เริ่มแล้วฉีดวัคซีนโควิดสลับชนิด ปลัด สธ.ลงนามประกาศด่วน ถึงศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ฉีดวัคซีน Sinovac เข็มที่ 1 AstraZeneca เป็นเข็มที่ 2 ให้ประชาชนทั่วไป เมืองนนท์คึกคักเริ่มสูตรใหม่ทันที
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในประกาศ ด่วนที่สุด ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ระบุถึงหลักเกณฑ์การฉีดวัคซีนสลับชนิดกันสำหรับประชาชน และการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยมีรายละเอียดดังนี้
"ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด พบการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์กลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เดลตา เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก มีการศึกษาโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศไทย (ไบโอเทค) พบว่าการฉีดวัคซีน Sinovac เป็นเข็มที่ 1 และฉีควัคซีน AstraZeneca เป็นเข็มที่ 2 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูงได้เร็วมากขึ้น โดยสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีใกล้เคียงกับ AstraZeneca 2 เข็ม ซึ่งคาดว่าจะมีผลดีต่อการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตา และไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรงภายหลังได้รับวัคชีน
จากกรณีดังกล่าว การประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2564 และการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด (ปค.ส5) ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 15 ก.ค. มีมติเห็นชอบการฉีดวัดซีนโควิดสลับชนิด โดยฉีดวัคซีน Sinovac เป็นเข็มที่ 1 และตามด้วยวัดซีน AstraZeneca เป็นเข็มที่ 2 และการฉีดวัคซีนโควิดกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า แล้วนั้น
กระทรวงสาธารณสุข จึงขอแจ้งแนวทางการฉีดวัคซีนโควิดสลับชนิดสำหรับประชาชน และการฉีดวัคซีนโควิดเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ดังนี้
1.การฉีดวัคซีนโควิดสลับชนิดสำหรับประชาชน
1.1) ให้ฉีดวัคซีนโควิด เข็มที่ 1 ด้วยวัคซีนโคโรนาแวค (Coronavac) ของบริษัท Sinovac Biotech จำกัด และเข็มที่ 2 เป็นวัคชีน AstraZeneca ของบริษัท AstraZeneca จำกัด โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม 3-5 สัปดาห์ หากเกินกว่าระยะห่างที่กำหนด ขอให้ฉีดวัคซีนโดยเร็วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา โดยจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูงใกล้เคียงกับผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca 2 เข็ม แต่ใช้ระยะเวลาสั้นกว่า เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคโควิดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ของโรค ในระยะที่มีวัคซีนจำนวนจำกัด
1.2) ในกรณีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เป็น AstaZeneca กำหนดให้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นวัคซีน AstraZeneca เช่นเดิม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม 12 สัปดาห์
2.การฉีดวัคซีนโควิดกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า
2.1) กำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด เช่น บุคลากรที่ปฏิบัติงานแผนกผู้ป่วยโควิด แผนกผู้ป่วยนอก คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉินแผนกผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใน Hospitel ที่ได้รับวัคซีนโคโรนาแวค (Coronavac) ของบริษัท Sinovac Biotech จำกัด ครบ 2 เข็มแล้ว จะได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยการรับวัคซีน AstraZeneca หรือวัคซีนชนิด messenger Ribonucleic Acid (mRNA) จำนวน 1 เข็ม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็มที่ 2 และเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 4 สัปดาห์
หากเกินกว่าระยะห่างที่กำหนด ขอให้ฉีดวัคซีนโดยเร็วเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็มนั้น เนื่องจากภูมิคุ้มกันยังอยู่ในระดับที่สูงเพียงพอ จึงยังไม่ต้องฉีดเข็มกระตุ้นในระยะนี้ ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นๆ จะได้รับการจัดสรรวัคซีนเข็มกระตุ้นในระยะถัดไป
2.2) ขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำรวจรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด พร้อมทั้งเสนอรายชื่อดังกล่าวต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อพิจารณาตรวจสอบ ยืนยันสถานะของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขแต่ละคน และส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข (MOPH IC White Ist) เพื่อฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ได้รับวัคซีนโคโรนาแวค (Coronavac) ของบริษัท Sinovac Biotech จำกัด ครบ 2 เข็มแล้ว และมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโควิดจากการปฏิบัติงานประจำในการดูแลผู้ป่วย เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบบบริการสาธารณสุขของประเทศไทย
อนึ่ง หากมีข้อสอบถามเพิ่มเติมสามารถติตต่อได้ที่ นางปียดา อังศุวัชรากร ตำแหน่งแพทย์ปฏิบัติการ และ น.ส.นพรัตน์ วิหารทอง ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ โทร.02-590-3196 ในประเด็นแนวทางการให้วัคซีนโควิด นายชัตติย อุตม์อ่าง ตำแหน่งเภสัชกรชำนาญการ และ น.ส.ปิยะนาถ เชื้อนาค ตำแหน่งเภสัชกรปฏิบัติการ โทร.02-590-3222 ในประเด็นการบริหารจัดการวัคชีนโควิด"
ที่ห้างเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน อ.เมืองนนทบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนที่ลงทะเบียนและนัดหมายผ่าน "นนท์พร้อม" จำนวน 9,000 คน โดยแบ่งเป็นรอบเช้าเข็ม 2 จำนวน 4,000 คน และรอบบ่ายเข็มแรก จำนวน 5,000 คน โดย นพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ได้มาคอยดูแลความเรียบร้อย
เขากล่าวว่า วันนี้เป็นการฉีดตามสูตรใหม่ SV+AZ วันแรกจะมีคนจะได้ฉีด AZ เป็นเข็ม 2 เกือบ 4,000 คน มีการนัดหมายเป็นรอบๆ ช่วงบ่ายเริ่มบ่ายโมงนัดเข็ม 1 เป็น SV อีกประมาณ 5,000 คน ประชาชนมาก่อนนัดตั้งแต่เช้า
ถ้าดูตามกระแสในโซเชียลการปรับสูตรก็มีคนไม่ต้องการเยอะ เพราะไม่อยากรับสูตรนี้หรือยังไม่มั่นใจ แต่เมื่อมาดูวันนี้ก็ทำให้เห็นว่าคนต้องการสูตรใหม่ที่ต้านทานเชื้อ delta ได้ดี ก็คือซิโนแวคเข็มหนึ่งและแอสตร้าเซนเนก้าเข็มสอง และอีก 3-4 สัปดาห์ก็จะฉีดแอสตร้าเซนเนก้าให้เป็นเข็มที่ 2 ส่วนคนที่มารอจนแน่นลานจอดรถนั้น คนไม่มาตามเวลานัดหมายอาจจะมีการปรับแผนบ้าง
ทั้งนี้ คนที่ได้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเข็ม 1 เข็ม 2 ก็จะฉีดแอสตร้าเซนเนก้า ส่วนคนที่ได้เข็มที่ 1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 จะเป็นแอสตร้าเซนเนก้าแน่นอน ยกเว้นคนที่ไม่ต้องฉีดหรือมีประเด็นเกี่ยวกับโรคประจำตัวที่มีข้อห้าม ซึ่งการปรับสูตรก็เป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญยืนยันในการต่อสู้กับเชื้อ delta ซึ่งสามารถป้องกันได้ดีพอๆ กับฉีดแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |