"เฉลิมเกียรติ" รุดตรวจของกลางยาบ้า 13 ล้านเม็ดบรรทุกมาในรถ 12 ล้อบริษัทขนส่งเอกชน หลังขนจากชายแดนไทย-ลาวมาจนมุมที่ด้านแม่พริก จ.ลำปาง พบสวมชื่อคนอื่นจ้างขนมาแล้ว 21 ครั้ง ได้เบาะแสผู้ร่วมขบวนการ

    เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 มิถุนายนนี้ ที่บริเวณด่านเอกซเรย์แม่พริก ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.นิยม ด้วงสี ผบก.ภ.จว.ลำปาง, นายสมเกียรติ ตันตระกูล ปลัดจังหวัดลำปาง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก, เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสุรศักดิ์ พันธุปาล อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 6 ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 13,000,000 เม็ด
    ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ สภ.แม่พริก ได้เรียกตรวจรถบรรทุก 12 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-6070 เชียงราย ของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย เบื้องต้นพบว่าได้บรรทุกชุดโซฟาและเฟอร์นิเจอร์มาเต็มคันรถ เดินทางมาจากห้องแถวใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นทางในการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ตอนในของประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถบรรทุกคันดังกล่าวเข้าเครื่องเอกซเรย์แบบอุโมงค์ จนพบยาบ้าจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ตู้เอกสารจำนวนกว่า 30 ตู้ 
    ด้านนายสุรศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การว่าไม่มีส่วนรู้เห็น เพราะมีหน้าที่แค่ขับรถขนสินค้าดังกล่าวเพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา 
    จากการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าขบวนการขนยาเสพติดในครั้งนี้ได้ทำเป็นขบวนการ และมีการวางแผนเป็นอย่างดี ซึ่งได้มีการติดตั้งเครื่อง GPS จำนวน 2 ตัว ติดไว้ที่ตู้เอกสารและใส่ไว้ในซองเอกสารให้กับคนขับรถ เพื่อเป็นการติดตามความเคลื่อนไหวของยาบ้าดังกล่าวตลอดเส้นทาง ทำให้รู้ว่าการเดินทางถึงจุดไหน และสามารถตรวจสอบตำแหน่ง GPS ได้ว่าถูกสกัดอยู่ที่พื้นที่ใด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่า การว่าจ้างบริษัทขนส่งในครั้งนี้ได้มีนายเขมเป็นคนว่าจ้าง และเมื่อตรวจสอบลึกลงไป ก็พบว่าเป็นการสวมชื่อบุคคลอื่น คือใช้บัตรประชาชนคนอื่นในการว่าจ้าง ให้ไปรับสินค้าในจุดดังกล่าวแล้ว 7 ครั้ง รวมถึงครั้งก่อนหน้านี้ได้แอบอ้างสวมชื่อนายสุวัฒน์ ว่าจ้างให้ไปขนสินค้นจากจุดเดียวกันอีก 14 ครั้ง รวมทั้งหมด  21 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นการลักลอบขนยาเสพติดทุกครั้ง
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามขยายผล ล่าสุดพอจะทราบเส้นทางและรู้ตัวผู้ที่ร่วมขบวนการแล้ว อยู่ระหว่างสืบสวนเพื่อออกหมายจับ โดยรู้จุดที่ใช้เป็นสถานที่บรรจุและซุกซ่อนยาบ้า ในส่วนของบริษัทขนส่งที่ถูกว่าจ้างนั้น ตำรวจก็เร่งสอบเจ้าของบริษัทว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนยาเสพติดในครั้งนี้หรือไม่.