ฮื่ออ์อ์อ์...ทะลุหลักหมื่นขึ้นไปจนได้ สำหรับจำนวน ผู้ติดเชื้อ แต่ละวันของบ้านเรา วิ่งไล่กวด ไล่ตาม เสือเหลือง-มาเลย์ ไปติดๆ แม้ยังคงทิ้งระยะห่างจาก จอมพลิกล็อก-อินโดนีเซีย อยู่อีกเยอะ แต่ก็นั่นแหละ...ระหว่างนี้ หรือนับจากนี้ ไม่ว่าบ้านเรา-บ้านเขา ก็คงแทบไม่ต่างไปจากกันและกัน หรือระดับแทบจะทั่วทั้งโลกนั่นแหละทั่น ที่ต้องเจอกับความน่าขนลุก ขนพอง ของท่านเชื้อไวรัสโควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์ เดลตา ที่มาแรง แซงโค้ง ยิ่งขึ้นไปอีก...
--------------------------------------------
และที่ทำให้อดไม่ได้ที่ต้องเศร้า ต้องห่อเหี่ยว ยิ่งไปกว่านั้น...ก็เพราะการแพร่ระบาดคราวนี้ ถึงกับฉุดกระชากลากถู ผู้ที่จัดอยู่ในประเภท ดี-เด่น-ดัง อย่างคุณ ณรงค์ โชควัฒนา รวมทั้งผู้ที่เคยมีโอกาสรู้จัก มักคุ้น ในแวดวงเขียนหนังสือ แปลหนังสือ อย่าง อำนวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพงศ์ ตามไปด้วยอีก 2 รายซ้อนๆ แม้ว่ารายของคุณ ณรงค์ จะไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่โดยชื่อ-เสียง คุณงามความดี ตลอดไปจนความเก่ง ความชาญฉลาดและกล้าหาญ ที่ท่านเคยแสดงออกให้ใครต่อใครได้ซึมซับ รับทราบ ก็เลยออกจะเป็นอะไรที่ น่าเสียดาย เอามากๆ สำหรับการจากไปเพราะเชื้อโควิดในคราวนี้...
----------------------------------------------
ส่วน อำนวยชัย นั้น...ด้วยความเป็น เพื่อนซี้ ที่ไม่ว่าจะย่ำปึ้ก หรือซี้ๆ ซั้วๆ ก็แล้วแต่ แต่ก็ทำให้อดหวิวๆ โหวงๆ เหวงๆ ขึ้นมาไม่ได้ นอกจากเคยร่วมงาน เคยเขียน เคยแปล อยู่ในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน ยังเคยแลกเปลี่ยนความคิด ทฤษฎี ไปจนถึงความเป็นมนุษย์ ชนิดไม่ว่าห่างหาย ห่างหน้า ห่างตา กันนานขนาดไหน หรือซักเท่าไหร่ ก็ยังอดรู้สึกไม่ได้ถึงความใกล้ชิด ติดพัน รู้สึกถึงความเป็นเพื่อน ความเป็นนักคิด ทฤษฎี ที่แทบไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าจู่ๆ...ดันมีอันต้องโดนท่านเชื้อโควิด ลากไปรับประทานเอาดื้อๆ!!!
---------------------------------------------
การหวนกลับมาแพร่ระบาดระลอกใหม่ ของท่านเชื้อไวรัสโควิดในคราวนี้...จึงเป็นอะไรที่น่าเจ็บปวด รวดร้าว ทรมาน มิใช่น้อย คือไม่เพียงแต่มาเร็ว มาแรง ติดเร็ว ติดแรง ยังแสดงออกถึงอานุภาพ ศักยภาพ จากการปรับเนื้อ ปรับตัว ปรับสภาพ หรือการ กลายพันธุ์ ชนิดเล่นเอาบรรดาเครื่องมือ เครื่องไม้ เครื่องคุ้มครอง ป้องกัน ในแต่ละรูปแบบ หรือบรรดา วัคซีน ในแต่ละตัว ก็แทบ เอาไม่อยู่ กันไปเป็นรายๆ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนเทพ อย่าง ไฟเซอร์-โมเดอร์นา วัคซีนธรรมดาๆ อย่าง แอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีนเซินเจิ้น อย่าง ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม-สปุตนิก วี ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรทั้งหลาย ต่างก็ต้องลดอานุภาพ ลดศักยภาพ เมื่อต้องเจอกับ สายพันธุ์เดลตา ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
----------------------------------------------
และก็แน่ล่ะว่า...บรรดาผู้ที่มีอำนาจ หน้าที่และความรับผิดชอบ ในการคุ้มครอง ป้องกัน การควบคุมอะไรต่อมิอะไรต่างๆ ในสังคมแต่ละสังคม มีแต่ต้อง บวดหัว ชนิด ยาบวดหาย ใดๆ ก็แทบเอาไม่อยู่ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าประเทศรวย-ประเทศจน ประเทศซีกโลกเหนือ-โลกใต้ ประเทศพัฒนาแล้ว-หรือกำลังพัฒนา ฯลฯ ต่างหนีไม่พ้นต้องเผชิญหน้ากับทางแยก ทางสองแพร่ง สามแพร่ง ไปด้วยกันทั้งนั้น ต้องหาทางชั่งน้ำหนักระหว่างความกลัว อดตาย กับความกลัว ป่วยตาย ว่าจะให้น้ำหนักไปในทางไหนถึงจะเหมาะสม สอดคล้อง ถึงจะเข้าท่า-ไม่เข้าท่า ชนิดต่างต้องออกอาการหันรี-หันขวาง ในลักษณะไม่ต่างอะไรไปจาก สุนัขบนทางด่วน เอาเลยก็ว่าได้...
----------------------------------------------
แม้แต่ประเทศรวยๆ...ที่สามารถเก็บกัก วัคซีน เอาไว้ฉีด เอาไว้อาบ ชนิดจำนวน โดส อาจมากกว่าจำนวนประชากรของตัวเองไปไม่รู้กี่เท่าตัว สามารถไล่จิ้ม ไล่ทิ่ม ไล่ฉีดวัคซีนให้ผู้คนพลเมืองไปแล้วระดับ 20-30-40-50 เปอร์เซ็นต์ หรือแม้แต่ 80 เปอร์เซ็นต์อย่างอังกฤษและอิสราเอล ฯลฯ ก็แล้วแต่ แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้จำนวน ผู้ติดเชื้อ มันพอลดลงๆ แต่อย่างใดไม่ เผลอๆ...อาจพุ่งพรวดๆ พราดๆ ระดับ แจ็กพอตแตก ไปเป็นประเทศๆ เพียงแต่อาจพอลดจำนวน ผู้ตาย ไม่ให้ถึงกับต้องเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ไปก่อนกำหนดการเท่านั้นเอง ดังนั้น...ไม่ว่าใครที่ออกมาป่าวประกาศว่า เราชนะแล้ว...แม่จ๋า ในระหว่าง ศึกโควิด คราวนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ถือเป็นดรามา ไอโอ เป็นแค่ จิตวิทยา ไปด้วยกันทั้งนั้น...
----------------------------------------------
และนั่นเอง...ที่จะส่งผลให้ ผลกระทบที่ตามมา อาจหนักหนา-สาหัสยิ่งขึ้นไปใหญ่ โดยเฉพาะผลกระทบอันจะเป็นตัวก่อให้เกิดการอดตาย-ไม่อดตาย หรือผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ ทั้งหลายนั่นเอง ที่แม้แต่ประเทศที่สามารถเอาชนะเชื้อไวรัสโควิด ได้อย่างจริงๆ จังๆ และยั่งยืน ถาวร พอสมควร อย่างประเทศจีน ที่อาศัยความเป็นคอมมิวนิสต์ ความเป็นเผด็จการแบบสุดๆ ผ่านจุดการติดเชื้อ แพร่เชื้อ มาได้อย่างสวยสดงดงาม แต่นั่นก็ใช่ว่าจะทำให้ประเทศจีนมีกิน-มีใช้ เหลือกิน-เหลือใช้ ได้แบบเก่าๆ เดิมๆ ก็หาไม่ ด้วยเหตุเพราะไม่รู้ว่าจะไปหาทาง เซ็งลี้ กับใครต่อใคร ที่ล้วนแต่กำลังอ่วมอรทัยเพราะท่านเชื้อโควิดไปด้วยกันทั้งสิ้น ตัวเลขเศรษฐกิจจีนไตรมาส 2 จึงลดลงไปแบบฮวบๆ ฮาบๆ คือจากที่เคยโตสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ เกือบยี่สิบเปอร์เซ็นต์เอาเลยถึงขั้นนั้น ในไตรมาสแรกกลับลดเหลือแค่ 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง...
----------------------------------------------
หรือเกิดอาการ เศรษฐกิจชะลอตัว อย่างเห็นได้โดยชัดเจน ขณะเศรษฐกิจอเมริกาก็ต้องเจอกับ ภาวะเงินเฟ้อ แม้ไม่คิดจะสวมหน้ากาก ไม่คิดเว้นระยะห่างอีกต่อไป ถึงจำนวนผู้ติดเชื้อจะหวนกลับมาเป็นหมื่นๆ คนแสนๆ คนก็ตาม ไม่ต่างไปจากเศรษฐกิจยุโรป ที่อีกไม่กี่วันข้างหน้า หรือไม่เกินต้นเดือนสิงหา โอกาสที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มเป็น 5 เท่า 6 เท่า เพราะการไม่คิดจะสวมหน้ากาก ย่อมทำให้ความกลัวป่วยตายกลายเป็นตัวชักเย่อกับความกลัวอดตาย ไปโดยตลอดนั่นแหละ ด้วยเหตุนี้...สำหรับประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา โอกาสที่จะหาทางออก ทางไป หรือ ทางรอด ต้องเรียกว่า...ออกจะเป็นอะไรที่ “ยากซ์ซ์ซ์ซ์ซ์ซ์ซ์ เอามากๆ เหลือเพียงแค่ต้องรอชั่งน้ำหนัก ความเปลี่ยนแปลง ว่าจะออกไปในแนวไหน แบบไหน ดีขึ้นหรือเลวลง...เท่านั้นเอง!!!
------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Alvin Toffler (อีกครั้ง)... “Change is not merely necessary to life. It is life. - ความเปลี่ยนแปลง มิใช่แค่สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต แต่มันคือ...ชีวิต...เลยทีเดียว!!!”
------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |