รัฐบาลมาเลเซียประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า เตรียมจะอนุญาตให้เอกชนซื้อขายวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัท ซิโนฟาร์ม และซิโนแวค จากจีนได้ในเร็ววันนี้ หวังกระตุ้นอัตราการฉีดวัคซีนของประเทศรับมือกับจำนวนการติดเชื้อรายวันทะลุหลักหมื่น

    รายงานรอยเตอร์กล่าวว่า คำประกาศของไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ของมาเลเซียเมื่อวันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม มีออกมาหลังจากทางการมาเลเซียเพิ่งอนุมัติการใช้งานฉุกเฉินวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท ซิโนฟาร์ม และจอห์นสันแอนด์จอห์นสันจากสหรัฐ

    รัฐมนตรีผู้นี้กล่าวว่า รัฐบาลจะเปิดให้เอกชนจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มได้ในโดยเร็ว ส่วนวัคซีนของซิโนแวคนั้นจะอนุญาตให้จำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ภายหลังซิโนแวคส่งมอบวัคซีนตามคำสั่งซื้อของรัฐบาลที่มีประมาณ 15 ล้านโดสเสร็จสิ้นแล้ว

    วันก่อนหน้านี้ รัฐบาลมาเลเซียเพิ่งกล่าวว่า โครงการฉีดวัคซีนของประเทศจะหยุดฉีดวัคซีนซิโนแวคหลังจากวัคซีนที่มีใช้หมดแล้ว และจะเปลี่ยนไปใช้วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอของไฟเซอร์-ไบออนเทคในโครงการของประเทศแทน ในคำแถลงทางออนไลน์วันศุกร์ ไครีชี้แจงว่า วัคซีนซิโนแวคส่วนเกินจะยังคงมีไว้ให้สำหรับผู้ที่อาจมีความกังวลเกี่ยวกับการแพ้วัคซีนชนิดอื่นๆ "ไม่มีปัญหาอะไรเรื่องประสิทธิภาพของซิโนแวค" เขายืนยัน

    มาเลเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อต่อจำนวนประชากรสูงที่สุดในภูมิภาคนี้ แต่ก็มีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 สูงเช่นกัน ขณะนี้มีประชากรวัยผู้ใหญ่ประมาณ 39% ได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส

    เมื่อวันศุกร์ มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมง เพิ่มอีก 12,541 ราย ทำให้จำนวนสะสมของประเทศเพิ่มเป็น 893,323 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 6,728 ราย

    ไครีกล่าวอีกว่า มาเลเซียกำลังพิจารณาจะซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติม เผื่อกรณีที่ขาดแคลนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่จะต้องได้รับจากไทย แต่เขาระบุว่ารัฐบาลมาเลเซียจะขอคำรับรองจากไทยว่า การจัดส่งจะไม่หยุดชะงัก หลังจากไทยกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า กำลังพิจารณาจำกัดการส่งออกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในไทย เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในประเทศก่อน.