คุยเรื่องวัคซีน-โควิด อย่าเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง

            และการพูดคุยต้องดูช่วงเวลาด้วย

            อย่าเอาช่วงเวลาหนึ่งไปตัดสินการตัดสินใจในอีกเวลาหนึ่ง

            มันไม่เป็นธรรมสำหรับคนทำงาน 

            เพราะโควิด-๑๙ เป็นเรื่องใหม่

            ขนาดนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ยังต้องเรียนรู้โควิดทุกวัน

            ไวรัสโควิด เปลี่ยนแปลงเร็ว

            เรื่องดีล Pfizer ๒๐ ล้านโดส มีนายแพทย์ท่านหนึ่งออกมาแสดงความเห็นว่า ทำไมไม่ซื้อตั้งแต่แรก เพราะเห็นซื้อได้ และมีขาย

            มีคนสำทับว่า ห้ามพูดเรื่อง ตลาดวัคซีนเป็นของผู้ขาย เพราะไม่ใช่ข้ออ้าง

            อ่านแถลงการณ์ แพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด และอาจารย์แพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์มหาวิทยาลัยมหิดล รวม ๖๐๔ คน ร่วมลงชื่อ แสดงจุดยืนและเรียกร้องให้จัดหาและจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-๑๙ ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น mRNA vaccine, Protein  subunit vaccine เป็นต้น อันมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-๑๙ ได้เป็นอย่างดี ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทุกคน

            เห็นใจครับ คนทำงานด่านหน้ารัฐต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะถ้ากลุ่มนี้แตก ก็ไม่ต่างเขื่อนพัง

            มันจะทลายหมด

            คุณหมอ ๖๐๔ ท่านน่าจะสบายใจไปได้เปลาะหนึ่ง เพราะ Pfizer ๑.๕ ล้านโดส ที่ได้จากการบริจาคของอเมริกา จะมาถึงปลายเดือน และเริ่มฉีดให้คุณหมอ และบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดต้นเดือนสิงหาคม

            หากมีวีไอพี หรือผู้มีบารมีคนไหนลักไก่แซงคิวฉีด ขอให้กรรมตามสนองแบบติดจรวด

            สำหรับประชาชนทั่วไป Pfizer ๒๐ ล้านโดส จะมีช่วงไตรมาส ๔ คือปลายปี

            ก็ต้องรอครับ

            วกกลับไปที่เรื่องซื้อได้ ทำไมไม่ซื้อตั้งแต่แรก

            ดีล Pfizer และวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ มีการชี้แจงมาเป็นระยะๆ แล้วครับ ไม่ใช่เริ่มมาเจรจาตอนนี้แล้วได้ของเลย

            ประเด็นนี้ถ้าติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เรื่องเข้าใจยาก    

            แต่ปัญหาคือ มีคนจำนวนหนึ่ง เก่งหลังหวยออกชอบแสดงความเห็น แถมมีสาวกตามเชียร์ เฟกนิวส์ถึงได้เกลื่อนโซเชียล   

            เอาเฉพาะ Pfizer ที่มีการปล่อยข่าวต่อๆ กันว่า ประเทศเพื่อนบ้านได้หมดแล้ว มีแต่ไทยที่ล้าหลัง เพราะกั๊กอยากซื้อซิโนแวคของเจ้าสัว หรือไม่ก็แทงม้าตัวเดียว  AstraZeneca ไม่ยอมเปลี่ยน เหน็บแนมไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์

            ลาวได้ Pfizer ครับ ผ่านโครงการ COVAX ๑ แสนโดส เป็นล็อตที่กระเบียดกระเสียร แจกจ่ายไปทั่วโลกประเทศละนิดประเทศละหน่อย เพราะไม่มีของ

            สิงคโปร์ไม่ต้องพูดถึง เพราะเขาร่วมลงขันวิจัยกับ  Pfizer-BioNTech ตั้งแต่แรก

            แต่ถึงตอนนี้สิงคโปร์ประเทศที่มีพลเมืองเพียง ๕.๗  ล้านคน ฉีดวัคซีนครบ ๒ โดสไปเพียง ๕๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง

            มาดูประเทศใหญ่กันดีกว่า

            เอาข่าวล่าสุดช่วงกลางเดือนนี้         

            สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของ อินโดนีเซีย เพิ่งจะอนุมัติให้ วัคซีนของ Pfizer-BioNTech  ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคมมานี่เอง

            เป็นการอนุมัติหลังอินโดนีเซีย บรรลุข้อตกลงจัดหาวัคซีน Pfizer จำนวน ๕๐ ล้านโดส

            ของอินโดนีเซียส่งมอบเร็วกว่าเราครับ           

            เขาได้เดือนหน้า

            ๗.๕-๑๒ ล้านโดสต่อเดือน

            ส่วนเหตุผลเร็วช้า เป็นเรื่องของการเจรจา และการเมืองระหว่างประเทศ

            แต่เหตุผลหลักจริงๆ ที่อินโดนีเซียได้วัคซีนเร็ว เพราะ  Pfizer ในอเมริกาเริ่มชะลอการฉีด ขณะที่อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อรายวันลำดับต้นๆ ของโลก

            ความพยายามดิ้นรนฉีดวัคซีน mRNA ของชาวอินโดนีเซียไม่ต่างจากคนไทยสักเท่าไหร่          

            คนรวยใช้บริการทัวร์เพื่อไปฉีด วัคซีน mRNA ที่อเมริกา

            บริษัททัวร์รับรู้กันในรหัส "Air V&V"

            คนกลุ่มนี้ไม่ต้องการฉีดวัคซีนในประเทศ ด้วยเหตุผลต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ครอบครัวของตนเอง

            ไทม์ไลน์การจัดหาวัคซีนของอินโดนีเซียไม่ต่างจากไทยเท่าไหร่

            เริ่มจาก Sinovac ในช่วงแรก เพราะ "มีของ" ขณะที่วัคซีนเทพ mRNA ต้องรอฝรั่งฉีดก่อน แถมอเมริกาห้ามส่งออกอยู่พักหนึ่ง

            Pfizer เพิ่งจะพอมีของในช่วงเดือนที่ผ่านมานี่เอง เพราะฝรั่งฉีดกันไปเยอะแล้ว

            ฉะนั้นช่วงนี้หลายประเทศในย่านอาเซียน ทยอยปิดดีลกับ Pfizer และส่งมอบช่วงปลายปี

            ไปดู มาเลเซียกันบ้าง 

            มาเลเซีย เพิ่งจะสั่ง Sinopharm และ Sinovac วัคซีนสัญชาติจีนเพิ่มเติม

            ทั้งนี้ก่อนนี้รัฐบาลมาเลเซียประกาศว่า จะหยุดฉีดวัคซีน Sinovac ทันทีหลังล็อตแรกที่สั่งซื้่อมาหมด โดยหันไปฉีดวัคซีน Pfizer แทน

            ที่ต้องเปลี่ยนแผน ซื้อวัคซีน Sinopharm และ  Sinovac เพิ่มก็เพราะ วัคซีน Pfizer มาไม่ทัน

            แถม AstraZeneca ขาดแคลน 

            ก็ที่จะส่งไปจากไทยนี่แหละครับ มันไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้

            สถานการณ์ของมาเลเซียวันนี้คือ รอความชัดเจนจากไทย

            ขณะที่ไทยมีความพยายามระงับส่งออก AstraZeneca ชั่วคราว

            ฟิลิปปินส์ได้ลงนามในข้อตกลงการจัดหาวัคซีน Pfizer  ๔๐ ล้านโดสไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว  

            ครับ...นี่คือตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นว่า การบริหารวัคซีนของแต่ละประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่าย        

            ปัจจัยหลักมาจาก วัคซีนไม่พอ ขณะที่โควิดระบาดหนัก เร็ว รุนแรง กว่าเดิมมาก

            ถ้าดูข่าวสารจากรอบโลก จะเห็นว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงกลางปี วัคซีน mRNA หายากมาก

            ไม่มีของ

            หลายประเทศย่านอาเซียน เพิ่งจะมีการจองเป็นกอบเป็นกำ หลักสิบล้านโดสช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมานี่เอง

            นี่คือคำตอบ ของคำถาม ทำไมๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รีบหาวัคซีนเทพมาฉีดให้คนไทย

            วัคซีน mRNA ช่วงครึ่งปีแรกเป็นเรื่องจริง 

            ต่อให้ ร้อยธนาธร มาเป็นนายกฯ แทงม้าร้อยตัว ก็จะได้ Pfizer ช่วงนี้ครับ 

            ไม่มีทางได้ก่อน

            ที่อธิบายมาทั้งหมด ก็เพื่อให้เข้าใจถึงไทม์ไลน์ของวัคซีนโควิดบนโลกใบนี้

            ประเทศผู้ผลิต ประเทศผู้ซื้อ ประเทศผู้รับบริจาค ได้วัคซีนไม่พร้อมกันแน่นอน

            จะบอกว่าเป็นความเหลื่อมล้ำระดับโลกก็ได้

            ใครที่ไม่ยอมรับ ยังเชื่อในความคิดที่ว่า วัคซีนไม่ขาด ถ้ารัฐบาลเก่ง หรือถ้าไม่ใช่รัฐบาลประยุทธ์ ไทยต้องมีวัคซีน mRNA พร้อมประเทศผู้ผลิต

            ตื่นครับ...อย่าฝันกลางวัน.