ยิงยกครัวบาโด ดับคาสวนยาง ‘ภ.4-ตร.’เร่งล่า


เพิ่มเพื่อน    

 คนร้ายใช้เอ็ม 16 ปริศนาปลิดชีพไทยมุสลิมตระกูลบาโด 4 ศพกลางสวนยางสุคิริน ขณะมาร่อนทองแม่น้ำสายบุรี พร้อมเกิดเหตุลอบยิงอีก 2 ราย  รอง กก.อิสลามปัตตานีกระสุนฝังหัวสาหัส-"บัณฑิตอาสา" หนองจิกถูกจ่อยิงดับ

    เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.61 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงชาวบ้านตระกูลบาโดเสียชีวิต 4 คน ประกอบด้วย 1.นายมะยูโซ๊ะ บาโด อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192/7 ม.12 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบิดา 2.นายฮีลมี บาโด อายุ 23 ปี บุตรชาย 3.ด.ช.มูหมัดฮาดิส บาโด อายุ 16 ปี บุตรชาย และ 4. นายมะรอซาตี ปอ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกเขย ในสวนยางพาราบ้านน้ำตก ม.3 ต.สุคิริน เหตุเกิดในช่วงเวลา 21.00 น. ของคืนวันที่ 7 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุในเบื้องต้น และนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลสุคิริน ซึ่งทั้ง 4 คนมีร่องรอยถูกกระสุนปืนเอ็ม 16 พรุนไปทั้งร่าง
    ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยต้องนั่งรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้นไปผ่านเนินเขาที่สูงชัน 2 ลูก ซึ่งมีระยะทางประมาณ 2 กม. จึงถึงจุดเกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าผ่านสวนยางพาราไปยังจุดเกิดเหตุอีก 100 เมตร ซึ่งอยู่ข้างริมตลิ่งของแม่น้ำสายบุรีที่เป็นจุดพบศพ จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 18 ปลอก และกองเลือดจำนวนหนึ่ง และพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตจอดอยู่อีก 2 คัน คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ คริสตัน สีดำ ทะเบียน กตล 10 ปัตตานี และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สีดำ ทะเบียน กษฉ 208 นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
    จากการสอบสวนทราบว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมา นายพงศ์ธร ยะโก๊ะ เพื่อนของนายมะยูโซ๊ะ ผู้เป็นพ่อ ได้รับการไหว้วานจากครอบครัวของตระกูลบาโด ให้เดินทางไปดูนายมะยูโซ๊ะและลูก รวมทั้งลูกเขย ซึ่งได้เวลาเปิดปอซอหรือรับประทานอาหารละศีลอดแล้ว และเลยเวลามานานยังไม่กลับ นายพงศ์ธรจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปยังจุดที่นายมะยูโซ๊ะและลูกรวมทั้งลูกเขยที่เดินทางไปร่อนทอง และได้พบว่าทั้ง 4 คนถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตแล้ว จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปขอความช่วยเหลือ ร.ท.สุรชาติ ศาลารักษ์ ผบ.ร้อย ทพ.1104 ซึ่งตั้งฐานอยู่หน้าริมถนนใหญ่ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติให้รับทราบ
    ส่วนสถานที่ที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนได้มาร่อนทอง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 เสียชีวิตนั้นประมาณ 400-500 เมตร เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะเดินเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากต้องเดินผ่านริมตลิ่งของแม่น้ำสายบุรีที่อาจจะเกิดอันตรายได้ จึงไม่สามารถที่จะเดินเข้าไปตรวจสอบ แต่ทราบจากการพูดต่อๆ กันมาของชาวบ้านว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนจะใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กในการดูดทรายในแม่น้ำสายบุรี เพื่อคัดกรองเศษชิ้นส่วนทอง โดยผ่านการร่อนด้วยมือ ซึ่งสถานที่ดังกล่าวผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนและมีชาวบ้านดำเนินการแบบนี้หลายราย
    ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปานบุตรทอง ผกก.สภ.สุคิริน เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ตั้งประเด็นแนวทางในการสืบสวน 2 ประเด็น คือ 1.จากปัญหาความมั่นคง เนื่องจากฝั่งตรงกันข้ามเป็นเขตรอยต่อพื้นที่ อ.จะแนะ ซึ่งมีสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่เคลื่อนไหว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งมีอย่างน้อย 2 คน ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบปลอกและวิถีกระสุนปืนว่ามาจากปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ และคนร้ายเคยใช้นำไปก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ใดบ้าง 2.มาจากความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์การดูดเศษแร่ทองคำ ซึ่งในพื้นที่มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวหาแร่ทองคำเลี้ยงชีพอยู่แล้ว แต่ผู้เสียชีวิตถือว่าเป็นคนต่างถิ่น ที่อาจจะมาแย่งรายได้ส่วนนี้ของชาวบ้าน ที่อาจจะหาแร่ทองคำได้น้อยลง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเรียกสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงในการติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษต่อไป
    พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 ได้จัดกำลังเข้าไปทำการตรวจสอบพบราษฎรถูกยิงเสียชีวิตจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายมะยูโซ๊ะ บาโด อายุ 49 ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะและลำตัว, นายฮีลมี บาโด อายุ 23 ปี กระสุนถูกบริเวณศีรษะและลำตัว, นายมูหมัดฮาดิส บาโด อายุ 16 ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะและลำตัว และนายมะรอซาตี ปอ อายุ 36 ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะและลำตัว  จากการตรวจพบปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 14 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นไม่พบพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายและความมั่นคงในพื้นที่แต่อย่างใด สำหรับสาเหตุ อยู่ในระหว่าง การตรวจสอบและจะรายงานให้ทราบ
    กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก รวบรวมวัตถุพยานและพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มที่ก่อเหตุมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
    ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. สั่งให้ตำรวจเร่งสืบสวนหาคนร้ายยิง 4 ชายไทยเสียชีวิต บริเวณสวนป่ายางพาราแม่น้ำสายบุรี อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะเข้าไปร่อนหาทองคำ
     วันเดียวกัน เกิดเหตุลอบยิงนายอดุลย์เดช เจ๊ะแน อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.2 บ้านลาลอ (พักภายในโรงเรียน) ผู้จัดการโรงเรียนลาลอวิทยา อ.สายบุรี บริเวณถนนหน้าโรงเรียนลาลอวิทยา ทั้งนี้ นายอดุลย์เดชมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นยังไม่ทราบชนิด ถูกบริเวณสะบักหลังขวา 1 นัด และที่ศีรษะ 2 นัด อาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรีแล้ว แต่เนื่องจากอาการสาหัส จึงส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี และส่งเข้าห้องผ่าตัด เนื่องจากมีกระสุนฝังในศีรษะ 1 นัด โดยมีนายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามปัตตานี คณะกรรมการที่ปรึกษา และประชาชน ลูกศิษย์จำนวนมาก มาให้กำลังใจ 
    จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ถูกยิงเป็นผู้จัดการโรงเรียนลาลอวิทยา และรองประธานกรรมการอิสลามปัตตานี และประธานฝ่ายกิจการฮาลาลของปัตตานี และรองประธานปัญญาชนมุสลิมปัตตานี  เป็นคนเรียบร้อย เป็นคนขยันทำงาน โดยเฉพาะงานการขับเคลื่อนของคณะกรรมการอิสลามปัตตานีชุดใหม่ ไม่ชอบความขัดแย้ง และเป็นนักศึกษาสถาบันปกเกล้า หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุขรุ่น 2 (4 ส 2) รุ่นเดียวกับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนเกิดเหตุได้เดินกลับจากละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด และกำลังจะกลับบ้านพักภายในโรงเรียน พอเดินมาถึงหน้าโรงเรียน ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนปลอมเป็นผู้หญิง โดยสวมใส่ผ้าคลุมศีรษะและปิดหน้ารออยู่ก่อนแล้ว เมื่อนายอดุลย์เดชผู้บาดเจ็บผ่านมาถึง 1 ใน 2 คนร้ายจึงได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงทันที และใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะหลบหนีไป ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน ยังไม่สามารถบอกสาเหตุได้ เพราะเป็นคนเรียบร้อย ไม่เคยมีปัญหากับใคร
    ส่วนกรณีเหตุยิงกันตายบนถนนทางหลวงชนบท ม.6 บ้านปะกาจินอ ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หน้ามัสยิดปะกาจินอ เมื่อกลางดึกวันที่ 7 มิ.ย.61 พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อว่า นายอิสมาแอ ดอเลาะ อายุ 33 ปี ที่อยู่ 4/1 ม.6 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี   เป็นเจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้างในหมู่บ้าน และเป็นบัณฑิตอาสาตำบลดอนรัก มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม.เข้าที่ศีรษะและลำตัวรวม 3 นัด และที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนและปลอกกระสุน อาวุธปืน 9 มม. รวม 2 ชิ้น จึงเก็บเป็นหลักฐาน
     จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ หลังจาก ผู้ตายละหมาดเดือนรอมฎอนที่มัสยิดเสร็จแล้ว ได้ขี่จักรยานยนต์เพื่อจะกลับบ้าน พอขี่มาได้ประมาณ 50เมตร ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบ คนร้ายที่ซ้อนท้ายใช้อาวุธปืน 9 มม. กระหน่ำยิงผู้ตาย 2 นัดล้มลง และคนร้ายได้ลงไปยิงซ้ำที่ศีรษะอีก 1 นัดอย่างใจเย็น จนมั่นใจว่าเสียชีวิตก่อนขับหลบหนีไป ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบเบื้องต้นว่าขัดแย้งผลประโยชน์ส่วนตัวหรือสร้างสถานการณ์ ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งพิสูจน์ต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"