23ก.ค.64-กลุ่มนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อพิธีปฐมนิเทศนิสิตใหม่จุฬาฯ ความว่า
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสถาปนาขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีพระราชประสงค์จะให้ประชาชนทุกคนรวมไปถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินได้มีโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ด้วยทรงเห็นว่าอุดมศึกษานั้นจะเป็นหลักชัยเฉลิมพระนครและทำให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
เงินที่ใช้ในการสร้างจุฬาฯนั้นเป็นเงินซึ่งมาจากความศรัทธาของราษฎรที่รวบรวมเงินเพื่อจะสร้างพระบรมรูปทรงม้ากลางลานพระราชวังดุสิตถวายเป็นเครื่องสักการะบูชาพระคุณแห่งพระพุทธเจ้าหลวงพระปิยมหาราชเมื่อคราวเสด็จนิวัติพระนคร หลังจากการเสด็จเยือนยุโรป อันเป็นการเจริญพระราชไมตรีเพื่อถ่วงดุลอำนาจดำเนินนโยบายต่างประเทศเพื่อป้องกันและรักษาเอกราชของชาติไทยไว้
แต่การบริจาคในครั้งนั้นได้เงินมากมายมหาศาลเกินพอที่จะหล่อพระบรมรูปทรงม้าเป็นหลายเท่า เงินที่เหลือทั้งหมดอันเป็นเงินส่วนใหญ่จึงได้ใช้ในการสร้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องนับได้ว่าจุฬาฯเป็นพระราชอนุสรณ์แห่งสายสัมพันธ์ของความจงรักภักดีที่ประชาชนมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันแน่นแฟ้น
พระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์สืบมาทุกพระองค์ทรงเป็นพระบรมราชูปถัมภกแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาโดยตลอด และจุฬาฯเองก็ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณจากสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ด้วยสายธารแห่งพระมหากรุณาธิคุณนี้ ประชาคมจุฬาฯจึงสมควรยิ่งที่จะมีสายธารแห่งสำนึก อันเป็นคุณธรรมสำแดงสืบสายความกตัญญูกตเวทีอันเป็นเครื่องหมายของคนดีไว้ให้หนักแน่นมั่งคง
ชาวจุฬาฯยังสืบทอด สานต่อ รักษา อาวุโส น้ำใจ ระเบียบ ประเพณี อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาช้านานซึ่งถือว่าเป็นบรรทัดฐานทางสังคม (Social norms) ที่ช่วยให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังคงตั้งมั่นและยึดเหนี่ยวกันไว้ได้อย่างเหนียวแน่นในการทำงานรับใช้ประชาชนและประเทศชาติ
กิจกรรมรับน้องใหม่หรือพิธีปฐมนิเทศนิสิตใหม่แห่งจุฬาฯนั้นถือว่าเป็นการสืบทอดบรรทัดฐานทางสังคมผ่านกระบวนการขัดเกลาทางสังคม (Socialization) ประการหนึ่งโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะปลูกฝังคุณธรรม ความดีค่านิยม และทัศนคติ ตลอดจนแนวคิดในการเรียนการศึกษา และการใช้ชีวิตในจุฬาฯ ได้อย่างราบรื่น และสัมฤทธิ์ผล จนกระทั่งนิสิตใหม่จบเป็นบัณฑิตแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้อย่างภาคภูมิพร้อมทำงานรับใช้ประเทศชาติ
การเลือกสรรบุคคลเพื่อทำหน้าที่วิทยากรในการปฐมนิเทศนิสิตใหม่ของจุฬาฯนั้นจึงต้องทำอย่างรอบคอบและมั่นใจได้ว่าบุคคลที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวมีคุณสมบัติที่ดีเพียงพอในการเป็นแบบอย่าง (Role model) ที่ดีสำหรับนิสิตจุฬาน้องใหม่ ช่อจามจุรีที่เพิ่งแตกยอดผลิบาน ที่จะต้องชูช่องดงามผลิดอกออกผลน่าชื่นชมต่อไปในอนาคต
ในปีนี้ พิธีปฐมนิเทศนิสิตน้องใหม่จุฬาฯ มีประเด็นซึ่งเรานิสิตเก่ารุ่นพี่ชาวจุฬาฯ มีความห่วงใยและกังวลยิ่งหลายประการ ซึ่งเราขอใช้สิทธิ์และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและทักท้วงด้วยความรักและปรารถนาดียิ่งต่อรุ่นน้องนิสิตปัจจุบันและนิสิตใหม่แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะเป็นอนาคตของชาติในระยะเวลาอันใกล้ดังนี้
ประการแรก วิทยากรคนหนึ่งที่เชิญมาบรรยายนั้นเป็นผู้ต้องหาหนีคดีกระทำความผิดมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา โดยแสดงความเป็นปฏิปักษ์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด และมีพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่เหมาะสมอีกหลายประการ นอกจากนี้วิทยากรอีกสองคนก็เป็นผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 และมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมืองและเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างร้ายแรงเช่นกัน
การเชิญบุคคลที่มีประวัติไม่เหมาะสม อยู่ในระหว่างการถูกดำเนินคดี มีพฤติกรรมอันแสดงให้เห็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างประจักษ์ชัดแจ้ง และไม่สามารถเป็นแบบอย่างอันดีของสังคมมาเป็นวิทยากรปฐมนิเทศน้องใหม่จุฬาฯนั้นนับว่าผิดหลักการเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อพิจารณาเนื้อหาที่บรรยายแล้วนั้นยิ่งทำให้เกิดความกังวลและห่วงใยว่านิสิตจุฬาฯรุ่นน้องจะได้รับการปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ความคิดอันเป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองและเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐต่อจุฬาฯเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นการสั่งสอนให้นิสิตน้องใหม่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นคนเนรคุณแผ่นดินซึ่งจะทำให้ชื่อเสียงของจุฬาฯนั้นเสื่อมทรามลงในอนาคตหากน้องใหม่เหล่านี้จะสมาทานความคิดดังกล่าวเข้าไปเป็นความคิดของตน
ประการที่สอง วิทยากรในงานพิธีปฐมนิเทศน้องใหม่จุฬาฯนั้นใช้คำพูดและวาจาหยาบคายไม่เป็นแบบอย่างอันดีแก่น้องใหม่เลย หากน้องใหม่สมาทานวิธีการใช้คำพูดและวาจาเช่นนี้ไปใช้ในชีวิตประจำหรือไปใช้ในการทำ งานในอนาคตแล้วย่อมจะสร้างปัญหาให้กับตัวน้องใหม่จุฬาฯ และบัณฑิตจุฬาฯในอนาคตอันใกล้ที่จะวางตนไม่เหมาะสมในสังคมและถือว่าไม่เป็นแบบอย่างอันดีจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อจุฬาฯ
ประการที่สาม การเชิญวิทยากรในพิธีปฐมนิเทศไม่ได้ขออนุญาตจากฝ่ายกิจการนิสิตตามระเบียบจุฬาฯ แต่เป็นการสอดแทรกรายการเข้ามาเองโดยพลการของนายกสโมสรนิสิตจุฬาและองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พฤติกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นการแสดงความกร่างและลุแก่อำนาจ ไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกาและระเบียบที่มีอยู่ อันเป็นสิ่งที่ขัดกับวัฒนธรรมอันดีงามของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและไม่เป็นตัวอย่างที่ดีในสังคม การทำงานเช่นนี้ของนายกสโมสรนิสิตจุฬานั้นเป็นพฤติกรรมพี่สมควรได้รับการประณามจากสังคมและหาได้เป็นประชาธิปไตยไม่เพราะยึดตนเองเป็นศูนย์กลางที่เรียกว่าอัตตาธิปไตย โดยมิได้คำนึงถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอันได้แก่คณาจารย์ฝ่ายกิจการนิสิต ซึ่งมีหน้าที่ดูแลนิสิต ตลอดจนไม่ได้คำนึงถึงจุฬาฯ ซึ่งต้องสูญเสียความศรัทธาและเกียรติภูมิจุฬาที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นอกจากนี้พฤติกรรมดังกล่าวยังเป็นตัวอย่างที่เลวร้ายสำหรับนิสิตจุฬาฯซึ่งหากนำไปเลียนแบบในการทำงานในอนาคตแล้วย่อมเกิดปัญหาและเป็นภัยต่อสังคมตลอดจนเป็นภัยต่อบัณฑิตจุฬาฯที่เรียนรู้พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้ไปติดตัวต่อไปในอนาคต
ในฐานะนิสิตเก่าจุฬาฯและในฐานะพี่ ขอแสดงความเสียใจและความห่วงใยในปรากฏการณ์ดังกล่าว ในขณะเดียวกันก็ขอแสดงความกังวลที่ผู้บริหารจุฬาฯมิได้ปฏิบัติหน้าที่โดยเข้มแข็งปล่อยปละละเลยหละหลวมให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นโดยไม่ได้ทำหน้าที่ป้องกันและป้องปรามตามสมควรซึ่งถือว่าเป็นการบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรงที่ส่งผลเสียถึงจุฬาฯอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา
ด้วยจิตคารวะและปรารถนาดี
---------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |