เหตุจาก 'เกลือเป็นหนอน'


เพิ่มเพื่อน    

  ในยุคโลกาภิวัตน์............

            คำว่า Social Media กับ public toilet หรือ restroom ในแบบอเมริกัน

            ความหมายเดียวกัน

          คือ พื้นที่รองรับการปลดถ่ายสิ่งที่แต่ละคนต้องการปลดถ่าย

          ดังนั้น ใครอยากอยู่ร่วมสังคมยุคออนไลน์ให้โศภิน ถ้าเสพติดข่าวสารออนไลน์ ต้องทำตัวเหมือนอยู่ในอินเดีย!

          ทุกย่างก้าว ไม่ว่าในท้องถนน ท้องทุ่ง ในเมือง ในป่า

          "สติตรอง-สายตาจ้อง" ต้องมี ทุกย่างก้าว

          ไม่งั้น...."เหยียบขี้"!

          ถนน คือ ส้วมสาธารณะของคนอินเดีย ฉันใด โซเชียล มีเดีย ก็คือ ส้วมสาธารณะของคนยุคออนไลน์ ฉันนั้น

          ด้วยตรรกะเปื้อนมือ-เปื้อนตีนนี้............

          จึงไม่แปลก เมื่อวาน (๑๐ มิ.ย.๖๑) มีข่าวว่อนว่า "ตำรวจกองปราบปราม"

          นำตัว "นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร" พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ หรือ DSI ไปสอบสวน

          "ตำรวจจับตำรวจ" ประมาณนั้น!

          เหตุจาก นายพิสิฐชัย ไม่ทราบในเจตนาและในจุดประสงค์ใด?

          ๓-๔ วันก่อน.........

          โพสต์ fb จะมีการจับพระระดับ "สมเด็จ" ระบุชื่อพระ-ชื่อวัดเสร็จสรรพ ในคดีเงินทอนอีก ๓-๔ รูป

          แต่ละวัด ดังระดับเจ้าสำนัก "เส้าหลิน-บู๊ตึ๊ง-คุนลุ้น" ทั้งนั้น

          แค่นั้น ก็ อมิตาพุทธ..อมิตาพุทธ ไปทั้งยุทธจักรหัวโล้น-หัวดำอยู่แล้ว

          วันต่อมา "โพสต์เพิ่ม" อีก!

          ที่ "สองจิต-สองใจ" กันอยู่ว่า "จริง-ไม่จริง" คราวนี้ ปักใจเด่ไปทางเชื่อว่า "จริง" ทันที

          ไม่ใช่ปักใจตามข่าว............

          หากแต่ "ปักใจ" ด้วยเชื่อตามฐานะ-ตำแหน่งคนโพสต์ข่าว เพราะ "นายพิสิฐชัย" ไม่ใช่นายหมู-นายแมว-นายแต๋ว-นายตุ๊ด ที่ไหน

          หากแต่เป็น DSI ระดับใหญ่!

          คลุกคลีอยู่กับคดีเรื่องพระ-เรื่องเจ้า เคยเป็นหัวหน้าเจรจาบุกวัดพระธรรมกาย "ล่าตัวสมีโย"

          อีกทั้ง "มหาเถรสมาคม" ตั้งให้เป็น..........

          "คณะอนุกรรมการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร" ของคณะกรรมการติดตามข้อมูลข่าวสารของ มส.

          มี "สมเด็จพระพุฒาจารย์" (สนิท) วัดไตรมิตรฯ เป็นประธาน

          เมื่อคนระดับนี้โพสต์ไม่เชื่อ แล้วจะให้ไปเชื่อใคร?

          ดังนั้น เมื่อเจ้าพนักงาน DSI ที่อยู่กับข่าวพระโดยตรงเป็นผู้โพสต์ ประเด็นใหม่-ประเด็นใหญ่-ประเด็นร้อน

          สื่อยุคใหม่ที่ "ชิงขายความเร็ว" ก็ต้องจิกไปกระพือต่อเป็นธรรมดา

          สังคมวันนี้ จึงตกอยู่ในภาวะ "ตื่นข่าว" จับสมเด็จสึก..จับสมเด็จสึก...จนเกิดคำว่า

          "ผ้าเหลืองลุกเป็นไฟ"!

          ปล่อยผ่านไปเฉยๆ โดยไม่ทำอะไร ผ้าเหลืองอาจลุกเป็นไฟ จากไม้ขีดข่าวคน DSI ได้จริงๆ

          ดังนั้น เมื่อวาน กองปราบฯ จึงนำตัว "นายพิสิฐชัย" ไปสอบปากคำ

          ถึงยังไม่ชัดเจนจากกองปราบฯ เองว่า นำตัวนายพิสิฐชัยไปสอบจริงหรือไม่?

          แต่จากคำให้สัมภาษณ์ "พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เองว่า.........

          "ถือเป็นการกระทำของนายพิสิฐชัย เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับดีเอสไอ

            ถึงแม้ภาพในรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กของนายพิสิฐชัย จะใส่เครื่องแบบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอก็ตาม

            ทราบว่า บ่ายวาน ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เชิญนายพิสิฐชัย เข้าให้ข้อมูลถึงที่มาของกระแสข่าวดังกล่าวและวัตถุประสงค์ในการโพสต์ข้อความดังกล่าว"

            ก็ถือเป็นการยืนยันไปในตัวว่า ข่าวกองปราบฯ นำตัวนายพิสิฐชัยไปสอบ นั่น...เรื่องจริง

          ประเด็นที่ต้องพูดจากันต่อ..........

          การโพสต์ของนายพิสิฐชัยที่ว่าเป็น "ความเห็นส่วนตัว" นี้

          ไม่จริงตอนนี้ จริงตอนต่อไป หรือไม่จริงทั้งตอนนี้และตอนต่อไป

          นั่นก็ยกไว้!

          แต่ต้องบอกว่า การนำประเด็นเปราะบางเช่นนี้มาโพสต์ของคนเป็นเจ้าพนักงาน โดยเฉพาะ DSI

          มันเหมือนเห็น "กองไฟ" ในเตา แล้วฉวยโอกาส

          "สุมฟืน" พร้อม "สาดน้ำมัน" ไปรอบบริเวณ!?

          ถ้าอ้าง "ไม่เจตนา" ในทางปลุกปั่น ก็คงอ้างได้ แต่คนระดับนี้อ้าง มันรับฟังไม่ได้

          ถึงแม้เป็น "ข้อมูลจริง"

          แต่ในความเป็นเจ้าพนักงาน การนำข้อมูลทางสอบสวนและเอกสารอันเป็นชั้นความลับทางราชการเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต

          ผู้เป็นเจ้าพนักงาน รู้ใช่มั้ย ว่าผิดกฎหมาย?

          แล้วนายพิสิฐชัย "หวังอะไร" ในการทำ?

          ก็ "ไม่ทราบ" เขา...........

          ทราบแต่ว่า ที่ทำนั้น เป็นทั้งน้ำมันในไฟ เป็นทั้งลิ่มในรอยร้าว ระหว่างศาสนจักรกับอาณาจักร

          อีกทั้ง สร้างความยุ่งยากในคดี ต่อผู้มีหน้าที่โดยตรง ไม่ว่า มหาเถรสมาคม, สำนักพุทธ, ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.

          คำพูดตลาดๆ ว่า "เกลือเป็นหนอน" ใครฟัง ก็บอกว่าเพ้อเจ้อ เกลือที่ไหนมันจะเป็นหนอน?

          แต่ "คนในระบบรัฐ" นี่แหละ ทำสิ่งเพ้อเจ้อเป็นจริง!

          "อีปู" มันหนีไปได้

          ไม่เพราะ "เกลือเป็นหนอน" หรือ?

          "เสี่ยนงค์" หนีไปได้

          ไม่เพราะ "เกลือเป็นหนอน" หรือ?

          "สีกาจุ๋ม" หนีไปได้

          ไม่เพราะ "เกลือเป็นหนอน" หรือ?        

          จะในคดีเงินทอนวัด หรือ เงินทอนเมือง..........

          ในรายต่อๆ ไป ระวังเหอะ

          เพราะไอ้ "เกลือระยำ" ในระบบรัฐอย่างนี้แหละ "โจรมันจะเร็วกว่าหมายจับ ๑ ชั่วโมง" เสมอ

          กรุงศรีอยุธยา แตก ๒ ครั้ง ๒ ครา ไม่ใช่พม่าเก่งกว่าไทย

          เพราะไทย "เกลือเป็นหนอน" ตะหาก!

          รัตนโกสินทร์ ไม่แตก........

          แต่ที่ถูก "เผาบ้าน-เผาเมือง" ไม่ใช่เสื้อแดงเก่งกว่าเสื้อเหลือง

          เพราะ "แตงโม-มะเขือเทศ" บางส่วน เป็นหนอนตะหาก!

          นี่เป็นทั้งความจริง ทั้งข้อตระหนักในทางระวัง จึงอยากให้ทางกองปราบฯ ตอบให้ชัดเจนต่อสังคมนิดนึง

          ที่ว่า "นำตัวนายพิสิฐชัยไปให้ข้อมูล" นั้น

          มัน "กำกวม"......

          บอกตรงๆ ชัดๆ ซิ การนำตัวไปให้ข้อมูล นั้น

          แค่ให้ข้อมูล ด้วย "คนกันเอง" ก็จบแค่นั้น

          หรือ นำไปสอบในฐานะ "ผู้ต้องหา" ที่ต้องดำเนินคดีไปถึงชั้นศาล? 

          ข้าราชการทำผิดนี่ มักอ้าง "คุณงามความดี" ขึ้นมาลบล้าง หรือลดหย่อนโทษเสมอ

          ที่จริงแล้ว นอกจากไม่ลดโทษ ในฐานะเป็นข้าราชการกลับทำชั่วซะเอง

          ต้องเพิ่มโทษ เป็น ๒ เท่า แทนลดหย่อนโทษ!

          อยากฝากเป็นข้อสังเกตอีกเรื่อง นายกฯ ย้ำซึ่งเท่ากับยืนแล้ว ว่า

          "กุมภา ๖๒ เลือกตั้ง"

          ก่อนเลือกตั้ง ส.ส.ก็ต้องนำร่องด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน

          แล้วอะไร "ผิดปกติ" รู้มั้ย?

          ไม่ใช่พวกขยะอยากเลือกตั้งตีรวน หรือสองสัตว์สัมภเวสีชักใยป่วน

          "ยาเสพติด" ตะหาก

          จะเลือกตั้งปั๊บ "ยาเสพติด" ทะลักปุ๊บ!

          โดยเฉพาะทางเหนือ จับรายวัน วันละหลายล้านเม็ด แล้วที่จับไม่ได้ มันจะวันละกี่ล้าน

          รวมแล้ว ตอนนี้ ยาเสพติดทุกชนิด ทะลักรวมอยู่ในเมืองไทย จังหวัดนั้น-นี้ และในกรุง

          มันจะกี่ล้านล้านเม็ด!?

          ทำไมจึงทะลัก-ทลายเข้ามาตอนนี้มาก คำตอบสามัญรู้กันอยู่แล้ว

          ที่เป็นคำตอบ "เฉพาะกิจ" คือ

          "กระสุน" ใช้ยิงในสนาม "เลือกตั้ง" นั่นแหละ!

          มหากาพย์ยาเสพติด "ผลได้" มันมีทั้ง ๓ ฝ่าย คือฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย และฝ่ายจับ

          ฝ่ายจับ "เกลือเป็นหนอน" มีมั้ย อย่าให้เซด!

          แต่ผลได้ถูกต้องตามกฎหมายมันก็มีอยู่ คือผู้แจ้งจับ ก็มีเงินสินบนให้ ผู้จับ ก็มีเงินรางวัลให้

          เท่าที่จำได้ สมัยทักษิณ ประกาศ เจ้าหน้าที่ผู้จับ จะได้รางวัล เม็ดละ ๓ บาท

          แต่เดี๋ยวนี้ เท่าไหร่ไม่ทราบ นอกจากยาบ้าแล้ว ไอซ์ ก็ทะลัก-ทลาย คงมีสินบนและรางวัลเช่นกัน

          อะไรก็ตาม ถ้ารื้อกันจริงๆ ไม่แค่วงการผ้าเหลือง วงการข้าราชการและการเมือง ก็พอๆ กัน

          อย่างเงินทอนวัด........

          สาวถึงต้นเรื่อง ไม่ใช่ "ยำ ๓ กรอบ" แต่มันเป็น "ระยำ ๓ เลว" เลยทีเดียว

          "นักการเมือง+ข้าราชการ+คนห่มเหลือง" ร่วมกัน

          ต้องให้บอกมั้ยล่ะ.......

          หึ่งมาตั้งแต่ "คนรัฐบาล" ไหนแล้ว?     


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"