20 ก.ค.64- ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รายงานข้อมูลสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2564 ถึง วันที่ 19 ก.ค.2564 ของ จ.บุรีรัมย์ ว่า ยังคงน่าเป็นห่วง ล่าสุด ในวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 138 ราย แยกเป็น ผู้ติดเชื้อพบในพื้นที่จังหวัด 8 ราย ติดเชื้อมาจากนอกพื้นที่ 130 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ ทั้ง 138 ราย กระจายใน 18 อำเภอ พบในพื้นที่อำเภอเมือง 1 ราย (ในพื้นที่ 1 ราย), อ.เฉลิมพระเกียรติ 9 ราย (ในพื้นที่ 7 ราย), อ.ลำปลายมาศ 6 ราย, อ.สตึก 28 ราย, อ.กระสัง 25 ราย, อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ 5 ราย, อ.บ้านกรวด 5 ราย, อ.คูเมือง 1 ราย, อ.หนองกี่ 4 ราย, อ.ปะคำ 7 ราย, อ.หนองหงส์ 5 ราย, อ.นาโพธิ์ 7 ราย, อ.ห้วยราช 1 ราย, อ.โนนสุวรรณ 8 ราย, อ.ชำนิ 3 ราย, อ.บ้านด่าน 9 ราย, อ.โนนดินแดง 4 ราย และ อ.แคนดง 10 ราย
รวมยอดผู้ป่วยสะสม 1,680 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 316 ราย อยู่ระหว่างรักษา 1,359 ราย โดยอำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อ.เมือง 260 ราย รองลงมา อ.กระสัง 165 ราย, อ.ประโคนชัย 164 ราย, อ.สตึก 141 ราย, อ.บ้านกรวด 89 ราย, อ.ห้วยราช 79 ราย และ อ.คูเมือง 73 ราย ตามลำดับ
ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคสะสม ทั้งหมด 1,284 ราย แยกเป็นรายใหม่ 68 ราย และรายเก่า 1,216 ราย ส่วนการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม/แดง/ส้ม สะสม 26,790 ราย แยกกักตัวที่บ้าน 22,650 ราย และกักตัวในท้องถิ่น 4,140 ราย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ยังมีมาตรการคุมเข้มอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ขณะที่โครงการ “อุ้มลูกหลานเซราะกราวกลับบ้าน” ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดขึ้นมาโดยจะบริการรับ “เฉพาะคนบุรีรัมย์” ที่ติดโควิด ไม่มีที่รักษาโดยจะมีรถไปรับกลับมารักษาที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้เปิดคอลเซ็นเตอร์รับเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง ที่เบอร์ 02-576-5555 ได้เริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. ปรากฏ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. มีคนบุรีรัมย์ติดต่อขอรับบริการกลับบ้าน 35 คน รวมยอดสะสมทั้งหมด 196 ราย และมีการรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนาม จำนวน 598 ห้อง
จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ถูกยกระดับเป็นพื้นที่สีแดง (พื้นที่ควบคุมสูงสุด) ซึ่งมีการผ่อนคลายมาตรการตามระดับพื้นที่สถานการณ์ ดังนี้ การสวมหน้ากากอนามัย ต้องสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหะสถานหรือในที่สาธารณะ, ร้านอาหาร สามารถนั่งทานในร้านได้ เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. ห้ามจำหน่ายสุรา-ห้ามดื่มสุราในร้าน, ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามปกติ จำกัดจำนวนคน และงดกิจการรมส่งเสริมการขาย, สถานศึกษา/สถาบันกวดวิชา หากต้องการใช้อาคารสถานที่จัดการเรียนการสอน จัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมาก ต้องผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด, การจัดกิจกรรม ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มกันเกิน 100 คน, สถานที่เล่นกีฬา/แข่งกีฬา เปิดทุกประเภท ไม่เกิน 21.00 น. แข่งขันโดยจำกัดผู้ชม, สถานบริการ/สถานบันเทิง/ผับ/บาร์/คาราโอเกะ ห้ามเปิด โดยมีผลบังคับใช้ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป .
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |