กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เผยเมื่อวันศุกร์ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่เป็นการแพร่เชื้อภายในประเทศเป็นครั้งแรก และเสียชีวิตแล้ว 1 ราย หวั่นจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งพรวด รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์ประชาชนมากกว่า 3 ล้านคนในพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อ

แฟ้มภาพ ชาวฟิลิปปินส์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เมืองบาตังกัส (Dante Dennis Diosina Jr./Anadolu Agency via Getty Images)

    รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาในประเทศครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่เป็นคนงาน 2 รายที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และโอมาน แต่ในคำแถลงของมาเรีย โรซาริโอ เบร์เกย์เร ปลัดกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ เมื่อวันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม ยืนยันว่า พบการแพร่เชื้อเดลตาภายในชุมชนของฟิลิปปินส์แล้ว

    คำแถลงเมื่อวันศุกร์กล่าวว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาในประเทศแล้ว 16 ราย โดยจากการวิเคราะห์ลำดับจีโนมสัปดาห์นี้ชี้ว่า 11 รายเป็นการแพร่เชื้อในชุมชน โดย 2 รายพบในภูมิภาคมะนิลา หนึ่งรายเสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลในกรุงมะนิลาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน กลุ่มผู้ติดไวรัสสายพันธุ์เดลตาจากการติดเชื้อในชุมชนมี 5 คนที่ติดเชื้อแบบกลุ่มหรือคลัสเตอร์ในเมืองคากายันเดโอโรบนเกาะมินดาเนา ทั้งหมดหายจากโรคแล้ว

    ส่วนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาอีก 5 คน เป็นชาวฟิลิปปินส์ที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาตาร์ และอังกฤษ ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน

    โรซาริโอ เบร์เกย์เร กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อเหล่านี้ติดเชื้อระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่ามีการติดตามและจัดการอย่างเหมาะสม ขณะนี้รัฐบาลเริ่มเตรียมพร้อมระบบสาธารณสุข เช่นเตียงคนไข้และออกซิเจน เพื่อรับมือแล้ว หากเกิดกรณีมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ด้านซินเธีย ซาโลมา ผู้อำนวยการศูนย์จีโนมฟิลิปปินส์ ตอบคำถามเอเอฟพีถึงสาเหตุที่การตรวจพบล่าช้าว่า เป็นเพราะศักยภาพในการดำเนินการมีอย่างจำกัด และต้องให้ความสำคัญกับตัวอย่างที่ได้จากพื้นที่ที่ระบาดหนักก่อน บางภูมิภาคก็ส่งตัวอย่างมาล่าช้าด้วย

    มีประชาชนมากกว่า 3 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา และรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์จนถึงสิ้นเดือนนี้ ได้แก่ จังหวัดอีโลอีโลในภาคกลาง, เมืองคากายันเดโอโรและเมืองกีโงอกในภาคใต้ ประชาชนต้องอยู่บ้าน, ธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องหยุดดำเนินกิจการ และงดจัดกิจกรรมทางศาสนา

    แม้ฟิลิปปินส์จะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วเกือบ 1.5 ล้านคน เสียชีวิต 26,314 คน มากเป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซีย แต่หลายเดือนมานี้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจากช่วงพีคในพฤษภาคม-เมษายน เหลือราววันละ 5,000-6,000 คน ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ของประเทศผ่อนคลายข้อกำหนดควบคุมโรค แม้ว่าจะยังบังคับให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยและเฟซชีลด์ในที่สาธารณะอยู่ก็ตาม

    การพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาในชุมชนของฟิลิปปินส์เกิดขึ้นในช่วงยามที่ฟิลิปปินส์ยังต้องดิ้นรนกับโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชากร 110 ล้านคน ท่ามกลางปัญหาวัคซีนไม่เพียงพอและความลังเลของประชาชน มีชาวฟิลิปปินส์แค่ 4.3 ล้านคน หรือ 3.9% ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว อีกมากกว่า 10 ล้านได้ฉีดเข็มแรก.