17 ก.ค.64 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ซึ่งเพิ่งตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด19 ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ดังนี้
กึ่งรัฐประหาร
การยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าสถานการณ์แพร่ระบาดและผลกระทบด้านต่างๆจะดีขึ้น เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่สั่งปิดสั่งห้ามอะไรเพิ่ม แต่อยู่ที่ต้องมีวัคซีนเพิ่มและต้องเป็นวัคซีน mRNA ที่ตอบโจทย์ได้
วิธีการเพิ่มอำนาจให้ตัวเองผลักภาระให้ประชาชนที่ทำอยู่ นอกจากไม่แก้ปัญหาแล้วยังดูมีเป้าหมายแฝงทางการเมือง คือสกัดการชุมนุมหรือแสดงสัญลักษณ์ไม่ยอมรับรัฐบาลซึ่งขยายตัวไปในแวดวงต่างๆอย่างรวดเร็ว
การห้ามชุมนุม เรียกสื่อมวลชนไปกำหนดแนวทางเสนอข่าว และอื่นๆที่จะตามมาทำให้ประเทศเข้าสู่สถานการณ์กึ่งรัฐประหาร ซึ่งจะมีผลเพียงแค่กดดันประชาชน เพราะพิสูจน์ชัดแล้วว่าอำนาจรัฐเต็มมือพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีประโยชน์ต่อการจัดหาและจัดการวัคซีนเลย แม้แต่แอสตร้าเซนเนกาที่ส่งมอบไม่ได้ตามเป้าก็ไม่มีปัญญาทำอะไรเขาได้
คิดเรื่องรักษาอำนาจแต่ไม่มีเตียงรักษาคนป่วย ไม่สำนึกเลยว่าการชุมนุมที่มีแรงปะทะต่อรัฐบาลที่สุดไม่ใช่เวทีปราศรัย แต่คือการชุมนุมของคนรอตรวจรอเตียงและศพรอเผาที่เป็นข่าวอยู่ทุกวัน ยิ่งนานยิ่งมีแต่ภาพเหล่านี้บีบหัวใจประชาชน ล็อคดาวน์ตลอดชาติก็แก้ไม่ได้ถ้าวัคซีนที่ใช้ไล่ไม่ทันเชื้อโรค
มาตรการทั้งหลายไม่พูดถึงวัคซีน 100 ล้านโดสในปีนี้หรือเปิดประเทศใน 120 วันที่ประกาศไว้เลย อ้างแต่ 100 - 200 กรณีที่มีคนฝ่าฝืนล็อคดาวน์ซึ่งจะยกระดับขนาดไหนการฝ่าฝืนก็จะยังมี แต่คนได้รับผลกระทบจริงๆคือคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในกติกา สภาพวันนี้เหมือนชาวบ้านจะตายก็ตายไปแต่ประยุทธ์ต้องอยู่
รัฐบาลเผชิญทั้งวิกฤตโควิดและวิกฤตศรัทธา พรรคร่วมรัฐบาลที่น่าจะเป็นทางคลี่คลายสถานการณ์ก็เลือกอยู่กับอำนาจ ประชาชนเป็นโรคติดต่อแต่พรรคร่วมเป็นโรคติดตู่ เชื้อโรคกลายพันธุ์พัฒนาไปเรื่อย แต่การแก้ปัญหาของรัฐบาลไม่มีพัฒนาการที่เป็นความหวังของประชาชนเลย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |