สรุปเอาเป็นว่า...ไม่น่ามีใคร? คิดจะทิ้ง...โผมม์ม์ม์ ไม่ว่าจะประชาธิกัด หรือภูมิใจไทย ต่างออกมาแสดงความ ตะลิงปลิง ชนิดเหนียวหนับ หนึบแน่น ระดับแกะยังไงก็แกะไม่ออกไปด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ ผม ก็คงน่าจะสบายใจได้บ้าง ในบางระดับ ต่อปัญหาความเป็นเอกภาพ-ไม่เอกภาพ ภายในคณะรัฐบาล สามารถหันมาใช้เวลา เดินหน้าประเทศไทย แบบได้มั่ง-ไม่ได้มั่ง กันไปตามสภาพ...
-------------------------------------------
คือเรื่องของความง้องๆ แง้งๆ นั้น...ต้องถือเป็น ธรรมชาติทางการเมือง ชนิดหนึ่ง จะไปเอาจริง-เอาจัง เอามาแบกใส่บ่าแล้วทำหน้ามู่ฮู่ ไปซะทั้งหมด...คงไม่น่าจะได้เรื่อง ไม่น่าจะถูกเรื่อง กันซักเท่าไหร่นัก ต้องหัดปล่อย หัดวาง แต่อย่าถึงกับ ว่าง ชนิดสามารถเสียบหัวรถไฟฟ้า เสียบสนามบินเฟส 2 หรือเสียบอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ฯลฯ เข้ามาในช่องว่าง จนอาจทำให้อะไรที่เละๆ อยู่แล้ว ยิ่งมีสิทธิ์เละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก หนักขึ้นไปใหญ่ คือต้องปล่อย ต้องวาง แบบพอมี เชือก มี โซ่ ไว้คอยกระตุกไปเป็นระยะๆ อะไรที่ทำท่าว่าจะเลยเถิด เลยกรอบ อาจต้อง กระชาก แรงๆ ให้ร้องเอ๋ง ร้องอิ๋ง เอาไว้มั่ง มันถึงจะพอ อยู่ๆ กันไปได้...
-----------------------------------------------
อย่างไรก็ตาม...เมื่อมาถึงขั้นนี้ ณ ขณะนี้ ต้องเรียกว่า...ออกจะหนักหนา-สาหัส อยู่พอสมควรเหมือนกัน ระดับต้องเปลี่ยนจากการหายใจทางปาก มาเป็นหายใจทางเหงือก เอาเลยก็ไม่แน่!!! อันเนื่องมาจาก...การที่ต้องเจอกับ โจทย์ ที่แสนยาก สุดจะยาก ที่ท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ท่านได้ตั้งเอาไว้เป็น คำถาม แบบยืดเยื้อ ยาวนาน มาเป็นปีๆ แต่ก็ยังหา คำตอบ ดีๆ หาจุดลงตัวแทบไม่ได้ โดยเฉพาะระหว่างชอยซ์ที่มีไว้ให้เลือก ว่าจะเอาแบบ อดตาย หรือเอาแบบ ป่วยตาย กันดี แล้วถ้าดันไปเลือก ไปกา แบบกลางๆ แบบถูกทุกข้อ คือแบบอดมั่ง-ไม่อดมั่ง ป่วยมั่ง-ไม่ป่วยมั่ง ทุกสิ่งทุกอย่างมันอาจคาราคาซังแบบเท่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ หรืออาจต้องหันรี-หันขวาง แบบ สุนัขบนทางด่วน เอาเลยก็ไม่แน่!!!
---------------------------------------------------
แต่ไม่ว่าจะตัดสินใจเลือก คำตอบ กันในแบบไหน อย่างไร ก็แล้วแต่ คงต้องยอมรับว่า...ภายใต้ โจทย์ ของท่านเชื้อไวรัสโควิด ในลักษณะเช่นนี้ มันคงไม่ได้มีแต่เฉพาะมาตรการ วิธีการ ในการรับมือ ว่าจะคุมเข้ม-ไม่คุมเข้ม ล็อกดาวน์-ไม่ล็อกดาวน์ หรือปรับมุมมอง ปรับทัศนคติ ให้เรื่องเชื้อโควิด-19 กลายเป็นเรื่องของเชื้อไข้หวัดธรรมดาๆ หรือไข้หวัดใหญ่ เพื่อหาทาง อยู่ร่วมโดยสันติ ให้จงได้แต่เพียงเท่านั้น แต่มันยังมีบางสิ่ง บางอย่าง ที่นอกเหนือไปจากนั้น หรือที่แทรกซ้อนเข้ามา นั่นคือเรื่องของ อารมณ์-ความรู้สึก ที่ต้องหาทางบริหาร จัดการ หามาตรการ วิธีการ ในการแก้ไข เยียวยา และฟื้นฟู ควบคู่ไปด้วย อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้...
------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดๆ ในการรับมือกับท่านเชื้อไวรัสโควิดก็ตามที แต่ยังไงๆ...คงหนีไม่พ้นต้องหาทางบริหาร-จัดการ อารมณ์-ความรู้สึก ของผู้คนในช่วงนี้ ให้มันสอดคล้อง รองรับ กับมาตรการแต่ละมาตรการ ไม่ว่าในทาง สุขภาพ หรือ เศรษฐกิจ กันไปเป็นระยะๆ จะปล่อยให้ความหูแหก-ตาแหก มันวิวัฒนาการ กลายพันธุ์ กลายสภาพ ไปเป็นความโกรธ ความเกลียด ความเคียดแค้น อาฆาต พยาบาทริษยา และชิงชัง ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว มีแต่ต้องหาทางประดิษฐ์ คิดค้น วัคซีน ยี่ห้อใดๆ ก็แล้วแต่ เอาไว้ไล่จิ้ม ไล่ทิ่ม ผู้คนโดยส่วนใหญ่ หรือกว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ให้พอได้เกิดความมั่นอก มั่นใจ ความไว้เนื้อ-เชื่อใจ ความไว้วางใจ ต่อผู้มีอำนาจ-หน้าที่ อย่าง รัฐบาล ขึ้นมาได้มั่ง หรือพอให้เกิด ภูมิคุ้มกันหมู่ทางความเชื่อ เกิด เครือข่ายป้องกันทางสังคม อันเป็นสิ่งจำเป็นเอามากๆ ต่อการตอบคำถามที่จะตามมาในวันข้างหน้า...
-----------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่หมายถึง การบริหาร จัดการ ทางอารมณ์-ความรู้สึก ที่ต้องเร่งหาคำตอบที่ชัดเจนเอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ จะปล่อยให้เกิดความหดหู่ ห่อเหี่ยว ความแห้ง...กับ...แห้ง โดยปราศจาก ความหวัง ใดๆ คงไม่ได้โดยเด็ดขาด หรือไม่น่าจะถูกเรื่อง ไม่น่าจะเข้าท่ากันซักเท่าไหร่นัก เพราะบรรดาอารมณ์-ความรู้สึกต่างๆ ที่มันกำลังเป็นไปใน แง่ลบ เหล่านี้ ถ้าหากมันดัน ตกผลึก ขึ้นมา หรือดันกลายสภาพ กลายพันธุ์ ไปเป็นความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท ริษยาและชิงชัง ขึ้นมาจริงๆ แล้วล่ะก็!!! ออกจะเป็นอะไรที่น่าห่วง น่ากังวล เป็นอย่างยิ่ง...
-------------------------------------------------------
เพราะมันอาจไม่ได้...ไปแค่รัฐบาล หรือไปแค่ บิ๊กตู่ รายเดียวเท่านั้น แต่อาจไปกันแบบ ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี-หนีไม่พ้น กันไปทั้งยวง ทั้งแผง หรือไปกันทั้งสังคม ไปกันทั้งประเทศไทย เอาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ประเพณี ไปจนค่านิยมทางสังคม ฯลฯ เพราะแค่เห็น การด่า ของเด็กๆ ยุคนี้แล้ว ต้องเรียกว่า...แทบขนหัวลุกเมื่อนึกถึงอนาคตประเทศไทย สังคมไทย ในวันข้างหน้า หรือเมื่อ ความเป็นไทย ถูกแทนที่ด้วย ความหยาบช้า-สามานย์ แบบชนิดสุดลิ่มทิ่มกระดาน แถมกลับเป็นอะไรที่สะใจ ถูกใจ โดนใจ ต่อ อารมณ์-ความรู้สึก ของพวกเด็กๆ และพวกที่กำลัง ตกผลึก กำลัง กลายพันธุ์ แบบชนิดน่าเกลียด น่ากลัว ไม่ต่างอะไรไปจากท่านเชื้อไวรัสโควิด...นั่นแล...
------------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่จะต้องเร่งปลูก เร่งสร้าง เร่งประดิษฐ์ คิดค้น วัคซีน สำหรับสิ่งที่เรียกว่า อารมณ์-ความรู้สึก กันโดยเฉพาะ เพราะ สายพันธุ์เดลตาทางความรู้สึก ช่วงนี้ มันชักจะมาแรง แซงโค้ง เอามากๆ โดยเฉพาะในหมู่ศิลปิน นักร้อง นักแสดง หรือพวกไอด้ง ไอดอล ทั้งหลาย จะไปปล่อยเลยตามเลย หรือปล่อยให้ บิ๊กตู่ ว่ากันไปตามเรื่อง-ตามราว กาผิด กาถูก กันไปในแต่ละช่วง แต่ละระยะ ออกจะเป็นอะไรที่ อันตราย อยู่ตามสมควร ด้วยเหตุนี้...ใครก็ตามที่ยังพอมี ซิโนแวค-ซิโนฟาร์มทางความรู้สึก หรือมี แอสตร้าเซนเนก้า-ไฟเซอร์-โมเดอร์นาทางความรู้สึก อยู่ในมือยิ่งดีไปใหญ่ คงต้องช่วยกันไล่จิ้ม ไล่ทิ่ม เข็มแรก เข็มสอง เข็มสาม กันไปตามศักยภาพของใคร-ของมัน กันก่อนก็แล้วกัน....
--------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก สุภาษิตอังกฤษ...“Hate inhabits little souls. - วิญญาณที่อ่อนแอ คือที่สิงสถิตแห่งความเกลียดชัง...”
----------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |