบเชื้อโควิดร่วมด้วย
ดร.ร็อบบี ซิคคา แพทย์ประจำทีม “มินนิโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟ” ทีมบาสเกตบอลในลีกเอ็นบีเอสหรัฐ เปิดเผยว่าคณะทำงาน Covid-19 Sports and Society ร่วมกับทีมงานทางด้านกีฬาของซีดีซี ได้ตรวจเชื้อนักกีฬามากกว่า 1 หมื่นคนต่อวัน พบว่าการติดเชื้อแบบ Breakthrough เกิดกับสายพันธุ์เดลตาง่ายกว่าสายพันธุ์อัลฟาที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ยังพบว่าวัคซีนช่วยให้ความรุนแรงและระยะเวลาการป่วยลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ นักกีฬากลับไปซ้อมตามปกติได้ภายใน 2 สัปดาห์หลังการติดเชื้อ โดยก่อนหน้านี้ช่วงที่ยังไม่ฉีดวัคซีนใช้เวลาเฉลี่ยเกือบ 3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม นักกีฬามีเชื้อสายพันธุ์เดลตาในปริมาณสูงเป็นเวลา 7-10 วัน เมื่อเปรียบเทียบกับเชื้ออัลฟาที่พบเชื้อสูงเป็นระยะเวลา 2-3 วัน
ดร.ซิคคาบอกว่า นักกีฬาที่ติดเชื้อจำเป็นต้องถูกกักตัว ทำให้โครงการนี้ไม่สามารถติดตามต่อได้ว่าพวกเขายังคงแพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่นหรือไม่ แต่เชื่อว่าแพร่ได้
“เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ตัวว่าติดโควิด เพราะคิดว่าฉีดวัคซีนแล้ว”
ถึงตอนนี้สหรัฐมีผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็มแล้วประมาณ 187 ล้านคน คิดเป็น 56.5 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันทั้งหมด ในจำนวนนี้มีผู้ที่ฉีดครบโดสแล้วประมาณ 162 ล้านคน คิดเป็น 49 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศประมาณ 333 ล้านคน ยังไม่ถึงเป้า 70 เปอร์เซ็นต์ที่ตั้งไว้สำหรับการฉลองวันชาติที่ผ่านมา
วัคซีนที่ฉีดแบ่งเป็นวัคซีนเทคโนโลยี mRNA ได้แก่ ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค สัดส่วน 55.62 เปอร์เซ็นต์ โมเดอร์นา 40.44 เปอร์เซ็นต์ และวัคซีนชนิด Viral Vector คือจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แบบฉีดเข็มเดียว 3.86 เปอร์เซ็นต์ ไม่ระบุ 0.08 เปอร์เซ็นต์
จำนวนผู้ฉีดวัคซีนในสหรัฐพุ่งเร็วมากในช่วงแรก แต่มาขยับช้าในช่วงหลังๆ โดยติดอยู่ที่ 49 เปอร์เซ็นต์นี้หลายวันแล้ว
ขณะที่ในประเทศไทยมีขบวนการด้อยค่าวัคซีนชนิดเชื้อตายจากจีน จนมีคนยกเลิกคิวฉีดกันจำนวนไม่น้อย ในสหรัฐก็มีลัทธิต่อต้านวัคซีน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน อีกทั้งกลุ่มคนหนุ่มสาวที่คิดว่าโควิดไม่มีอันตรายถึงตายต่อพวกเขา นอกจากนี้หลายคนยังคิดว่าจะฉีดก็ต่อเมื่อองค์การอาหารและยาสหรัฐ หรือ USFDA ให้การรับรองวัคซีนอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่รับรองให้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างที่เป็นอยู่
จนถึงวันนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายวัน 67,485 คน มากที่สุดในโลก ผู้ติดเชื้อรวมมากกว่า 35 ล้านคน มากที่สุดในโลก ผู้ที่กำลังเข้ารับการรักษา (Active cases) มี 5.15 ล้านคน มากที่สุดในโลก เสียชีวิตรวม 626,658 คน มากที่สุดในโลก โดยจำนวนผู้เสียชีวิตของสหรัฐต่อประชากร 1 ล้านคนเท่ากับ 1,882 คน (ของไทย 54 คน)
ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยวอชิงตันรายงานผลการศึกษาเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ของสหรัฐที่แท้จริงน่าจะมากกว่า 9 แสนคน เวลานั้นยอดผู้เสียชีวิตที่รายงานอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 581,000 คน เท่ากับหายไปถึง 1 ใน 3
“ดร.อันโทนี เฟาซี” ระบุตอนนั้นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันประมาณออกมานั้นสูงกว่าที่ตัวเขาคิดไว้นิดหน่อย
“แต่ไม่ต้องสงสัยเลย เรานับขาดไปอย่างแน่นอน” หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยืนยันในการออกรายการ Meet The Press ของสถานี NBC เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม
เวลานี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างเป็นกังวลว่า การฉลองวันชาติที่ผ่านมาและการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ หลังจากนั้นจะเป็นเหตุการณ์ Superspreading event ที่จะอัดฉีดให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเช่นเหตุการณ์ “ฉลองวันขอบคุณพระเจ้า” เมื่อปีที่แล้ว
เราทราบกันดีว่าเชื้อโควิดนั้นแพร่ได้ง่ายในสภาพอากาศอุณหภูมิต่ำ ฤดูร้อนไม่นานก็จะจบลงและย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาวทอดสมอมารอท่า เทศกาลขอบคุณพระเจ้าจะมีขึ้นในปลายเดือนพฤศจิกายน จากนั้นก็คริสต์มาส และปีใหม่
เอาใจช่วยสหรัฐนะจ๊ะ.
-------------------
อ้างอิง
- whitehouse.gov/briefing-room/speeches-remarks/2021/07/05/remarks-by-president-biden-celebrating-independence-day-and-independence-from-covid-19/
- cdc.gov/vaccines/covid-19/health-departments/breakthrough-cases.html
- nytimes.com/2021/07/22/health/coronavirus-breakthrough-infections-delta.html?action
- nature.com/articles/d41586-021-01986-w
- nytimes.com/interactive/2021/us/covid-cases.html?action
- worldometers.info/coronavirus/
- ctvnews.ca/health/coronavirus/no-doubt-u-s-has-undercounted-covid-19-deaths-fauci-1.5420491
- en.wikipedia.org/wiki/COVID-19_vaccination_in_the_United_States
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |