'รพ.สนามมธ.'กัดฟันสู้ต่อ! สัญญาจะยืนอยู่ให้ได้ ขอล้มเป็นคนสุดท้าย


เพิ่มเพื่อน    

23 ก.ค. 64 - เพจ"โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์" โพสต์ข้อความว่า วันพฤหัสที่22 กรกฎาคม วันที่ 103 ของโรงพยาบาลสนาม วันที่สี่สิบห้าของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต วันที่มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นมากกว่า 13,600 คน
           
เช้านี้ก็ยังไม่ค่อยมีแสงสว่างเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมา นอกจากตัวเลขผู้ป่วยใหม่ทำลายสถิติของวันที่ผ่านๆมาแล้วเช้านี้เราเห็นรายงานว่าบุคลากรในโรงพยาบาลติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 7 คน เป็นเเพทย์fellowหนึ่งและพยาบาลสามคน เจ้าหน้าที่อีกสาม บางวอร์ดเจ้าหน้าที่อาจต้องถูกกักตัวและอาจจะต้องกระทบไปถึงคนไข้ในวอร์ดที่บุคลากรเหล่านี้รับผิดชอบอยู่ เราถูกโจมตีภายในโรงพยาบาลและสูญเสียกำลังคนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน สวนทางกับภาระงานที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นโดยตลอด
         
เมื่อวานทั้งวัน เราตรวจ swab ผู้สงสัยว่าจะติดเชื้อไป 251ราย เช้านี้พบว่ามีผลบวกอีก 37ราย ที่จะต้องรอเข้ารับการรักษาตัว เมื่อรวมกับผลบวกที่ค้างมาจากเมื่อวาน วันนี้เรามีคนรอคิวอยู่ที่ประตูโรงพยาบาลอีก 51 ราย ไม่นับที่มีคำขอส่งคนไข้อาการหนัก กลับมาจากโรงพยาบาลสนาม หรือบุคลากรและนศ.ของมหาวิทยาลัยที่ตรวจพบผลบวกจากที่อื่นๆ ที่ขอเข้ารับการรักษา
       
มีคนถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าระบบโรงพยาบาลและระบบสาธารณสุขล่มแล้ว  คำตอบง่ายๆ ก็คือ ถ้าผู้ป่วยที่ป่วยหนักแล้วได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลต่างๆ แต่ไม่ได้ถูกรับเข้ารักษา และถ้าเหตุการณ์นี้เกิดกับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ก็หมายความว่าระบบของเราไม่สามารถรองรับดูแลผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้ จนมีผู้เสียชีวิตในบ้านหรือตามท้องถนน ทั้งไที่ได้ร้องขอความช่วยเหลือมาเป็นเวลานานผ่านช่องทางต่างๆแล้ว นั่นคือสภาพของระบบโรงพยาบาลที่ทำงานต่อไปอีกไม่ได้แล้ว และระบบสาธารณสุขที่ล่มสลายลงแล้วจริงๆ
          
แปดโมงเช้าวันนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินที่ รพ.ธรรมศาสตร์ เรายืนดูด้วยความสะเทือนใจที่เห็นรถปิกอัพบรรทุกผู้ป่วยผู้หญิงมีอายุนอนมาท้ายรถและยื่นนิ้วมือออกมาให้พยาบาลER ตรวจวัดออกซิเจนในเลือด และรถเก๋งคันเล็กๆที่บรรทุกคุณยายผมขาว ร่างผอมเกร็งนอนมาในที่นั่งตอนหลังและได้เห็นลูกหลานเปิดประตูลงมาขอความช่วยเหลือจากอาการไข้สูงของญาติผู้ใหญ่  เห็นสภาพคนไข้และแววตาของคนที่เป็นญาติแล้ว เราต้องกลั้นน้ำตาเพื่อฟังคำตอบที่รู้อยู่แล้วจากพยาบาลเวรว่า หอผู้ป่วยอายุรกรรมของเราถูกปิด จากการมีผู้ติดเชื้อไปถึงครึ่งวอร์ด และกำลังอพยพคนไข้ทุกเตียงไปที่วอร์ดอื่น โดยยังไม่สามารถทำได้หมดในวันนี้ เราจึงไม่สามารถรับคนไข้มาเสี่ยงเพิ่มเติมจากที่เราต้องดูแลอยู่แล้วได้อีกในวันสองวันนี้ 
            
เรามองรถทั้งสองคันที่ขับออกไปช้าๆ เพื่อไปหาโรงพยาบาลอื่น อย่างที่เขาได้รับคำตอบจากพยาบาลของเรา แล้วก็สะทกสะท้อนใจในความทุกข์ทรมานของเพื่อนร่วมชาติ เรารู้อยู่แล้วว่าเขาทั้งสองครอบครัวจะได้รับคำตอบอย่างไรจากโรงพยาบาลอื่น.. ถ้าไปถึง และรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร  แต่ก็ได้แต่ทอดถอนใจ และปฏิญานกับตัวเองว่า พวกเราจะทำให้มากที่สุด และจะช่วยเหลือชีวิตผู้คนให้ได้มากที่สุด เท่าที่ศักยภาพของพวกเราจะทำให้ได้ 
         
ประเทศของเราเดินมาถึงจุดนี้แล้ว อะไรเป็นสาเหตุของความล่มสลายอย่างรวดเร็วของระบบสาธารณสุขที่พวกเราเคยภาคภูมิใจนะ
           
พวกเราเป็นคนตัวเล็กๆ ในสนามรบ เราไม่ได้กำหนดนโยบาย เราไม่ได้มีส่วนในการวางยุทธศาสตร์ แต่พวกเราต้องมารับผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรง ในอีกหลายสัปดาห์ต่อไปนี้ ถ้าพวกเรายังไม่ล้มลงตามไปด้วย เราก็จะฝืนยืนต่อสู้ต่อไป เพื่อช่วยรักษาความหวังและรักษาชีวิตของผู้คนเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่พวกเราจะสามารถทำได้
         
เราสู้นะ พวกเราสัญญา สัญญาว่าจะพยายามยืนให้อยู่ให้ได้ และถ้าจะล้ม เราจะขอล้มตามไปเป็นคนสุดท้าย
         
ในมุมที่จะเป็นกำลังใจให้ได้บ้าง วันนี้เราฉีดวัคซีน Astraให้กับผู้คนที่รอคอยไปได้อีก 1776 คน ที่ยิม 4 ยอดรวมวันสุดท้ายของ Astra ที่เราให้กับผู้คนไปใน 45 วันติดต่อกันที่ผ่านมา มีมากกว่า 80,000 เข็มแล้ว  พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายก่อนเราจะปิดศูนย์ชั่วคราว ซึ่งเราจะฉีดซิโนแวคเข็มที่สองให้กับคนที่ได้รับเข็มแรกไปที่โรงพยาบาลแล้ว และเป็นเข็มแรกของอีกหลายๆคนที่คอยอยู่ จากนั้นเราคงจะกลับมาจัดระบบและเริ่มต้นการฉีด Astraที่นี่ใหม่ในช่วงปลายเดือนเป็นต้นไป อย่าลืมตรวจดูคิวนัดของทุกคนใน#หมอพร้อมด้วยนะ
          
ที่รพ สนาม วันนี้ตัวเลขผู้ป่วยโควิดใหม่ที่รับมาอยู่ที่ 24 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายและกลับบ้านได้มี 21คน ยอดผู้ป่วยรวมยังอยู่ที่ 392 ราย โดยไม่รวมเคส PUI ที่ต้องกักตัวที่นี่ ที่น่าสังเกตก็คือ เรามีผู้ป่วยเด็กตัวเล็กๆรักษาตัวอยู่ที่ รพ สนาม มากถึง 50คน 
      
สำหรับโครงการ Home Isolation ตัวเลขผู้ป่วยในโครงการนี้ของเมื่อวานอยู่ใกล้ 300 คน แต่ถึงตอนเย็นตัวเลขสะสมน่าจะเกิน 300 คนไปแล้ว เราหวังและจะพยายามทำให้โครงการนี้ เติบโตมากขึ้นโดยเร็วที่สุด เพราะอาจจะเป็นทางรอดทางเดียวของเราที่จะช่วยดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดจำนวนมากมายในสถานการณ์ที่เลวร้ายและไม่มีเตียงรองรับได้พอในโรงพยาบาลเช่นนี้
            
การงดให้บริการผู้ป่วยนอกที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน หรือการเลื่อนวันนัดพบแพทย์ ทำให้โรงพยาบาลต้องหาทางดูแลผู้ป่วยที่ยังมีความจำเป็นต้องรับยาหรือปรึกษาแพทย์ตามรอบระยะเวลาอยู่ วันนี้ จำนวนยาที่ฝ่ายเภสัชกรรมต้องจัดส่งทางไปรษณีย์ให้กับคนไข้จึงมีมากถึงกว่า 500 กล่องแล้ว และอาจจะมากขึ้นเรื่อยๆต่อไป เพราะเรายังคงมีหน้าที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิดไปพร้อมๆกัน โดยกำลังคนกลุ่มที่มีอยู่เดิมนี้ด้วย
          
 แต่พวกเรายังพอไหวอยู่ ใจยังสู้ และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไป จนกว่าจะถึงวันนั้นนะ  #อนาคตจะต้องมีประเทศไทย.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"