ศบค.เห็นชอบใช้วัคซีนสูตรผสมบูสเตอร์แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดซิโนแวคเข็มแรก กระตุ้นเข็มสองด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ยันองค์การอนามัยโลกก็ให้การยอมรับ ปลัด สธ.จ่อร่อนหนังสือแจกแจงจุดฉีดให้เข้าใจแนวทางกับปรับสูตรให้ชัดเจน "หมอบุญ" อ้าง กลต.สั่งห้ามพูดเรื่องซื้อวัคซีนเกรงปั่นหุ้น โยนถามบริษัททนายตัวแทนไฟเซอร์ "THG" แจง กลต.ซื้อ mRNA จริง "เลขาฯ สภากาชาดไทย" แจ้ง อบจ.รีบส่งยอดจอง "โมเดอร์นา" ฉีด ปชช.กลุ่มเปราะบางฟรี 1 ล้านโดส "วิโรจน์" ชม "สาธิต" กล้าพูดความจริงแอสตร้าฯ เบี้ยวส่งวัคซีน ยุ ปชป.เลิกพายเรือให้ประยุทธ์
    เมื่อวันศุกร์ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันตอนหนึ่งว่า ในการประชุม ศบค.วาระพิเศษวันนี้ ที่ประชุมมีข้อสรุปในเรื่องของวัคซีน โดยพูดคุยถึงวัคซีนที่เป็นการกระตุ้นหรือบูสเตอร์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มก่อนหน้านี้ สามารถอนุญาตให้ฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หรือวัคซีนเทคโนโลยี mRNA ในส่วนของประชาชนที่ประชุมก็มีข้อสรุปว่า สามารถใช้ซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 และกระตุ้นเข็มที่ 2 ด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 
    "เป็นมติของที่ประชุมให้สามารถใช้วัคซีนสูตรผสมได้  เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้มีการรับฟังการศึกษาจากหลายหน่วยงานเกี่ยวกับการใช้วัคซีนผสมต่างชนิด ซึ่งประสิทธิภาพการควบคุมโรคเป็นไปอย่างน่าพอใจ และองค์การอนามัยโลกซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทยก็ให้การยอมรับ" พญ.อภิสมัยกล่าว
    พญ.อภิสมัยกล่าวด้วยว่า ยอดฉีดวัคซีนเพิ่มเติม  289,998 โดส ทำให้มียอดสะสม 13,823,355 โดส
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ศบค.วาระพิเศษ ได้พูดถึงการบริหารจัดหาวัคซีนว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.ถึงวันที่ 31 ส.ค.จะพยายามหาให้ได้ 13 ล้านโดส โดยเป็นซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า โดยจำนวนวัคซีนที่จัดสรรจริงอาจปรับเปลี่ยนตามปริมาณวัคซีนที่ประเทศไทยจัดหาได้ ส่วนไฟเซอร์จะมีเข้ามา 20 ล้านโดส โดยจะมีบริจาคมาให้ 1.5 ล้านโดส เพิ่งจะมาถึงประเทศไทยเร็วๆ นี้ ส่วนวัคซีนโมเดอร์นานั้นสภากาชาดไทยสั่งมา 1 ล้านโดส โดยจะแจกฟรีให้ อบจ.ทั่วประเทศเพื่อนำไปฉีดให้ประชาชน    
    นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  (สธ.) กล่าวถึงกรณีมีการปรับสูตรให้วัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 โดยใช้วัคซีนสลับชนิดว่า หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติดังกล่าว แต่ยังมีสถานพยาบาลและจุดฉีดวัคซีนหลายแห่งทั่วประเทศเกิดความสับสน ทำให้การฉีดวัควีนยังไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จากนี้จะมีหนังสือจาก สธ.ส่งไปยังสถานพยาบาลต่างๆ ให้รับทราบแนวทางการใช้วัคซีนอย่างชัดเจน โดยหลักการคือต่อจากนี้จะให้ใช้ 2 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.วัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 และตามด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ห่างกันประมาณ 3-4 สัปดาห์ 2.วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 1  และแอสตร้าฯ เข็มที่ 2
    ปลัด สธ.กล่าวว่า การฉีดตรงนี้มีเหตุผลข้อมูลทางวิชาการเพื่อนำมารองรับกรณีสายพันธุ์เดลตา แต่หากมีสายพันธุ์อื่นๆ หรือมีวัคซีนชนิดอื่นๆ มาก็ต้องปรับเปลี่ยนอีก จะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และสายพันธุ์ที่ปรับเปลี่ยนกัน ส่วนกรณีบูสเตอร์โดส สธ.จะมีหนังสือแจ้งการฉีดดังกล่าว โดยฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปก่อนหน้านี้ครบ 2 เข็ม  โดยจะบูสเตอร์หลังเข็มที่ 2 แล้ว 4 สัปดาห์ ก็จะให้ดำเนินการฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ หรือวัคซีนชนิด mRNA ของรัฐ คือ วัคซีนไฟเซอร์ หากมาเมื่อไรก็สามารถฉีดต่อได้ทันที แต่ตอนนี้เรามีแอสตร้าฯ ก็จะดำเนินการฉีดด้วยแอสตร้าฯ 
THG แจ้ง กลต.ซื้อวัคซีนจริง
    ด้าน นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท  ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ว่า เรื่องการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์  20  ล้านโดสกับบริษัท ไบโอเอ็นเทค ในเยอรมนี เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) สั่งห้ามให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการปั่นหุ้น ส่วนเรื่องรายละเอียดเรื่องสัญญาขณะนี้ อยู่ที่บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด ทั้งหมด รวมกว่า 40 หน้า ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทสำนักทนายรายใหญ่ แต่เป็นตัวแทนหลักของไฟเซอร์ทั่วโลก
          “สัญญาอยู่กับคุณพีระพันธ์ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ ทั้งหมด 40 กว่าหน้า เขาเป็นตัวแทนของไฟเซอร์หลักทั่วโลก และเป็นทนายรายใหญ่ของโลก ผมไม่พูดเรื่องนี้แล้วเพราะ กลต.เดี๋ยวจะกลายเป็นปั่นหุ้นไป” 
    ขณะที่ ดร.สุวดี พันธุ์พานิช เลขานุการบริษัท ธนบุรี  เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ทำหนังสือชี้แจงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ตามที่นักลงทุนจำนวนมากได้ให้ความสำคัญกับข่าวการเจรจานำเข้าวัคซีนโควิด-19 เทคโนโลยี  mRNA ของ THG โดยมีข่าวที่อาจก่อให้เกิดความสับสน เนื่องจากมีการสอบถามไปยังบริษัทผู้ผลิตวัคซีนนั้น  THG ได้มีการตกลงซื้อวัคซีนจริง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านเอกสารกับตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ ในส่วนของระยะเวลาหากมีความชัดเจนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เนื่องจากยังต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น THG ในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา (12-15 ก.ค.64) เพิ่มขึ้น 7.69% หรือ 2.25  บาท มาอยู่ที่ 31.50 บาทต่อหุ้น ระหว่างทางปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 34.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 17.94% หรือเพิ่มขึ้น  5.25 บาท ขณะที่ราคาซื้อขายวันที่ 16 ก.ค.ยังเคลื่อนไหวในแดนบวกที่บริเวณ 32.75 บาท (14.30 น.) 
    นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อติดตามสอบถามถึงการให้ข่าวของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เกี่ยวกับความคืบหน้าวัคซีนและการเคลื่อนไหวราคาหุ้นนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการตรวจสอบดูแลการซื้อขายเป็นปกติอยู่แล้ว และมีกระบวนการดูแลและป้องกันการซื้อขายที่ผิดไปจากสภาพปกติ หรือการส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะที่ไม่เหมาะสม หากตรวจพบก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ขอให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ 
อบจ.จองโมเดอร์นาฟรี 1 ล้านโดส
    นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เปิดเผยว่า วัคซีนที่สภากาชาดไทยจัดซื้อเป็นวัคซีนทางเลือกแบบ  mRNA ซึ่งสภากาชาดไทยประสานกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนโมเดอร์นาตั้งแต่เดือนเมษายน แต่บริษัทระบุในขณะนั้นว่าจะทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ ซึ่งล่าสุดองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะทำสัญญาซื้อขายจำนวน 5 ล้านโดส      โดย อภ.แจ้งว่าจะกันไว้ให้สภากาชาดไทย 1 ล้านโดส ส่วนอีก 4 ล้านโดสขึ้นกับ อภ.ว่าจะจัดสรรให้หน่วยงานใด ทั้งนี้บริษัทแจ้งว่าจะส่งมอบได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้  เมื่อได้รับแล้วสภากาชาดไทยคาดว่าจะดำเนินการฉีดวัคซีนได้ช่วงปลายปี โดยฉีดให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง  หญิงมีครรภ์ป่วย ผู้ดูแลประจำศูนย์เด็กเล็ก และบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ห่างไกลซึ่งยังไม่ได้รับวัคซีน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
    นอกจากนี้ เลขาธิการสภากาชาดไทยได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชจังหวัดทุกจังหวัด ขอความร่วมมือในการแจ้งจองวัคซีนสำหรับฉีดให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มอื่นๆ โดยไม่คิดมูลค่า โดยให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่มีความประสงค์อยากซื้อวัคซีนเพื่อนำไปฉีดให้ประชาชนเร่งแจ้งยอดและส่งยอดกลับมายังสภากาชาดไทยภายในวันที่ 21 ก.ค.นี้ โดยเงื่อนไขสำคัญของการใช้คือฉีดให้ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า
    ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นาว่า ขณะนี้ได้มีการจัดสรรโควตาวัคซีนให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ 285 แห่งไปแล้ว และในวันที่ 16  ก.ค.64 อภ.จะได้เริ่มทยอยลงนามในสัญญาซื้อขายและรับชำระเงินค่าวัคซีนจากโรงพยาบาลต่างๆ โดยกำหนดลงนามและรับชำระเงินให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 21 ก.ค.64  หลังจากนั้นประมาณวันที่ 23 ก.ค.64 อภ.จะลงนามในสัญญาซื้อขายกับบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ตัวแทนของโมเดอร์นา ซึ่งเป็นการลงนามในสัญญาได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ซึ่งวัคซีนโมเดอร์นา 5 ล้านโดสยังคงมีเข้ามาในช่วงแรกของไตรมาส 4 ปี 64 และไตรมาส 1 ปี 65  
    นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ระบุว่า สัญญาที่รัฐบาลได้ทำกับแอสตร้าเซน เนก้าไม่ได้ระบุว่าต้องส่งมอบเมื่อใดนั้นว่า รัฐบาลไม่น่าจะได้รับวัคซีนเพื่อนำมาใช้ปกป้องชีวิตของประชาชนคนไทยได้ครบ 61 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2564 ซึ่งถ้าสัญญาไม่ได้ระบุระยะเวลาในการส่งมอบที่ชัดเจน ก็ไม่รู้ว่าจะถูกเลื่อนการส่งมอบอีกหรือไม่ แม้จะรู้สึกคับแค้นและเสียใจที่ได้รับทราบข่าว แต่ก็ยังดีที่วันนี้ได้รู้ความจริงจากปากของนายสาธิต ที่กล้านำเอาความจริงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกฯ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ไม่ยอมบอกกับประชาชน เข้าใจว่านายสาธิตคงต้องเผชิญแรงกดดันจากทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และนายอนุทินเป็นอย่างมาก  ในเมื่อประชาชนได้รู้ความจริงแล้วว่ารัฐบาลนั้นเชื่อถือไม่ได้อีกแล้ว ต่อจากนี้ไปประชาชนคงต้องเน้นพึ่งพาตนเองให้มากขึ้น 
    “ผมขอตั้งคำถามเชิงให้กำลังใจไปยังนายสาธิตว่า  พรรคประชาธิปัตย์ยังจะยอมให้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชนต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ จริงๆ หรือ พรรคประชาธิปัตย์ทำได้แค่เบือนหน้าหนี กัดริม ฝีปากล่าง และแอบไปร้องไห้ปาดคราบน้ำตากับภาพความทุกข์ยากสิ้นหวังของประชาชน” นายวิโรจน์กล่าว
    นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ขอสนับสนุนรัฐบาลในการเจรจากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้จัดส่งวัคซีนให้ไทยตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลไทยแจ้งไว้ตั้งแต่แรก เพราะจากการตกลงล่วงหน้าระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ในการจองซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ารวม 61 ล้านโดส พร้อมกับส่งไทม์ไลน์การขอให้จัดส่งวัคซีนให้ไทยตั้งแต่แรก รัฐบาลไทยต้องเลือกดำเนินการตามกฎหมายที่มี เพื่อบังคับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้ดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้".