9 มิ.ย.61 - ที่สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา บ้านหนองปลิง ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์วิธีการกำจัดยุงลายที่ได้ทำการดักยุงลายบ้านเพื่อสาธิต พร้อมกับเปิดเผยถึงการระบาดของโรคไข้เลือดออกในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายบ้าน ว่า ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในเขตสุขภาพที่ 9 นครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา , จ.ชัยภูมิ , จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 1มกราคม-6 มิถุนายน 2561 พบมีผู้ป่วย จำนวน 699 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต โดยเป็นที่น่าตกใจผู้ป่วยมากตั้งแต่ 100 – เกือบ 400 ราย โดยจังหวัดนครราชสีมา พบผู้ป่วยมากที่สุด จำนวน 327 ราย รองลงมา จ.สุรินทร์ พบผู้ป่วย 171 ราย , จ.ชัยภูมิ พบผู้ป่วย 101 ราย และจ.บุรีรัมย์ พบผู้ป่วย 100 ราย ซึ่งผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมาอีกเท่าตัว กลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุดคือกลุ่มนักเรียน อายุระหว่าง 10-14 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 5-9 ปี
ทั้งนี้ปัญหาสำคัญคือขณะนี้ประชาชนมีความเข้าใจผิดหลายประการ เช่น หลายคนคิดว่าผู้ใหญ่ไม่สามารถป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้ และบางคนคิดเองว่า ถ้าป่วยเป็นไข้เลือดออกก็สามารถซื้อยาแผนปัจจุบันกินเองได้ ซึ่งไม่ถูกต้องยิ่งไปกว่านั้น เกือบร้อยละ 70 คิดว่าการกำจัด "ยุงลาย" ในบ้าน ในชุมชน ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการแต่เพียงอย่างเดียว ขณะที่ในปีนี้แนวโน้มการระบาดมีพื้นที่เสี่ยงอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน โดยรูปแบบของการระบาดจะเปลี่ยนไป มีการเสียชีวิตในผู้ใหญ่มากขึ้น เนื่องจากมีโรคประจำตัวด้วย เช่น ภาวะอ้วน เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด เป็นต้น สำหรับผู้มีอาการไข้สูง 2 วันไม่ดีขึ้น ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนัง ตามแขนขน ข้อพับ เป็นต้น ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว ให้สังเกตตัวเอง ลูกหลาน และคนใกล้ชิด หากพบอาการดังกล่าวขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว
นพ.สมชาย กล่าวว่า สำหรับโรคไข้เลือดออกยังไม่มีวัคซีนและยังไม่มียารักษาเฉพาะ การกำจัดยุงลายเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เพื่อลดจำนวนยุงลายให้มากที่สุด ตามมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้โล่ง อากาศปลอดโปร่งไม่ให้ยุงเกาะพัก 2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้มีที่เพาะพันธุ์ยุง 3.เก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะให้มิดชิด หรือเปลี่ยนถ่ายน้ำไม่ให้ยุงลายวางไข่ ทำต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน ศาสนสถาน สถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก โรงพยาบาล รวมทั้งกำจัดยุงลายตัวเต็มวัยภายในบ้าน ร่วมกับการป้องกันไม่ให้ยุงกัด ใช้ยาทากันยุง นอนกางมุ้ง จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้ เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |