รัฐบาลกระสุนตก "บิ๊กตู่" โดนถล่มรอบทิศ โพลขย่มไทยอยู่ในสถานการณ์วิกฤติมาก สะท้อนจากยอดติดเชื้อทะลุพุ่งรายวัน จ่อระบบสาธารณสุขล่ม เด็กเพื่อไทยถล่มซ้ำ ยุคประยุทธ์ ปชช.ตายเป็นใบไม้ร่วง ด้าน ปชป.สั่งเร่งคุมโควิดชุมชนแออัดทั่ว กทม.ด่วน ขณะที่กลุ่มแคร์ สมุนโทนี่อัดยับ ยุบ ศบค.เปิดค่ายทหารรับผู้ป่วย
เมื่อวันอาทิตย์ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “คนไทยในยุควิกฤติโควิด-19” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,702 คน สำรวจระหว่างวันที่ 5-15 กรกฎาคม 2564 พบว่า ประชาชนยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 49.35% โดยมองว่าสถานการณ์โควิด-19 ณ วันนี้วิกฤติมาก 60.93% เพราะยอดผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น 89.24% วิธีการที่จะทำให้ฝ่าวิกฤติไปได้คือ รัฐบาลต้องจริงใจ ไม่แสวงหากำไรจากประชาชน 78.47% และคิดว่าจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ต้องใช้เวลามากกว่า 2 ปี 36.74% โดยประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกัน 36.15%
ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง (ผู้กองเบิร์ด) ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี ศบค.ประกาศขยายพื้นที่ล็อกดาวน์เพิ่มเติม หนึ่งในนั้นรวมถึงจังหวัดชลบุรี ว่าเมื่อ ศบค.มีการปรับจังหวัดชลบุรีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเหมือนกับ 10 จังหวัดก่อนหน้านี้แล้วนั้น สิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการต่อไปคือ มาตรการการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวเช่นเดียวกับที่ประชาชนใน 10 จังหวัดก่อนหน้านี้ได้รับ และ ร.อ.จองชัยยังเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมราคา Rapid Antigen Test ภายหลังจากที่ได้มีการปลดล็อกไป อย่าปล่อยให้มีผู้ฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนในช่วงสถานการณ์วิกฤติแบบนี้ พร้อมสนับสนุนให้มีการดำเนินการ Home Isolation สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการหนัก ก่อนที่ระบบสาธารณสุขของประเทศจะล่ม
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นทุกวันในขณะนี้ว่า พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นหลักหมื่นกว่าคน และยอดผู้เสียชีวิตมากกว่าหลักร้อยคน โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนแออัดในกรุงเทพมหานคร จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ประธาน ศบค.เร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1.เมื่อมีผู้ติดเชื้อในชุมชนแออัดต้องรีบนำออกไปดูแลรักษาตามความหนักเบาของอาการ จะใช้วิธีแยกกักตัวที่บ้านไม่ได้ เพราะในชุมชนแออัดจะอยู่รวมกันอย่างแออัดในห้องเดียวกัน ไม่ได้มี 2-3 ห้องเหมือนบ้านคนมีฐานะทั่วไปที่จะทำให้ใช้วิธีแยกกักตัวได้ 2.รีบตรวจหาเชื้อสมาชิกในครอบครัวของผู้ติดเชื้ออย่างเร่งด่วน เพราะถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ถ้าติดเชื้อจะได้ดูแลรักษาต่อไป ถ้าไม่ติดเชื้อก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ควรให้กักตัวอยู่ในบ้าน 14 วัน 3.ภาครัฐควรจัดหาข้าวสาร อาหารแห้งมามอบให้ผู้กักตัวได้มีข้าวกิน เพราะถ้าไม่มีอะไรกิน ผู้กักตัวเหล่านี้ก็จะต้องออกไปดิ้นรนทำงานหาเลี้ยงชีพ เนื่องจากเป็นผู้หาเช้ากินค่ำ ทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อหรือรับเชื้อได้โดยง่าย
ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มถึง 11,397 คน สถิติอย่างนี้เรียกกันว่าตายเป็นใบไม้ร่วง และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นๆ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นรัฐบาลใด นายกรัฐมนตรีคนใด ถูกประชาชนก่นด่า สาปแช่งมากเท่ากับรัฐบาลนี้ โดยมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งผลให้สถานการณ์เฉพาะหน้าขณะนี้จำเป็นจะต้องเปลี่ยนม้ากลางศึกก็ต้องเปลี่ยน เพราะความเชื่อมั่นเป็นปัจจัยสำคัญสูงสุดที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้เป็นผลสำเร็จ บทสรุป ถ้าทหารไม่ไว้วางใจแม่ทัพเสียแล้ว สู้ไปก็มีแต่ตายกับตาย เปลี่ยนม้าเถอะ
วันเดียวกัน กลุ่มแคร์ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นแกนนำ ออกจดหมายเปิดผนึก เรื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อการบริหารจัดการสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทย และ Tony Woodsome ซึ่งเนื้อหาระบุใจความในมาตรการในประเด็นด้านบริหารจัดการ อาทิ ยกเลิกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แล้วให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้จัดการสถานการณ์หลัก และทำงานร่วมกับกระทรวงอื่น ภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีโดยตรง และปรับค่ายทหารโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและพื้นที่สีแดงเข้ม เป็นโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมเพื่อรองรับผู้ป่วยให้เพียงพอ
ขณะที่ในประเด็นด้านการจัดการวัคซีนยารักษานั้น ต้องเปิดสัญญาและชี้แจงข้อตกลงในสัญญาการจัดซื้อจัดหาวัคซีนทุกชนิดเพื่อความโปร่งใส, เปิดเจรจาระดับผู้นำประเทศเพื่อขอยืม แลกเปลี่ยนวัคซีนกับต่างประเทศที่มีวัคซีนสำรองจำนวนมากมาใช้ก่อนแล้วคืนในภายหลัง, ส่งเสริมการใช้สารสกัด Andrographolide จากสมุนไพรฟ้าทะลายโจรซึ่งมีผลการวิจัยรองรับอย่างเร่งด่วน
ด้าน พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี ทีมคณะแพทย์ที่ปรึกษา กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนฯ ส่งจดหมายเปิดผนึก ระบุใจความว่า เนื่องจากสภากาชาดไทย สถาบันจุฬาภรณ์ สามารถนำเข้าวัคซีนได้เอง แต่ทั้งนี้เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ รัฐจะต้องจัดสรรงบประมาณให้สถาบันจุฬาภรณ์ สภากาชาดไทย รวมถึงบริษัทเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนได้อย่างเสรี โดยรัฐเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายวัคซีน ยกเว้นค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลเอกชนซึ่งสามารถเก็บได้จากประชาชนที่พึงพอใจที่จะไปรับบริการของโรงพยาบาลเอกชนนั้นๆ
“ไม่ว่าองค์การเภสัชกรรมจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มค่าจัดเก็บวัคซีนหรือค่าอื่นๆ ก็ไม่สามารถเรียกเก็บได้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และ 55 ที่กำหนดให้รัฐจะต้องดำเนินการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพและไม่เก็บค่าใช้จ่าย
ดังนั้นหากรัฐไม่ดำเนินการยกเลิกประกาศกฎกระทรวงภายใน 7 วัน ทางกลุ่มไทยไม่ทนฯ จะไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ องค์การเภสัชกรรม ในข้อหาไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47, 55 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157” พ.ท.พญ.กมลพรรณกล่าว
ด้าน รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ระบุว่า อีกวิธีที่จะแก้ปัญหาการเลื่อนการฉีดวัคซีนคือ รัฐบาลใช้กฎหมายความมั่นคงทางวัคซีนเพื่อจำกัดจำนวนการส่งออก “แอสตร้าเซนเนก้า” เพื่อนำมาใช้ในประเทศก่อน เนื่องจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้ามีโรงงานผลิตอยู่ในดินแดนประเทศไทย และรัฐไทยมีอำนาจอธิปไตยสมบูรณ์ในการบังคับใช้กฎหมาย บริษัทต้องส่งมอบวัคซีนตามความต้องการของรัฐไทย เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตของคนไทย หากบริษัทเห็นว่าการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายวัคซีนสำคัญกว่าชีวิตคนไทย รัฐบาลสามารถใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงทางวัคซีนเพื่อกำหนดสัดส่วนการส่งออกได้เฉพาะที่เกิน 6 ล้านโดส เพื่อประเทศไทยจะได้มีวัคซีนใช้อย่างน้อย 6 ล้านโดสต่อเดือน
“แต่การตัดสินใจนี้จะอยู่ที่นายกรัฐมนตรีผู้เดียว เดิมเป็นอำนาจของรัฐมนตรีสาธารณสุข เนื่องจากมีการออกพระราชกฤษฎีกาโอนอำนาจให้นายกรัฐมนตรี และหวังว่านายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจนี้ในการดูแลประชาชนชาวไทย และต้องดำเนินการระงับการส่งออกเกินสัดส่วนเพื่อให้วัคซีนเพียงพอใช้ภายในประเทศภายในสัปดาห์นี้ก่อนที่จะช้าเกินไป และระบบสาธารณสุขและระบบเศรษฐกิจต้องล่มสลายลง” รศ.ดร.อนุสรณ์ระบุ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |