พท.ไล่ถล่มเรือดำน้ำลั่นต้องถอดออปชันยกพวง


เพิ่มเพื่อน    

ควันหลง ทร.ถอยทัพเรือดำน้ำ เพื่อไทยขยี้ต่องัดโครงการหลายพันล้านยังไม่ยกเลิก จับพิรุธกลาโหมกินรวบรัดรวดเดียว แฉยิบ กมธ.ฝ่ายรัฐบาลขยิบตาเปิดประชุมลับ สุดท้ายโดนเบรกทัน ขณะที่ "ยุทธพงศ์" ขีดเส้นถอนออปชันยกพวง 
เมื่อวันจันทร์ ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2565 ในส่วนกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ของกองทัพเรือ วงเงิน 22,500 ล้านบาท ที่ถูกกระแสสังคมและฝ่ายการเมืองโจมตีอย่างหนักถึงความไม่เหมาะสมการจัดซื้อเรือดำน้ำในช่วงที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จนกองทัพเรือเตรียมขอถอนวาระการจัดซื้อออกจากการประชุม กมธ. 
โดยเป็นการประชุมผ่านระบบซูม ให้หน่วยงานที่มาชี้แจงงบอยู่ที่สำนักงานของตัวเอง ทั้งนี้ เมื่อเริ่มประชุม กมธ. พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. ได้แจ้งต่อที่ประชุม กมธ.ผ่านระบบซูม ขอถอนวาระการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำออกจากการประชุม จากนั้นที่ประชุมจึงพิจารณางบประมาณส่วนอื่นๆ ของกระทรวงกลาโหมไปตามวาระปกติ 
จากนั้นเวลา 13.30 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2565 แถลงว่า ในช่วงเริ่มต้นประชุม กมธ. กองทัพเรือแจ้งขอถอนวาระจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ ออกจากวาระประชุม แต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ของเรือดำน้ำที่ยังค้างอยู่ไม่มีการถอนตามไปด้วย อาทิ การสร้างท่าเทียบเรือดำน้ำและโรงซ่อมเรือดำน้ำ ที่มีมูลค่าหลายพันล้านบาท
“มีข้อสังเกตในงบกระทรวงกลาโหมที่มีความพยายามพิจารณาแบบรวบรัดให้พิจารณางบรวดเดียว 8 หน่วยงาน ของกระทรวงกลาโหม ไม่ได้แยกทีละหน่วยงานเหมือนกระทรวงอื่นๆ ทั้งที่งบกลาโหมมีมากถึง 2 แสนกว่าล้านบาท และอยู่ในความสนใจของประชาชน นอกจากนี้ยังมี กมธ.งบฯ ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้ประชุมลับงบกระทรวงกลาโหม แต่ฝ่ายค้านไม่ยอม เพราะข้อมูลที่จะซักถามไม่ใช่ข้อมูลลับ ไม่รู้ต้องการปกปิดข้อมูลอะไรหรือไม่ แต่ในที่สุดที่ประชุม กมธ.ไม่อนุญาตให้ประชุมลับ” นายประเสริฐระบุ  
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ระหว่างที่อภิปรายเรื่องงบกระทรวงกลาโหม ถูกขัดขวางจากนายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ไม่ให้เปิดเผยหนังสือที่ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร. ทำถึงรัฐบาลจีน เพื่อเร่งรัดการลงนามสัญญาเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ให้ทันวันที่ 30 ก.ย.2563 ก่อนที่ พล.ร.อ.ลือชัยจะเกษียณอายุราชการ ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการทำสัญญาแบบจีทูจีจริงหรือไม่ รวมถึงรายละเอียดการจัดซื้อเรือแอลพีดี หรือเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์  มูลค่า 6,200 ล้านบาท ที่ พล.ร.อ.ลือชัยขอให้รัฐบาลจีนช่วยติดอาวุธให้เรือดังกล่าว ทั้งที่เรือลำนี้เป็นเรือรบ แต่เหตุใดตอนไปซื้อกลับไม่มีอาวุธให้ สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในหนังสือดังกล่าวต่อที่ประชุมได้ เพราะถูก กมธ.ฝ่ายรัฐบาลขัดขวาง 
“ส่วนที่กองทัพเรือถอนวาระจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ออกไปนั้น ไม่ใช่การยกเลิกการจัดซื้อ เป็นแค่การเลื่อนการจัดซื้อออกไปเป็นปีหน้า แต่ฝ่ายค้านต้องการให้ยกเลิกการจัดซื้อไปเลย เพราะประเทศกำลังมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ประชาชนกำลังเดือดร้อน ไม่ใช่แค่การยกเลิกซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ แต่ฝ่ายค้านต้องการให้ยกเลิกงบกองทัพเรือที่ขอจัดซื้อโดรนป้องกันชายฝั่ง มูลค่า 4,500 ล้านบาท และโครงการสร้างระบบวิทยุสื่อสารเรือดำน้ำ 300 ล้านบาท ที่เป็นออปชันมากับเรือดำน้ำ และถูกเสนอขอมาในงบรายจ่ายปี 2565 ควรถูกตัดทิ้งไปทั้งหมดด้วย จะเสนอให้โหวตในที่ประชุม กมธ.ตัดงบทั้ง 2 ส่วนนี้ทิ้ง ไม่จำเป็นต้องไปพิจารณาในชั้นอนุ กมธ.อีก เพราะไม่มีความจำเป็นต้องจัดซื้อในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะหากรวมทั้งเรือดำน้ำและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยแล้ว จะมีมูลค่ารวมถึง 45,000 ล้านบาท ดังนั้นต้องตัดทิ้งทั้งหมด” นายยุทธพงศ์ระบุ   
ทั้งนี้ ในเวลา 13.45 น. ที่รัฐสภา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 แถลงว่า ปัจจุบันประชุมไปแล้ว 25 วัน รวม 220 ชั่วโมง พิจารณาไปแล้ว 17 กระทรวง 18 กองทุน คิดเป็น 75.6 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินงบประมาณ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. พิจารณาในส่วนกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุมกรรมาธิการฯ สอบถาม สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธาน ถึงการป้องกันครูและนักเรียนจากเชื้อโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ เพราะเป็นห่วงนักเรียน 7 ล้านคน ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน ได้รับคำตอบว่าจะประสานกระทรวงสาธารณสุขเพื่อจัดหาวัคซีนโควิดที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัย ที่สามารถฉีดให้เด็กปฐมวัยถึงเด็ก 18 ปี โดยหน่วยงานที่จะร่วมมือ มีกระทรวงสาธารณสุข มหาดไทย  กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ 
น.ส.ธีรรัตน์ระบุว่า การประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ 17 ก.ค. มีการพิจารณางบประมาณในส่วนจังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวม 94 หน่วยงาน 76 จังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด งบ 17,411,012,300 บาท พิจารณาในส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 301 หน่วยงาน จาก 303หน่วยงาน งบประมาณรวม 78,305,050,700 บาท ยังไม่ได้พิจารณาในส่วนของ กทม.และเมืองพัทยา โดยเฉพาะในส่วนจังหวัดภูเก็ต ที่ประชุมได้สอบถามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ว่ามีผลตอบรับอย่างไร เพราะถือว่าเป็นการนำร่องในการเปิดประเทศ 
น.ส.ธีรรัตน์ระบุว่า นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ชี้แจงว่าภูเก็ตมีรายได้ 90 เปอร์เซ็นต์จากการท่องเที่ยว เมื่อโควิดระบาด ทำให้รายได้ตรงนี้หายไป ทำให้ชาวภูเก็ตเดือดร้อนแสนสาหัส คนภูเก็ต จนฉับพลัน จึงยืนยันจะทำโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ให้เป็นรูปธรรม ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าว่าเศรษฐกิจจะต้องได้รับการฟื้นฟู ไปพร้อมกับการป้องกันการระบาดของโควิด
ด้าน พล.ร.อ.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการจัดหาเรือดำน้ำลำที่ 2 และลำที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ และเป็นหน้าที่ที่กองทัพเรือจะต้องเตรียมกำลังรบที่มีความจำเป็นสำหรับการปกป้องอธิปไตยทางทะเล การดำรงเส้นทางคมนาคมทางทะเลให้ได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลกว่า 22.89 ล้านล้านบาทนั้น   และต้องเตรียมการให้มีความพร้อมสูงสุดที่จะเผชิญภัยคุกคามในทุกรูปแบบ ซึ่งกองทัพเรือได้พิจารณาไตร่ตรองโดยถี่ถ้วนแล้ว เห็นว่ามีความจำเป็นต้องจัดหาเรือดำน้ำไว้ประจำการจำนวน 3 ลำ จะสามารถปฏิบัติการได้ครอบคลุมทั้ง 2 ฝั่งทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
    โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤติของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 กองทัพเรือได้ให้ความสำคัญในการระดมสรรพกำลังทุกรูปแบบเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทำให้กองทัพเรือได้พิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม ขอชะลอโครงการจัดหาเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ไปก่อน ซึ่งอาจส่งผลกระทบบางประการที่กองทัพเรือจะต้องไปดำเนินการเจรจากับรัฐบาลจีน เพื่อสร้างความเข้าใจถึงเหตุผลความจำเป็นของการชะลอโครงการดังกล่าวและไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"