สมศักดิ์ศรี'แพทย์ชนบท' 3 วัน ตะลุยตรวจ2หมื่นคน เจอโควิดหวิด2พัน


เพิ่มเพื่อน    

18 ก.ค.64 -  ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก  ระบุ  สรุปผลปฏิบัติการ “แพทย์ชนบทบุกกรุง”  โควิดลามลึก ผู้คนทุกข์หนัก
ปฏิบัติการ “แพทย์ชนบทบุกกรุง” ในครั้งนี้ ใช้เวลา 3 วัน 14-16 กรกฎาคม 2564 ในการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี Rapid Ag Test ให้กับ 39 ชุมชนแออัดในกรุงเทพมหานคร โดยมีทีมแพทย์ชนบท 6 ทีมกว่า 60 ชีวิตมาร่วมปฏิบัติการ เป็นการบุกกรุงที่มีการเตรียมตัวสั้น เราได้รับการสนับสนุนการเข้าพื้นที่จากกลุ่มภาคประชาชนในกรุงเทพในนามทีมโควิดชุมชน  โดยตั้งเป้าหมายการตรวจโควิดให้ประชาชนในกรุงเทพ 20,000-30,000 คน และเมื่อมีผลบวกก็จะได้รับการแนะนำให้กักตัวที่บ้าน หรือส่งต่อเข้าสู่ศูนย์กักชุมชนหรือโรงพยาบาลสนามก็ขึ้นกับกรณีกรณีไป

ผลปฏิบัติการครั้งนี้ ทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายนิดหน่อย พบว่า สามารถตรวจหาเชื้อโควิดด้วย rapid test 19,871 คน  พบผู้ติดเชื้อโควิดถึง 1,777 คน หรือ 8.94% ทั้งนี้การตรวจหาเชื้อในปฏิบัติการครั้งนี้  เป็นการตรวจทุกคนที่ชุมชนแจกคิวให้ ไม่มีการเลือกกลุ่มเสี่ยงสูงหรือตัดกลุ่มไหนออก ดังนั้น ตัวเลขที่พบนี้ จึงพอที่จะเป็นตัวแทนของความชุกของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดในชุมชนได้พอสมควร ซึ่งหมายความว่า การแพร่ระบาดในกรุงเทพนั้นหนักมาก พบผู้ติดเชื้อโควิดถึง 9% โดยเฉพาะในพื้นทีชุมชนที่มีความแออัด หรือในทุกๆ 11 คน มีผู้ติดเชื้อโควิด 1 คน  

ใน 39 ชุมชนที่ได้รับการตรวจโควิด  สถิติที่น่าสนใจเช่น  ชุมชนที่พบอัตราการติดเชื้อสูงสุดคือ ชุมชนโรงหมูคลองเตย ได้รับการตรวจ 990 คน พบผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 24%
จุดตรวจที่พบอัตราการพบเชื้อมากกว่า 10% ได้แก่  ชุมชนในพื้นที่ป้อมปราบพบ 14.3 ชุมชนวัดสิงห์จอมทอง 14% ฝั่งธนแถวบางแวก บางค้อ วัดดาวคะนองพบ 13% ชุมชนในบางซื่อพบ 12.2%  ชุมชนอ้ามาน่าตุ้ลอิสลามประเวศ 11.7%  ชุมชนวัดบัวผัน 11.5%  ชุมชน สน.ดินแดง 11.3%  ชุมชนเย็นอากาศ2ยานนาวา 11%  ชุมชนพัฒนาบึงขวางมีนบุรี 11% ชุมชนวัดพรหมสุวรรณบางแค 10.2% เป็นต้น 

ทั้งนี้รายละเอียดจากพื้นที่อื่นๆ ทั้งหมด ดูได้จากตาราง   โควิดลามลึก ผู้คนเมืองกรุงทุกข์หนักจริงๆ

ด้วยสถิติที่ปรากฏ การระบาดในกรุงเทพนั้นหนักมาก และเป็นการระบาดในชุมชน ระบาดในครัวเรือน การล็อกดาวน์ใหญ่เช่นการห้ามเดินทางระหว่างจังหวัด จะช่วยให้โรคไม่แพร่กระจายไปข้ามจังหวัด แต่จะไม่ลดการระบาดในกรุงเทพเอง เพราะผู้คนยังไปมาหากัน หากจะล็อกดาวน์กันจริงๆ ต้องล็อกระดับครัวเรือน ต้องทำเหมือนอู่ฮั่น นั่นคือ การกำหนดทุกคนใน กทม.อยู่แต่ที่บ้าน ให้แต่ละครอบครัวออกจากบ้านมาซื้ออาหารได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ยกเว้นเจ็บป่วย จึงจะเป็นการล็อกดาวน์ที่หยุดการระบาดได้จริง  แต่ผลกระทบก็จะมหาศาล เศรษฐกิจหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง ผู้คนนับล้านที่เงินเก็บหมดแล้วอาจต้องอดมื้อกินมื้อ 

มิเช่นนั้น ก็ต้องระดมฉีดวัคซีนให้มากที่สุดเพื่อลดการป่วยการตาย แต่เรายังฉีดได้น้อยเกินไป เพราะคาดการผิดจนทำให้จองวัคซีนช้าและมีจำนวนน้อย  การหยุดการระบาดด้วยวัคซีนจึงจะยังต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือน ซึ่งไม่ทันการแล้ว

ปฏิบัติการบุกกรุงรอบ 2 อาจจะมีหรือไม่มี ต้องขอเวลาอีกนิด  เราทราบว่าพี่น้องคนเดินดินในกรุงเทพยังทุกข์หนัก และรอคอยความหวังในการได้ตรวจหาเชื้อโควิด เพื่อการดูแลตนเองได้มากขึ้น  วันนี้แพทย์ชนบทกำลังจะจัดทัพอีกครั้ง หากจัดได้สำเร็จ เราจะได้พบกันอีกที่กรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน  

เพราะโควิดลามลึก  ผู้คนทุกข์หนัก เราจึงต้องจัดทัพรอบสองให้สำเร็จสินะ...ใช่ไหม?


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"