ปะหน้า “วิชาญ มีนชัยนันท์” เมื่อวานนี้ที่รัฐสภา แม้เป็นอดีต ส.ส.กทม.ย่านมีนบุรี ของพรรคเพื่อไทย แต่ยังมีภารกิจเข้าประชุมกับคณะกรรมาธิการที่ดิน สภาผู้แทนราษฎร

                จังหวะที่เดินผ่านหน้าแก๊งกระจอกข่าวที่กำลังเกาะติดการพิจารณางบประมาณของกรมควบคุมโรค หน้าห้องคณะอนุกรรมาธิการงบประมาณครุภัณฑ์ เจ้าตัวก็หยุดชะงัก พร้อมนำเสนอประเด็นหญิงตั้งครรภ์กำลังเดือดร้อน

            “วิชาญ” เล่าว่า นอกจากวิกฤติโควิด-19 ที่กระทบในหลายๆ มิติของสังคม หนึ่งในนั้นคือ กระทบคนท้องด้วย 2 เด้ง

                เด้งหนึ่ง สืบเนื่องจากที่ สปสช.ยกเลิกสัญญาโรงพยาบาลเอกชน 22 แห่ง ในส่วนของส่งเสริมสุขภาพและป้องกัน ทำให้คนท้องที่ฝากครรภ์ไว้กับโรงพยาบาลเหล่านี้ได้รับผลกระทบ ตามปกติคนท้องจะฝากครรภ์ที่คลินิกอบอุ่น หรือหน่วยบริการปฐมภูมิที่ส่งตัวคนไข้ให้โรงบาล ซึ่งตอนนี้ได้มีการยกเลิกไปแล้ว

            เด้งที่สอง โรงพยาบาลถูกยกเลิกสัญญาดูแลหญิงตั้งครรภ์เดิมก่อนคลอด โดยขณะนี้ส่งผลกระทบให้หญิงมีครรภ์เดือดร้อน ต้องหาโรงพยาบาลใหม่ฝากครรภ์ และวุ่นวายที่ต้องทำเอกสารย้ายสิทธิ์เปลี่ยนโรงพยาบาล เสียเวลาค่าเดินทาง

            “วิชาญ” บอกต่อว่า “เมื่อคลินิกต้องส่งไปโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่เป็นโรงพยาบาลภาครัฐ ซึ่งส่งไปแล้วได้รับการปฏิเสธ เพราะอ้างว่าไม่สามารถรับได้แล้ว เนื่องจากโรงพยาบาลเต็มจากผู้ป่วยโควิดจำนวนมาก จนทำให้คนท้องต้องไปหาโรงพยาบาลที่ไกลออกไป และอาจต้องจ่ายเป็นเงินสดสร้างความเดือดร้อน”

                ประธาน กทม.แห่งพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า การที่ผู้มีอำนาจภาครัฐตัดสินใจยกเลิกการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน อีกทั้งยังไปเพิ่มภาระงานให้แพทย์พยาบาลในโรงพยาบาลที่ต้องรับตัวผู้ป่วยที่ส่งต่อมา ดังนั้นขอเรียกร้องให้ทบทวนยกเลิกในส่วนนี้ใหม่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังเดือดร้อน และในส่วนของสัญญาโรงพยาบาลเอกชน 22 แห่ง ก็ควรมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะมีการยกเลิก เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด 

                ตอนท้ายเจ้าตัวขมวดว่า ขอฝากประเด็นนี้ด้วย เพราะคนท้องน่าเห็นใจจริงๆ กลัวพวกเขาจะไม่มีที่คลอด

                สปสช.โปรดทราบ เข้าไปดูแลให้ที เพราะทุกชีวิตมีค่า            

มินนี่เมาธ์