ททท.สำนักงานราชบุรี ชวนอุดหนุนชาวสวนอินทผลัมเมืองราชบุรี ที่ออกผลผลิตในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ชูจุดขายรสชาติดี มีประโยชน์ สั่งซื้อได้ทางออนไลน์ทั้งผลสด ผลแห้ง พร้อมแนะนำสินค้าดีประจำเมืองโอ่ง ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่มุ่งเดินหน้าใช้เวลาช่วงนี้พัฒนาบริการเข้าร่วมมาตรฐาน sha
นางสาวสรียา บุญมาก ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานราชบุรี เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 เป็นฤดูกาลที่อินทผลัมจะให้ผลผลิตออกสู่ตลาด ซึ่งในจังหวัดราชบุรีเป็นพื้นที่ที่มีเกษตรกรให้ความสนใจปลูกอินทผลัมจำนวนมากถึง 131 ราย คิดเป็นพื้นที่มากกว่า 1,087 ไร่
สำหรับอินทผลัม เป็นผลไม้ที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศในแถบตะวันออกกลาง ได้รับสมญาว่าเป็นผลไม้จากพระเจ้า เนื่องจากมีสารอาหาร วิตามิน และไฟเบอร์ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย รวมทั้งไม่มีคอเลสเตอรอล และไขมันต่ำ ได้รับความนิยมจากเกษตรกรในประเทศไทยหันมาปลูกกันจำนวนมาก โดยปกติรับประทานเมื่อผลสุกแห้งคาต้น แต่ในประเทศไทยนิยมปลูกสายพันธุ์กินผลดิบ อย่างสายพันธุ์บาฮี หรือพันธุ์อัมเอ็ดดาฮาน
ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานราชบุรีกล่าวต่อว่า ตามปกติในช่วงที่อินทผลัมให้ผลผลิตออกสู่ตลาด ชาวสวนจะเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบเข้าเยี่ยมชม โดยอินทผลัมจะมีหลายสายพันธุ์ ให้สีสันแตกต่างกันไป เช่น พันธุ์บาฮี ให้ผลสีเหลืองทอง, พันธุ์อัมเอ็ดดาฮาน เมื่อผลสุกให้สีโอลด์โรส ซึ่งผู้ซื้อสามารถเข้าไปถ่ายภาพและเลือกซื้อผลผลิตได้ถึงในสวน เลือกชิมจากต้นที่ชอบโดยเก็บตัดสดๆ รวมทั้งแต่ละสวนจะนำผลอินทผลัมมาทำเป็นเมนูอาหาร อย่าง ส้มตำอินทผลัม อินทผลัมลอยแก้ว แปรรูปเป็นน้ำอินทผลัม และสินค้าต่างๆ ให้ได้ชิมกันด้วย
ที่สำคัญการเที่ยวชมสวนอินทผลัมยังเป็นการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของชาวสวนที่ต้องลองผิดลองถูก กว่าจะประสบความสำเร็จในการปลูกอินทผลัมให้ได้ผลที่มีรสชาติหวานอร่อยถูกใจผู้บริโภค และปลอดภัยจากสารเคมี ซึ่งนับเป็นองค์ความรู้ที่คาดไม่ถึง และได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
สำหรับปีนี้ เป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการให้อยู่กับบ้านเพื่อความปลอดภัยทางด้านสุขภาพ แต่ละสวนจึงทำการปรับการขายใหม่ โดยมีบริการสั่งซื้อออนไลน์ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ หลากหลายช่องทาง พร้อมจัดส่งทางไปรษณีย์ให้ถึงหน้าบ้าน ททท. สำนักงานราชบุรี จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ ช่วยกันสนับสนุนเกษตรกรที่ปลูกอินทผลัมด้วยใจ ให้ผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานราชบุรี ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ จังหวัดราชบุรียังมีของดีของอร่อยอีกหลายชนิด เพราะเป็นเมืองที่มีเกษตรกรปลูกผัก ผลไม้ และทำปศุสัตว์จำนวนมาก เปรียบเสมือนครัวของประเทศ จึงมีวัตถุดิบที่สดใหม่ นำไปปรุงเป็นเมนูอะไรก็อร่อย จึงขอแนะนำให้ทดลองสั่งซื้อไปลองลิ้มชิมรสกันก่อน เช่น เต้าหู้ดำ อาหารสุขภาพรสชาติอร่อยประจำถิ่น และเป็นสินค้าโอท็อปของชาวราชบุรี รสชาติอร่อย, ไชโป๊ กรอบ อร่อย สะอาดปราศจากสารเจือปน และผลิตภัณฑ์จากนมสดหนองโพ เป็นต้น
เต้าหู้ดำ อาหารสุขภาพรสชาติอร่อย ของดีเมืองราชบุรี
ส่วนคนที่สนใจเป็นสินค้าประเภทของใช้ ของฝาก ก็เลือกซื้อเลือกสั่งสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากภูมิปัญญาที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผ้าขาวม้าบ้านไร่ ผ้าซิ่นตีนจก ย่ามกะเหรี่ยง ตุ๊กตาผ้าซึ่งในจังหวัดราชบุรีถือเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา
ยังมีสินค้าพรีเมียมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบรนด์ “ตานีสยาม” กระเป๋าสุดหรู หมวกสุดเก๋ ผลิตจากกาบกล้วยตานีที่เสมือนหนังจริง ผลิตด้วยกระบวนการที่เกิดจากภูมิปัญญาและความประณีตทุกขั้นตอน จนได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และมีการนำใบตองของกล้วยด่างซึ่งกำลังได้รับความนิยมมาสร้างสรรค์เป็นกระเป๋า ทำให้ได้งานฝีมือที่มีลวดลายตามธรรมชาติที่แตกต่างกันไป
ทั้งนี้ รายละเอียดสินค้าแต่ละชนิดที่กล่าวมา สามารถเข้าไปดูหรือสอบถามเรื่องการติดต่อได้ที่ Facebook Fanpage: ททท.สำนักงานราชบุรี หรือ Line Official : @TATratchaburi หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-3291-9176-8, 06-2595 2307
ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานราชบุรีกล่าวต่อว่า โดยสถานการณ์ในขณะนี้ ที่ต้องงดเว้นการเดินทาง เว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสถานประกอบการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในจังหวัดราชบุรี ก็หันมาทำการ ปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก รีสอร์ต และกิจการ เพื่อยกระดับมาตรฐานเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวเมื่อถึงช่วงปกติ ด้วยการเข้าร่วมโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) ที่เกิดจากความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. กับกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน SHA
ทั้งนี้ จังหวัดราชบุรีมีสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA จำนวน 67 ราย อาทิ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี, ศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ, เรื่องของโอ่ง, ณ สัทธา อุทยานไทย, ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก, สวนเกษตรแม่ทองหยิบ, พิพิธภัณฑ์ศตวรรษสยาม, Cook&Coff @เรือนจำกลางราชบุรี, ไร่มาลัยทรัพย์, ตลาดโอ๊ะป่อย, โคโรฟิลด์, เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม, เวเนโต้ สวนผึ้ง, โรงแรมเลอเลิศ, ไม้แก้วดำเนิน รีสอร์ท, ครัวม่อนไข่, โรงแรม ณ เวลา, โรงแรมราชาบุระ ฯลฯ เป็นต้น
ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก : หนึ่งในสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA
เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม : หนึ่งในสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA
ณ สัทธา อุทยานไทย : หนึ่งในสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน SHA
นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลด้านการท่องเที่ยวต่างๆ และชมภาพแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ กิจกรรมที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรี ได้ที่ Facebook Fanpage: ททท.สำนักงานราชบุรี หรือ Instagram : TATratchaburi หรือ Line Official : @TATratchaburi สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-3291-9176-8, 06-2595 2307.
สวนอินทผลัมของจังหวัดราชบุรี
สวนอินทผลัมของจังหวัดราชบุรีมีหลายสวนให้เลือกซื้อ เลือกเข้าไปชม และสิ่งที่เคร่งครัดในกรณีปกติ คือการให้เข้าไปชมสวนภายใต้แนวทางการท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ที่เน้นการสวมใส่หน้ากากตลอดเวลาที่อยู่ในสวน การเว้นระยะห่าง การล้างมือ การใช้ช้อนส่วนตัวชิมอาหาร ฯลฯ เป็นต้น
สำหรับสวนอินทผลัมที่มีอยู่หลายแห่ง ได้แก่
1.พิณชายอินทผลัม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
สวนพิณอินทผลัม อยู่หมู่ที่ 3 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม คุณชาติชาย แสงเจริญ เจ้าของสวนได้ตระเวนศึกษาการปลูกอินทผลัมจากหลายสวนหลายแห่งจนมั่นใจแล้ว จึงแบ่งที่นามาปลูกอินทผลัมสายพันธุ์บาฮีสีเหลืองแบบเพาะด้วยเนื้อเยื่อไว้ที่หน้าบ้าน 2 แปลง ราว 5 ไร่ ปลูกไว้ประมาณ 140 ต้น ให้ผลผลิตเป็นปีแรกคุณภาพดี ผลโต หวาน กรอบ ฉ่ำน้ำ ต่อมาได้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกอินทผลัมบ้านนางแก้ว เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปันความรู้แก่สมาชิก และได้สร้างสรรค์เมนูส้มตำอินทผลัมรสชาติเด็ดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองความอร่อย นอกจากนี้ยังมีอินทผลัมลอยแก้วไว้บริการอีกด้วย
เปิดสวนให้เยี่ยมชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-20.00 น. มีบริการขายแบบออนไลน์ ราคาขายกิโลกรัมละ 400 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์โทรศัพท์ 06-4563-5194
2.สวนพุฒิพงศ์ อ.เมืองฯ จ.ราชบุรี
สวนอินทผลัมพุฒิพงศ์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 บ้านทุ่งบ่อ ต.เจดีย์หัก อ.เมืองราชบุรี เรียกว่าอยู่ใจกลางเมืองราชบุรี ใกล้กับโบราณสถานเจดีย์ เป็นสวนขนาดกะทัดรัดบนเนื้อที่ 2 ไร่ ปลูกอินทผลัมพันธุ์บาฮีไว้ประมาณ 100 ต้น และสายพันธุ์เพาะเมล็ด K1 หรือพันธุ์จากแม่โจ้ ลักษณะผลสีแดง ซึ่งคุณไพศาล เพ่งซ่วน เจ้าของสวน ได้ใช้เวลาว่างจากงานประจำทดลองปลูกอินทผลัมเพราะชื่นชอบในการรับประทานอินทผลัมสด ทุกวันนี้ก็สนุกกับการเรียนรู้และคัดเลือกต้นเพาะเมล็ดที่มีลักษณะเด่น เปิดสวนให้ลูกค้าเข้ามาเลือกจับจองอินทผลัมด้วยตนเอง โดยเขียนชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ถุงกระดาษแบบเหมายกจั่น ระหว่างรอครบกำหนดวันตัด (ไม่น้อยกว่า 150 วัน หลังการผสมเกสร) ทางไร่จะคอยดูแลช่ออินทผลัมให้เป็นอย่างดี และลูกค้าสามารถเข้าไปดูช่ออินทผลัมของตัวเองได้ตลอดเวลา เมื่อครบกำหนดตัดแล้วจะโทร.แจ้งให้ลูกค้าให้เข้ามาตัดด้วยตัวเอง หรือให้ทางไร่ตัดแล้วจัดส่งไปให้ที่บ้านก็ได้ วิธีนี้ได้รับการตอบรับจากครอบครัวที่ชอบอินทผลัมเป็นอย่างดี ราคาขายกิโลกรัมละ 400 บาท
เปิดสวนให้เยี่ยมชมได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-20.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์โทรศัพท์ 08-3317-9752 และ 08-9159-4952
3.สวนอินทผลัมคุณวินัย อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
สวนอินทผลัมคุณวินัย ตั้งอยู่หมู่ที่ 11 ต.จอมบึง อ.จอมบึง มีพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ ได้แบ่งปลูกอินทผลัมสายพันธุ์สีเหลืองกินผลสด จำนวน 300 ต้น โดยคุณวินัย เกษมศรี เจ้าของสวนบอกว่า อินทผลัมที่จะให้ผลผลิตที่ดี ผลใหญ่ เนื้อแน่น หวาน กรอบ ฉ่ำน้ำ ต้องมีการดูแลที่ดี ปุ๋ยดี น้ำดี จึงทำการปลูกแบบยกร่อง ปล่อยน้ำลงในร่องในระดับที่เหมาะสมตามระยะเวลาของการเติบโตนอกเหนือจากการให้น้ำด้วยสปริงเกลอร์ตามปรกติ เพราะอินทผลัมกินน้ำมาก ปีนี้ ได้ผลผลิตตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนกันยายน รวมประมาณ 20 ตัน เนื่องจากอากาศที่แปรปรวน ความเย็นไม่คงที่ ส่งผลให้ผลอินทผลัมแก่ไม่พร้อมกัน ในต้นเดียวกันจะมีจั่นแก่เหลืองแล้วแต่บางจั่นยังเขียว สวนคุณวินัยนับเป็นสวนแรกๆ ของจังหวัดราชบุรีที่เปิดสวนให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและถ่ายภาพ ปีนี้เป็นปีที่ 3
ตอนนี้ ทางสวนมีจักรยาน รถ ATV ให้นักท่องเที่ยวขับชมสวนฟรี ให้ยืมเสื่อไปนั่งชิลใต้ต้นอินทผลัม มีบริการน้ำอินทผลัมสด อินทผลัมลอยแก้ว พิซซ่าอินทผลัม ไอศกรีมอินทผลัมในราคามิตรภาพ เปิดสวนทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม-กลางเดือนกันยายน 2564 มีบริการขายแบบออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์โทรศัพท์ 09-0453-9449
4.อินทผลัมสวนใหญ่ 168@ราชบุรี อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
อินทผลัมสวนใหญ่ 168@ราชบุรี อยู่หมู่ที่ 1 ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง คุณสุรัตน์ มงคล ผู้จัดการสวน เล่าให้ฟังว่า ที่ดินจำนวน 695 ไร่ ผืนนี้เป็นดินลูกรังแต่มีน้ำซับ บางจุดก็เป็นดินดานถูกปล่อยรกร้าง ต่อมาจึงคิดจะพัฒนา โดยค้นหาพืชที่เหมาะสม จนมาพบว่าน่าจะปลูกอินทผลัมได้ จึงลองผิดลองถูกด้วยการปลูกอินทผลัมจากการเพาะเนื้อเยื่อ จำนวน 8,000 ต้น รวม 22 สายพันธุ์ แยกเป็นสายพันธุ์ตัวผู้ 2 สายพันธุ์ คือ กานามิและจาวิท และสายพันธุ์ตัวเมีย 20 สายพันธุ์ ซึ่งมีทั้งแบบกินสดและแบบกินแห้ง ได้แก่ สายพันธุ์บาฮีสีเหลือง สำหรับการกินผลสด ซึ่งเป็นที่นิยม จำนวน 1,500 ต้น สายพันธุ์ G2 ซึ่งมีผลโตสีแดงสด เนื้อแน่น หวานกรอบ จำนวน 200 ต้น สายพันธุ์อัมเอ็ดดาฮาน รสชาติหอมหวานคล้ายน้ำผึ้ง และอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีสายพันธุ์สำหรับกินแห้งคือ เมดจูลห์ ซึ่งถือว่าเป็นราชาแห่งอินทผลัม ผลใหญ่เนื้อเยอะ ละเอียด นุ่ม รสชาติหวานฉ่ำ และยังมีสายพันธุ์โคไนซี่ รสชาติหวานนุ่ม กลิ่นเหมือนคาราเมล และที่สวนใหญ่มีโรงเรือนสำหรับแปรรูปอินทผลัมอบแห้งเอง การแปรรูปเป็นน้ำอินทผลัมสด สำหรับการปลูกอินทผลัมของที่นี่ มีการปลูกต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ระหว่างแถว แล้วนำมาทำน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่สด สำหรับเลข “168” คือ เลขมงคลของเจ้าของสวน
ผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่าย :
- สายพันธุ์บาฮี กินสด ราคา 300-400 บาท/กก.
- สายพันธุ์อัมเอ็ดดาฮาน ราคา 600-800 บาท/กก.
- สายพันธุ์ G2 กินสด ราคา 700-800 บาท/กก.
- สายพันธุ์โคไนซี่ กินสุก (แห้ง) ราคากล่อง 250 บาท/ครึ่งกิโล (500 บาท/กก.)
- สายพันธุ์เมดจูลห์ กินสุก (แห้ง) กล่องละ 250 บาท/ครึ่งกิโล (500 บาท/กก.)
- น้ำอินทผลัมสด, น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่, น้ำนมข้าวโพด, น้ำมัลเบอร์รี ขวดละ 25 บาท
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. และบริการขายแบบออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์โทรศัพท์ 09-9253-9591 และ 08-4845-3296
5.ไร่มาลัยทรัพย์ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี
อินทผลัมไร่มาลัยทรัพย์ ตั้งอยู่เลขที่ 143/1 หมู่ที่ 7 ต.หนองพันจันทร์ อ.บ้านคา คุณสุประวีณ์ รัศมีตรีเนตร มีประสบการณ์จากการปลูกอินทผลัมมากว่า 6 ปี ปลูกไว้ราว 1,000 ต้น ค่อนข้างหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งแบบเพาะเนื้อเยื่อกินผลสด คือพันธุ์บาฮีสีเหลืองที่เห็นโดยทั่วไป และแบบเพาะเมล็ด ซึ่งก่อนหน้านี้สามีไปทำงานอยู่ตะวันออกกลาง เห็นต้นอินทผลัม และมีแนวคิดว่าเมื่อกลับประเทศไทยจะทดลองนำสายพันธุ์จากต่างประเทศมาปลูกโดยการปลูกแบบเพาะเมล็ดที่นำเข้ามา และเมื่อเมล็ดที่นำมาปลูกแล้วเกิดกลายพันธุ์ ทางไร่ก็จะตั้งเป็นชื่อที่เป็นมงคลเฉพาะของสวนนี้ เช่น พลอยทับทิม เพาะเมล็ดจากพันธุ์โคไนซี่, พลอยโกเมน เพาะเมล็ดจากพันธุ์ฮายานี่, พลอยไพลิน เพาะเมล็ดซักห์ลูล เป็นต้น
ทางสวนยังได้จัดชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งตามมุมต่างๆ ภายในสวน เพื่อให้ผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชมได้นั่งจิบกาแฟแลอินทผลัมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเปิดพื้นที่ให้เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรใกล้เคียงนำผลผลิตของตัวเอง เช่น สับปะรด ฝรั่งสีชมพู กระท้อน ฟักทอง หน่อไม้ มะนาว มาจำหน่ายที่สวน สำหรับอินทผลัมสายพันธุ์บาฮีสีเหลือง ฮัสซาวีสีเหลือง และโคไนซี่สีแดง ราคากิโลกรัมละ 400 บาท
เปิดสวนให้เข้าชมทุกวันจนถึงกลางเดือนสิงหาคม 2564 ระหว่างเวลา 06.00-18.00 น. และมีบริการขายแบบออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์โทรศัพท์ 08-1880-6584
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ที่ต้องการเข้าไปเยี่ยมชมและถ่ายภาพในสวนต่างๆ ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยของสถานที่นั้นๆ อย่างเคร่งครัด.
สรณะ รายงาน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |