งานเข้า! "ดร.แรมโบ้" แจ้งกองปราบฯ จับ "เจ๊หน่อย" หารัฐบาลฆาตกร ยกคดี "จตุพร" ติดคุกเพราะหมิ่นประมาท "อภิสิทธิ์" ขณะ "สุดารัตน์" เคลื่อนไหวเอาใจประชาชนต่อ ด้าน ส.ส.เพื่อไทยแบไต๋ "ทักษิณ" กลับมาได้ตามรัฐธรรมนูญ ให้อำนาจของพระมหากษัตริย์ ที่ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการอภัยโทษ
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ที่กองปราบปราม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษา กรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้าแจ้งความเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 116 และมาตรา 328 ที่กองปราบปรามกล่าวหารัฐบาลฆาตกร กรณีเปิดแคมเปญเชิญชวนประชาชนให้ร่วมกันลงชื่อฟ้องรัฐบาลฆาตกร เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์อันพึงได้รับจากรัฐในฐานะประชาชนท่ามกลางวิกฤติโควิด
นายเสกสกลระบุว่า คุณหญิงสุดารัตน์ ตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่ยังเล่นการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ ยุยง ปลุกปั่น ใส่ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยก ล้มล้างการปกครอง ในสภาวะวิกฤติ ซึ่งเป็นวิกฤติของคนทั้งโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย โดยรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำลังเร่งแก้ไขปัญหา รวมถึงไม่ได้ต้องการให้เกิดความสูญเสีย
คดีในลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. แจ้งความกล่าวหาดำเนินคดีว่าเป็นฆาตกร จากกรณีการสลายการชุมนุม แต่ศาลพิพากษาตัดสินให้นายจตุพรถูกจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท
พร้อมกับเทียบเคียงในสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงสุดารัตน์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เกิดการระบาดของไข้หวัดนกปี 46-49 มีการปกปิดข้อมูล มีประชาชนเสียชีวิต อีกทั้งการฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติดและมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กรือเซะ ตากใบอีกเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครออกมาแจ้งความดำเนินคดี พร้อมย้อนถามว่ารัฐบาลนายทักษิณและคุณหญิงสุดารัตน์เป็นฆาตกรด้วยหรือไม่
นายเสกสกลยืนยันว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ มาในนามส่วนตัว และในนามตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ และไม่ได้แก้เกี้ยวหรือกลัวเสียหน้า พร้อมยืนยันไม่ใช่เกมการเมือง เพราะตนเองไม่มีเวลาในการเล่นการเมือง แต่เป็นการใช้สิทธิ์ปกป้องตนเองตามกฎหมาย และมองว่าคนที่เล่นการเมืองคือคุณหญิงสุดารัตน์มากกว่าที่มาออกแคมเปญเช่นนี้
เขายังระบุกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ประกาศจะกลับประเทศไทยนั้น ยืนยันว่านายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สามารถกลับมายังประเทศไทยได้ตลอดเวลา แต่ต้องมีเงื่อนไขที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและรับโทษ รวมไปถึงจะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่ได้ทำไว้กับประชาชนในโครงการรับจำนำข้าวและโครงการอื่นๆ
ขณะที่มีความเคลื่อนไหวของคุณหญิงสุดารัตน์ ยังคงออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด อ้างว่ายิ่งนานวันยิ่งชัดว่าประชาชนจะอดตาย ก่อนได้วัคซีนป้องกันโรคด้วยซ้ำ ผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อย รวมถึงพี่น้องประชาชนที่สายป่านไม่ยาว อาจจะถึงคราวต้องอดตาย เหมือนถูกบังคับให้กลั้นหายใจ เวลานี้กลั้นกันไม่ไหวแล้ว เขาอยากได้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของธุรกิจที่เดินไปพร้อมกับการมีชีวิตที่ดีมีความหวัง ไม่ใช่ไร้ทิศทาง จะตรวจโควิดหวิดยังต้องนอนรอความหวังข้ามคืน แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการผ่าน ครม.มาแล้วในวันนี้ แต่ยืนยันข้อเสนอการเยียวยา จากเงินกู้ 5 แสนล้านบาทมาช่วยพี่น้องคนไทยที่เดือดร้อนให้จ่ายค่าจ้างลูกจ้างของธุรกิจรายย่อย 75% ของรายได้ที่หายไป
ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ให้จ่ายชดเชยเดือนละไม่ต่ำกว่า 7,000 บาท งดเก็บค่าน้ำค่าไฟบ้านที่ใช้ไม่เกิน 1,000 บาทถึงสิ้นปี (ไม่ใช่แค่ 2 เดือน) พักชำระหนี้ ทั้งค่าผ่อนรถและผ่อนบ้าน อย่างน้อย 6 เดือน ข้อเสนอเหล่านี้ 70% สามารถทำได้ทันที อยากขอร้องรัฐบาลให้เร่งดำเนินการ
"อยากให้รัฐบาลเห็นใจ รัฐบาลเลี่ยงใช้คำว่าล็อกดาวน์ แต่ไม่ว่าคุณจะใช้คำว่าอะไร ผลกระทบที่เกิดขึ้นมันไปตกอยู่กับประชาชน จนถึงขั้นแยกได้ว่าไม่มีจะกิน มันถึงเวลาแล้วค่ะที่ท่านต้องเอาหัวใจมาทำงาน ต้องเอาหัวใจไปสอดส่องดูแลประชาชนว่าเขาเดือดร้อนแค่ไหน เขาไม่ได้นั่งสบายๆ รอกินเงินเดือน หรือจะตัดเงินเดือน 2-3 เดือน ไม่ได้เป็นผลอะไรกับนายกฯ หรอก แต่วันนี้เงิน 5 บาท 10 บาท ที่ควรจะซื้อกินแต่ละวันยังไม่มี" คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ตอบโต้นายเสกสกลว่า รัฐบาลไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย จึงเป็นคู่ความไม่ได้ ดังนั้นคำพูดที่ว่า “รัฐบาลฆาตกร” ก็ดี หรือ “รัฐบาลส้นตีน” ก็ดี หรือ “รัฐบาลเฮงซวย” ก็ดี ไม่อาจเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทได้เลย ไม่เชื่อ ดร.เสกสกลลองคลิกเข้าไปดูคำพิพากษาฎีกาที่ 724/2490 ที่ได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานแล้ว
สิ่งที่คุณหญิงกำลังรณรงค์คือการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้รณรงค์ให้เรียกโจรปัญญาน้อยมายึดอำนาจสร้างความเสียหายให้บ้านเมือง จึงเป็นตัวอย่างที่ดีที่ท่าน ดร.ควรสนับสนุน ถ้ารัฐบาลทำงานดี จะมีคนมาเข้าชื่อเป็นล้านคนหรือครับ เอาสมองของคนทั่วไปก็คิดออก ทำไมสมองอย่างท่าน ดร.จึงคิดไม่ออก
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พี่โทนี่ บอกเสียงดังและฟังชัดว่าไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ วันนี้ขอแค่ พล.อ.ประยุทธ์ติดต่อขอปรึกษาจะให้ Work from Dubai ทางซูมก็พร้อมช่วย แนะต้องพยายามแก้ให้ เจ็บแล้วจบ หัวใจสำคัญอยู่ที่การตรวจ รัฐบาลต้องทุ่มเรื่องการตรวจให้มากกว่านี้ และทุ่มเรื่องวัคซีน อย่าปล่อยให้ประชาชนต้องอยู่ในภาวะหวาดกลัวเพราะขาดวัคซีน พล.อ.ประยุทธ์แก้ปัญหาโควิดในประเทศแบบลิงแก้แห พอจำนวนผู้ป่วยคุมไม่ได้ ไม่เคยแก้ต้นเหตุ แก้ที่ปลายเหตุทุกครั้ง คนซวยคือประชาชน ล็อกดาวน์ทำคนขาดรายได้หนัก ปิดแคมป์คนงานวันนี้คนยังไม่ได้เงินเยียวยา อยู่อย่างลำบาก ปิดหนทางทุกอย่างยิ่งทำให้ประชาชนสาหัส ต้องล็อกดาวน์อีกกี่ครั้ง
ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่านายทักษิณ จะได้กลับหรือไม่ อย่างไร เมื่อไหร่ แต่พี่น้องประชาชนที่เคยสัมผัสการบริหารงานของท่านมาแล้ว ย่อมอยากให้นายทักษิณ กลับประเทศไทย เพื่อมาช่วยแก้ปัญหาให้ประเทศในขณะนี้ที่กำลังเจอวิกฤติอยู่ นายทักษิณเป็นคนมีความสามารถ ควรได้ใช้ความสามารถตรงนั้นมาเป็นประโยชน์ต่อประเทศไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เมื่อถามว่า นายทักษิณมีคดีความติดตัวอยู่แบบนี้ ต้องผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า ถ้าจะออกเป็นกฎหมายคงใช้เวลานาน แต่มีหลายช่องทางที่จะกลับมาได้ตามรัฐธรรมนูญ เช่น อำนาจของพระมหากษัตริย์ที่ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการอภัยโทษ ส่วนจะเป็นไปได้อย่างไรนั้น ไม่ทราบ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์วิกฤติโควิดรอบด้าน ส่งผลทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองนอกสภา ในสภา ความเดือดร้อน เสียงร้องไห้ทั่วทุกหัวระแหงของประเทศ จะกดดันพรรคร่วมรัฐบาลอย่างหนัก จนถึงจุดที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากเกาะ พล.อ.ประยุทธ์ จนจมลงไปก้นทะเลด้วยกัน ปรากฏการณ์สละเรือ กระโดดหนีตายจะเกิดขึ้น ถึงเวลานั้น แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะอยากอยู่ต่อแค่ไหนก็อยู่ไม่ได้
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความกรณีการเสียชีวิตของคนไทยจากไวรัสโควิดระบาดมากกว่า 3,000 คน โดยระบุว่า "ตัวเลขยอดรวมผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศไทยทะลุ 3,000 คนแล้วในวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 แม้ตัวเลขจะฟังดูไม่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า “3,032” ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข แต่มันคือชีวิตของพ่อแม่พี่น้องลูกหลานใครบางคนที่ต้องสูญเสียไป
"อย่าลืมว่าตัวเลขผู้เสียชีวิต 3,000 รายนั้น มาจากเชื้อโรคโควิดเท่านั้น ไม่นับถึงผู้ที่ฆ่าตัวตายจากปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลเยียวยาไม่ทั่วถึง ปัญหาเตียงล้นจนมีผู้ป่วยบางคนทนไม่ไหวต้องฆ่าตัวตายเพราะทรมาน หรืออีกหลายคนที่ฆ่าตัวตายเพราะรับไม่ได้กับการสูญเสียบุคคลที่รักจากโควิดไป".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |