ปี 2564 ถือว่าเป็นปีทองของวงการภาพยนตร์ไทยเลยก็ว่า หลังภาพยนตร์หลายเรื่องประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 74 ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส หรือ เทศกาลภาพยนตร์แฟนตาสติคนานาชาติปูชอน ครั้งที่ 25 เมืองปูชอน เกาหลีใต้ ที่ล่าสุดภาพยนตร์ Dark World...เกม ล่า ฆ่า รอด โกอินเตอร์ฉายรอบ เวิร์ล พรีเมียร์ ในสาย เวิร์ล แฟนตาสติค เรด  ไปเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

          ปรากฏว่ากระแสตอบรับไปในทิศทางที่ดีผู้ชมชาวเกาหลีใต้เข้าชมเต็มโรง ซึ่งหลังภาพยนตร์ฉายจบยังมีการจัดช่วง Q&A ให้คนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ประเทศอื่น ๆ ได้ร่วมชมกันด้วย นอกจากนี้ Dark World ยังเป็น 1 ใน 9 เรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัล Méliès International Festivals Federation (MIFF) Award for Best Asian Film (รางวัลภาพยนตร์เอเชียยอดเยี่ยม จากสมาพันธ์เทศกาลภาพยนตร์แฟนตาสติคนานาชาติ) ด้วย

          Dark World เป็นผลงานของ สแล๊ป มอนสเตอร์ ซึ่งในประเทศไทยบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เป็นผู้จัดจำหน่าย และยังเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในรอบ 10 ปี ของผู้กำกับฝีมือดี โน้ตจูเนียร์-จิตต์สินธ์ ผ่องอินทรกุล เขียนบทโดย พิง ลำพระเพลิง นำแสดงโดย แซมมี่-ปัญฑิตา คาวเวลล์,ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์,น้ำหวาน-รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์,วิลลี่ แมคอินทอช,ตูมตาม-ยุทธนา เปื้องกลาง,นิว-ชัยพล พูพาร์ท และ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น

          โจ-ปิยะวัฒน์ ปฐมวาณิชย์ ผู้อำนวยการสร้างจาก สแล๊ป มอนสเตอร์ กล่าวว่า “ภาพยนตร์ Dark World เป็นผลงานเรื่องแรกของบริษัท ตอนที่ส่งหนังไปให้ทางคณะกรรมการที่งานเทศกาลฯพิจารณา แล้วได้รับฟีดแบ็คมาว่าหนังเราได้ฉายในรอบเวิร์ล พรีเมียร์ ก็ดีใจมาก กระแสตอบรับในรอบนั้นผู้ชมเข้าชมเต็มโรงภาพยนตร์ครับ เราไม่คาดการณ์ว่าจะเป็นอย่างนี้ เสียดายตรงที่ติดสถานการณ์โควิด-19 เลยไม่มีโอกาสไปร่วมงาน แต่ทางเทศกาลฯ ส่งคำถามมาให้ผมและผู้กำกับ โน้ตจูเนียร์ ตอบกลับไปในรูปแบบวีดีโอ เป็นช่วง “Q&A” หลังจากภาพยนตร์ฉายจบ

          ซึ่งไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะมีการทำแบบนี้ ต้องเป็นเรื่องที่คนสนใจ ถามว่าผู้ชมเกาหลีใต้เป็นอย่างไรบ้าง ผู้ชมก็พูดถึงว่าเป็นภาพยนตร์ที่นำเอานักแสดงหญิงมาแสดงฉากแอ๊คชั่นได้อย่างตื่นเต้นและน่าสนใจ ด้านคนในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศอื่น ๆ ก็บอกว่าสามารถสร้างโลกในหนังได้ออกมาอย่างมีเอกลักษณ์และน่าทึ่ง มีความดิบและทะเยอทะยานครับ

          ผมดีใจที่กระแสตอบรับไปในทางที่ดี ต้องขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกคน การทำหนังเรื่องนี้ไม่ได้ง่าย ก่อนเปิดกล้องผมตีกับผู้กำกับ พี่โน้ตจูเนียร์ และผู้เขียนบท พี่พิง ลำพระเพลิง เรื่องบทหลายครั้ง จนพี่โน้ตจะเลิกทำแล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่านะครับ เพราะตัวผมรู้สึกว่าถ้าบทหนังไม่ดี หนังคงไม่สนุกแน่นอนครับ ส่วนเรื่องหนังได้รางวัลหรือเปล่า ก็ไม่ได้ครับ แต่ผมไม่เสียใจนะ อย่างน้อยหนังเรื่องแรกก็มาได้ไกลขนาดนี้ ตอนที่ทำหนังไม่ได้คิดถึงเรื่องจะส่งประกวดงานเทศกาลเลย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราตั้งใจ เดี๋ยวเจอกันแน่นอนครับ” โจ ปิยะวัฒน์ กล่าว