21 ก.ค.64 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงตอนหนึ่งว่า ตนขอย้ำสถานที่และประเภทกิจการที่ต้องปิดในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัดคือ สถานประกอบการคล้ายลักษณ์ผับ บาร์, กิจการอาบ อบ นวด, กิจการอาบน้ำ อบสมุนไพร, สนามชนไก่, สนามชนโค, สนามมวย, สนามม้า, สนามแข่งขันทุกประเภท, โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด, สถานที่เล่นโบลิ่งว์หรือตู้เกม, ร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ต, โรงมหรศพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร, สถานที่แสดงมหรศพหรือสถานที่มีการแสดงหรือการละเล่นสาธารณะ, สวนน้ำ สวนสนุก, สนามเด็กเล่น, สวนสัตว์, สถานที่เล่นสเก็ต, สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส, โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้, สถาบันลีลาส, ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง, ศูนย์พระเครื่อง, สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก

นอกจากนี้ ศปก.ศบค.ได้พิจารณาร่วมกันและมีความเห็นว่าเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และมาตรการบังคับของข้อกำหนดฉบับที่ 28 จึงมีข้อเสนอแนะให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาสั่งปิดสถานที่ กิจการ ที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค ดังนี้ ได้แก่ สนามกีฬาทุกประเภท (ประเภทในร่ม เช่น แบดมินตัน สนามซ้อมกอล์ฟ สนามฟุตบอล สนามเทนนิส), สนามเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำเพื่อการสันทนาการ สระว่ายน้ำสาธารณะ หรือกิจการอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน, ลานกีฬา, ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ

ศูนย์การเรียนรู้ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม ศูนย์หอศิลป์, ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชนและบ้านหนังสือ , พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์สถาน พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงพิพิธภัณฑ์ในลักษณะเดียวกัน แหล่งประวัติศาสตร์ หรือโบราณสถาน, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน, ร้านเสริมสวย ทั้งร้านตัดผมหรือแต่งผม ร้านทำเล็บ ร้านสัก, สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ต่างๆ

ส่วนสถานที่ที่เปิดได้ แต่ขอให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขการควบคุมโรค ได้แก่ สถานที่รับเลี้ยงเด็ก เฉพาะที่รับเลี้ยงในโรงพยาบาลและที่มีการรับตัวไว้เพื่อค้างคืนเป็นปกติ, สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติ และตลาดนัดเฉพาะที่ขายอาหารหรือวัตถุดิบเพื่อการบริโภค สำหรับการเดินทางขอย้ำว่ารถขนส่งสาธารณะเข้าออกพื้นที่สีแดงเข้มจะปิดให้บริการ และการเดินทางในพื้นที่สีแดงเข้มให้ลดปริมาณเหลือ 50%