ตำรวจกองปราบปรามร่วมชุดสืบสวนเมืองภูเก็ต บุกเข้าจับกุมนักพนันที่ลักลอบเล่นพนันในโรงแรมหรู รวบนักพนันชาย-หญิง 27 คน ทั้งนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นระดับ ส.ท.รวมอยู่ด้วย พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.ฉลองเข้าจับ 9 สถานบริการในพื้นที่ หลังฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดภูเก็ตเปิดให้บริการ
    เมื่อวันที่ 18 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. นำโดย พ.ต.ต.พิทยา ธนาวุฒิ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.อกนิษฐ ด่านพิทักษ์ศาสน์, พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ นำโดย พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต, พ.ต.ต.ทัพไทย ลีลานนท์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เข้าตรวจสอบภายในโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาและติดริมทะเล ต.รัษฎา อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต  หลังจากมีรายงานว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน เมื่อไปถึงพบว่าโรงแรมดังกล่าวตั้งอยู่บนเนินเขาและติดถนนสายรอบเกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและเข้าตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ เป็นวิลล่าตั้งอยู่ติดริมทะเล
    พบนักพนันทั้งชายและหญิงจำนวนหลายคนกำลังนั่งเล่นการพนันบาคาร่าอย่างเมามัน โดยนั่งอยู่ใกล้ชิดกัน และไม่สวมหน้ากากอนามัย อีกทั้งไม่สนใจว่าอยู่ในสถานการณ์โควิด-19 เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างตกใจ แต่ไม่สามารถหลบหนีไปได้ สามารถรวบนักพนันได้รวม 27 คน มีรายงานว่ามีนักการเมืองท้องถิ่นรวมอยู่ด้วย 1 คน โดยภายในห้องมีโต๊ะเล่นการพนันโต๊ะใหญ่ 1 โต๊ะ และโต๊ะเล็กอีก 2 โต๊ะ
    พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเข้าจับกุมในครั้งนี้ เมื่อประมาณปลายเดือนมิถุนายน 2564 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบเล่นการพนันในโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา และมีบางส่วนติดทะเล ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต ซึ่งในช่วงดังกล่าวโรงแรมยังไม่เปิดให้บริการ จึงได้ทำบันทึกให้รอง ผกก.สืบสวนลงตรวจสอบ พบว่ายังปิดให้บริการและมีการซ่อมแซม ไม่พบการเล่นพนันตามรับแจ้ง จึงได้ทำบันทึกลับรายงานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตทราบ 
    จากนั้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้รับแจ้งอีกครั้ง จึงร่วมกับตำรวจกองปราบปรามเข้าไปตรวจสอบ และพบว่ามีการลักลอบเล่นการพนันจริง สามารถจับกุมนักพนันได้ 27 คน ในจำนวนดังกล่าวพบว่าเป็นนักการเมืองท้องถิ่นด้วย 1 คน พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ โต๊ะที่ใช้เล่นการพนัน 3 โต๊ะ, ชิปแลกเงิน, เครื่องคอมพิวเตอร์
    เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมลักลอบเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต” และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ (โควิด-19) อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548” ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    และเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมือง และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. เทศบาลตำบลราไวย์ นำโดย พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.ฉลอง, พ.ต.ท.กรกฤช ขันธ์เครือ รอง ผกก.ป.สภ.ฉลอง, พ.ต.ท.วรเดช ชูเกื้อ สวป.สภ.ฉลอง, นางช้องมาศ สกุลประดิษฐ์ ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต, นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์, เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลราไวย์, กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลราไวย์, กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันปล่อยแถวออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดภูเก็ตโดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หลังมีการร้องเรียนว่ามีสถานประกอบการในพื้นที่ราไวย์ อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต จำนวนหลายร้านฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดภูเก็ตเปิดให้บริการ และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค
    โดยการปฏิบัติงานในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แบ่งชุดการทำงานออกเป็น 3 ชุด ลงปฏิบัติงานตรวจสอบสถานประกอบการต่างๆ ครอบคลุมทั้งพื้นที่ จากการเข้าตรวจสอบพบว่ามีสถานประกอบการจำนวนมากยังเปิดให้บริการ และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทยเข้าใช้บริการจำนวนมาก บางร้านปล่อยให้คนเข้าไปใช้บริการหนาแน่น โดยไม่มีการเว้นระยะ บางร้านเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
    สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีการดำเนินคดีต่อสถานประกอบการจำนวน 9 ราย โดยเจ้าหน้าที่แจ้ง "ประกอบกิจการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 3373/2564 โดยไม่มีเว้นระยะห่างตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยและจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามที่กฎหมายกำหนด" หลังจากนั้นนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย.