22 ก.ค.64 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “จุฬาฯเฉย แต่สังคมไม่เฉย” วันนี้ผมมีโอกาสสนทนากับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากของบ้านเมืองท่านหนึ่ง ในเรื่องเกี่ยวกับกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ ที่เนติวิทย์ เชิญนักโทษคดี ม.112 มาสนทนาและให้โอวาทกับนิสิตใหม่
ซึ่งสังคมตั้งคำถามว่าอาจารย์และผู้บริหารจะนิ่งเฉยแบบนี้หรือ? ซึ่งท่านให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า…“เขาพูดกันในไลน์จุฬาว่า…มันเป็นกิจการภายในของนิสิต อาจารย์หรือผู้บริหารจะไปจัดการอะไรไม่ได้”
ผมจึงเกิดคำถามว่า…“แบบนี้แปลว่า ถ้านิสิตวางแผนล้มล้างการปกครอง รัฐก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นกิจการภายในของนิสิต เหรอครับ”
ท่านจึงกรุณาให้ข้อสังเกตมาว่า…1. มีการเตรียมการทำกิจกรรมใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษาคนไหนรู้เรื่องเลยหรือ? รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตหรือรองอธิบดีด้านพัฒนานิสิตหรือผู้บริหารของมหาวิทยาลัยไม่รู้ และไม่มีนิสิตคนไหนมากระซิบบอกสักคนเลยหรือ?
2. หลังจากเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ทำไมไม่มีผู้บริหารสักคนทำอะไรเลยหรือ?
3.การไม่รู้เรื่องมาก่อน ไม่สำคัญเท่ากับรู้กันทั่วเมืองแล้วจะทำอะไร
4. คำพูดที่ว่าเป็นกิจการภายในของนิสิต ทำอะไรไม่ได้“เป็นคำพูดของนิสิต หรือคำพูดอาจารย์?”
5. อาจารย์ไม่ได้ตรวจสอบการดำเนินงานของนิสิต อย่างถี่ถ้วน “ไม่รู้ว่าปิดบังซ่อนเร้นแผนงาน แอบทำโดยไม่บอก” หรือไม่?
6. พอความแตก ก็ได้แต่ขอโทษแทนนิสิต แต่ไม่มีบทลงโทษใดๆ !!!
7. รับปากเพียงว่าต่อไปจะระมัดระวังมากขึ้น
แต่ไม่บอกว่า ถ้านิสิตทำโดยพลการอีก จะป้องกันยังไง !!!
ดังนั้น ผมจึงเรียนขออนุญาตท่าน นำข้อสังเกตนี้ มาเผยแพร่ เป็นคำถามผ่านสื่อไปถึงคณาจารย์และผู้บริหารของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยครับ
อัษฎางค์ ยมนาค
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |